การกินและอาการไม่สบาย
การไม่สบายเกิดได้จากหลายๆปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน การที่นานๆสบายที อาจจะเพราะภูมิคุ้มกันตกในบางช่วงทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น หรือการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการนอนไม่เพียงพอ ล้วนส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอและป่วยได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่สบายบ่อยๆ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้ ตามไปอ่านต่อเรื่องเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันได้ที่แท็ก ภูมิคุ้มกัน
ไม่สบาย ห้ามกินอะไร
ในช่วงที่ร่างกายไม่สบาย ระบบต่างๆในร่างกายจะทำงานหนักขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและฟื้นฟูร่างกาย การรับประทานอาหารบางชนิดอาจส่งผลเสียต่ออาการป่วย จึงเป็นที่มาของบทความ ไม่สบาย ห้ามกินอะไร เนื่องจากอาหารบางชนิดอาจย่อยยาก ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น หรืออาจมีสารอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายในขณะนั้น เช่น ไขมันสูง น้ำตาลสูง หรือโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและฟื้นตัวได้ช้าลง นอกจากนี้ อาหารบางชนิดยังอาจกระตุ้นให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น อาหารรสจัดอาจทำให้เจ็บคอหรือระคายเคืองกระเพาะอาหาร ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมในช่วงที่ไม่สบายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
1.แอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่เป็นไข้หรือไม่สบายควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นระบบที่ร่างกายใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค เมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจะยิ่งต่อสู้กับอาการป่วยได้ยากขึ้น นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ ซึ่งจำเป็นต่อการฟื้นตัวจากอาการป่วย ในบางกรณี แอลกอฮอล์อาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาอาการป่วย ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงหรือส่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างที่ป่วย
แต่มักจะมีความเชื่อว่า ไม่สบายให้กินเหล้าเพื่อฆ่าเชื้อ
ความเชื่อที่ว่าดื่มแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคในร่างกายนั้นเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง ถึงแอลกอฮอล์จะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อได้บ้าง แต่การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ทำให้แอลกอฮอล์ในเลือดมีความเข้มข้นมากพอที่จะฆ่าเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากยังส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร่างกายกำลังอ่อนแอจากการเจ็บป่วย
แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ และอาจมีปฏิกิริยากับยาที่รับประทานอยู่ได้ ดังนั้น การดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ไม่สบายจึงไม่เป็นผลดีต่อร่างกายและอาจทำให้อาการป่วยแย่ลงได้
2.อาหารที่มีไขมัน
ในช่วงที่ร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคในช่วงที่ไม่สบาย ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานหนักขึ้นเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ การทานอาหารที่มีไขมันสูงจะยิ่งเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานในการย่อยไขมันมากขึ้น แทนที่จะนำพลังงานไปใช้ในการรักษาอาการป่วย นอกจากนี้ อาหารที่มีไขมันสูงยังอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย ทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นหรือหายช้าลงได้ ดังนั้น ในช่วงที่เป็นไข้หรือไม่สบาย ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีไขมันต่ำ เพื่อให้ร่างกายสามารถนำพลังงานไปใช้ในการฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่
แต่สามารถทานอโวคาโด หรืออาหารที่มีไขมันดีได้ แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ
อาหารที่มีไขมันที่ควรเลี่ยง
- ของทอด: เช่น ไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์, กล้วยแขก
- อาหารฟาสต์ฟู้ด: เช่น เบอร์เกอร์, พิซซ่า, นักเก็ตไก่
- เนื้อสัตว์ติดมัน: เช่น เนื้อหมูสามชั้น, เนื้อวัวติดมัน, หนังไก่
- แกงกะทิ: เช่น แกงเขียวหวาน, แกงมัสมั่น, แกงพะแนง
- ขนมหวาน: เช่น เค้ก, คุกกี้, โดนัท
3.อาหารที่มีน้ำตาลสูง
ไม่สบาย ห้ามกินอะไรเอาใกล้ๆตัวก็น้ำหวาน ขนมหวาน ที่ทานกันเป็นประจำ การทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงในตอนที่ไม่สบายอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง เช่น น้ำตาลสามารถกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคลดลง ส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการป่วยได้ช้าลง นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรียและยีสต์ ซึ่งอาจทำให้การติดเชื้อในร่างกายรุนแรงขึ้นได้ อีกทั้ง การทานน้ำตาลยังอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและรู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงในช่วงที่ไม่สบาย
อาหารที่มีน้ำตาลสูงที่ควรเลี่ยง
- ขนมหวาน: เช่น เค้ก, คุกกี้, ลูกอม, ช็อกโกแลต
- น้ำหวานและเครื่องดื่มรสหวาน: เช่น น้ำผลไม้สำเร็จรูป, ชาเย็น, กาแฟเย็น,น้ำอัดลม
- ผลไม้กระป๋อง
4.นมที่มีแลคโตส
ในช่วงที่ร่างกายกำลังต่อสู้กับอาการไข้หรือไม่สบาย ระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานหนักขึ้นเพื่อกำจัดเชื้อโรค ส่งผลให้การทำงานของเอนไซม์แลคเตสซึ่งทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมลดลง หากร่างกายได้รับแลคโตสในปริมาณที่มากเกินกว่าที่เอนไซม์แลคเตสจะย่อยได้ อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้อง ซึ่งจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและฟื้นตัวได้ช้าลง ดังนั้น เพื่อลดภาระของระบบย่อยอาหารและให้ร่างกายสามารถนำพลังงานไปใช้ในการรักษาอาการป่วยได้อย่างเต็มที่ ควรหลีกเลี่ยงหรืองดการดื่มนมที่มีแลคโตสในช่วงที่ป่วยเป็นไข้หรือไม่สบาย
5.อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปมักมีปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันที่สูง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวจากอาการป่วย โซเดียมที่สูงเกินไปอาจทำให้ร่างกายบวมน้ำและทำให้รู้สึกไม่สบายตัวมากขึ้น ในขณะที่น้ำตาลและไขมันที่สูงจะเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ อาหารแปรรูปมักมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกายน้อยกว่าอาหารสดหรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อย ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและเลือกทานอาหารสดหรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยในช่วงที่ป่วยเป็นไข้หรือไม่สบาย
ไม่สบาย กินอะไรดี
- น้ำซุป
- ผักใบเขียว
- ชาร้อน
- น้ำมะพร้าว
- กระเทียม
อ่านต่อที่บทความ ไม่สบาย กินอะไรดี 10 อาหารนี้ กินง่าย หายป่วยเร็ว!
สรุป
ไม่สบาย ห้ามกินอะไรบ้างนั้นที่ห้ามจริงๆเลยคือ แอลกอฮอล์ เพราะส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่วนอาหารอื่นๆอย่าง อาหารที่มีไขมัน อาหารที่มีน้ำตาล นมที่มีแลคโตส และ อาหารแปรรูป เลี่ยงได้จะดีมาก แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ สามารถกินได้ แต่ให้ลดเครื่องปรุงลง ไม่มันเกิน ไม่หวานเกิน ไม่เค็มเกิน ส่วนนม อาจจะเป็นเฉพาะบางบุคคล ถ้ารู้ว่าตัวเองกินนมที่มีแลคโตสแล้วท้องเสีย ควรเลี่ยงไปทานนมอื่นๆแทน