งาขาว, งาดำ

ไขความลับเมล็ดจิ๋ว งาขาว งาดำ ต่างกันยังไง เฉลยแบบครบจบ

จำนวนคนดูหน้านี้: 207

งาขาวและงาดำ ต่างก็เป็นเมล็ดธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งในแง่ของโภชนาการ ประโยชน์ต่อสุขภาพ และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ไขความลับเมล็ดจิ๋ว งาขาว งาดำ ต่างกันยังไง เฉลยแบบครบจบ

งา เป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเพราะอุมไปด้วยประโยชน์ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า งาขาว-งาดำ ต่างกันยังไง และควรเลือกรับประทานแบบไหนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนี้กันอย่างละเอียด พร้อมให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสุขภาพของคุณ

1.ลักษณะภายนอก

งาขาว: สีขาวนวลหรือครีม เนื้อสัมผัสเนียน รสชาติอ่อนละมุนและมันเบา ๆ เมื่อผ่านการคั่วจะมีกลิ่นหอมละมุน

งาดำ: มีสีดำเข้ม เปลือกหนากว่างาขาว มีรสชาติเข้มข้นและมันกว่า เมื่อนำไปคั่วจะให้กลิ่นหอมเข้มข้นที่เด่นชัดขึ้น

สำหรับคำถาม งาขาว งาดำ ต่างกันยังไง ลักษณะภายนอกเป็นอะไรที่มองออกชัดเจนมากที่สุดเลยค่ะ

2.แหล่งที่มา

แหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิตหลัก งาขาวหรืองาครีมมักพบในแอฟริกาและอเมริกาใต้ ขณะที่งาดำมีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันเมียนมาร์ อินเดีย และจีน ถือเป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลกสำหรับการเพาะปลูกและการผลิตเมล็ดงาดำโดยในปี 2018 ทั้งสามประเทศนี้ครองอันดับ 2, 3 และ 5 ตามลำดับในด้านการผลิตเมล็ดงาดำและงาขาวทั่วโลก (2)

ประโยชน์ของงาดำและงาขาว

1.สารต้านอนุมูลอิสระ

งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่างาขาวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ

2.สุขภาพกระดูก

งาทั้งสองชนิดเป็นแหล่งของแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ดี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง อย่างไรก็ตาม งาดำมีปริมาณแคลเซียมสูงกว่างาขาวเล็กน้อย (1)

3.บำรุงหัวใจ

งาดำอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งเป็นไขมันดีที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และส่งเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง

4.สุขภาพผิวและผม

งาดำมีประโยชน์ต่อเลือด ดวงตา และเส้นผมนอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กและแมงกานีสซึ่งช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ ปริมาณแคลเซียมที่สูงในงาดำยังช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงอีกด้วย (2)

5.ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร

งาทั้งสองชนิดมีไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก แต่เมล็ดงาดำมีปริมาณไฟเบอร์มากกว่างาขาวเล็กน้อย (1)

กินงาดําทุกวัน ดีไหม

ปริมาณที่แนะนำสำหรับการบริโภคเมล็ดงาอยู่ที่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) ต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อร่างกาย โดยไม่มากเกินไปจนเกินขอบเขตที่แนะนำในแต่ละวัน (3)

งาดำช่วยเรื่องผมไหม

การบริโภคเมล็ดงาดำสามารถช่วยบำรุงรากผม ส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผม และป้องกันผมหงอกก่อนวัย รวมถึงการหลุดร่วงของเส้นผมได้ เนื่องจากงาดำอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม (4)

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลสำหรับ งาขาว งาดำ ต่างกันยังไง การเลือกรับประทาน งาดำและงาขาว ขึ้นอยู่กับความต้องการทางสุขภาพของแต่ละบุคคล และเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด แนะนำให้คั่วหรือบดก่อนนำไปใช้ในอาหาร พร้อมรับประทานอย่างหลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างของงาขาวและงาดำได้อย่างชัดเจน และสามารถเลือกรับประทานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายของคุณนะคะ