Astaxanthin อยู่ในอาหารอะไร ? กินให้ถูกเพื่อสุขภาพที่ดี

แอสตาแซนธิน สารสีแดงอันทรงพลังที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ และพร้อมมอบประโยชน์อันน่าทึ่งให้กับชีวิตของเรา ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นในการต้านอนุมูลอิสระ  แอสตาแซนธินจึงได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายด้าน  งานวิจัยต่างๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของแอสตาแซนธินในการดูแลสุขภาพ

Astaxanthin อยู่ในอาหารอะไร ? รู้แล้วกินให้ถูกเพื่อสุขภาพที่ดี

ด้วยประโยชน์อันโดดเด่นของแอสตาแซนธิน  หลายคนคงกำลังสงสัยว่า Astaxanthin อยู่ในอาหารอะไรจริง ๆ แล้ว สารต้านอนุมูลอิสระตัวนี้พบได้ในอาหารทะเลสีแดง-ส้ม ในบทความนี้เราจะไปดูว่ามีอาหารอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลยค่ะ

1. ปลาแซลมอน 

ปลาแซลมอนเป็นแหล่งที่มี Astaxanthin สูง  โดยเฉพาะแซลมอนจากธรรมชาติ เนื่องจากพวกมันกินแพลงก์ตอนและสาหร่ายสีแดงที่เป็นแหล่งกำเนิดของ Astaxanthin ในทางตรงกันข้าม แซลมอนเลี้ยงมักได้รับอาหารที่เติมสารสีแทน ทำให้ปริมาณ Astaxanthin อาจน้อยกว่า

2.ปลากะพงแดง

ปลาทรายแดงซึ่งเป็นปลาที่นิยมใช้ในอาหารญี่ปุ่น มีสารแอสตาแซนธินอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เนื้อของปลามีสีชมพูอมแดง 

3. กุ้ง 

กุ้งมี Astaxanthin ในปริมาณปานกลาง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือก เมื่อกุ้งถูกความร้อน เช่น การต้ม นึ่ง หรือย่าง เปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงเนื่องจาก Astaxanthin ถูกปล่อยออกมา

4. ปู 

ปูเป็นอีกหนึ่งแหล่งของ Astaxanthin ที่พบได้ในธรรมชาติ โดยเฉพาะ ปูอลาสก้า หรือ ปูทะเลที่กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร แม้ว่าปริมาณจะไม่สูงเท่าแซลมอนหรือไข่ปลา แต่ก็ยังเป็นแหล่งที่ดี

5. ไข่กุ้ง 

ไข่กุ้งมักพบในซูชิและอาหารญี่ปุ่น มี Astaxanthin สูงและเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพดี หากต้องการได้รับประโยชน์สูงสุด ควรเลือกแบบที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปมากเกินไป

6. สาหร่ายฮีมาโตค็อกคัส

สาหร่ายสีแดง สายพันธุ์ ฮีมาโตคอคคัส พลูวิเอลิส (Heamatococcus pluvialis)  เป็นแหล่งที่พบ  Astaxanthin มากสุดแม้ว่าสาหร่ายฮีมาโตค็อกคัสจะไม่ใช่อาหารที่เรานิยมกินโดยตรง แต่มันเป็นแหล่งกำเนิดของ Astaxanthin ในธรรมชาติ และมักใช้สกัดเป็นอาหารเสริมที่มีความเข้มข้นสูง

7.คริลล์

คริลล์ ซึ่งเป็นสัตว์จำพวกกุ้งขนาดเล็กที่พบในมหาสมุทรนั้นไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอาหารหลักของสัตว์ทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งแอสตาแซนธินโดยตรงสำหรับมนุษย์เมื่อบริโภคในรูปแบบน้ำมันคริลล์อีกด้วย

Astaxanthin กินคู่กับวิตามินซีได้ไหม

จากการศึกษาข้อมูลทางการแพทย์และงานวิจัยต่างๆ พบว่า โดยทั่วไปแล้ว การรับประทาน Astaxanthin ร่วมกับวิตามินซีนั้นสามารถทำได้และมีความปลอดภัย เนื่องจากทั้งสองต่างก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และไม่มีรายงานถึงปฏิกิริยาระหว่างกันในทางที่เป็นอันตราย (2)

astaxanthin กินคู่กับ zinc ได้ไหม

โดยทั่วไปแล้ว การบริโภคแคลเซียมหรือแร่ธาตุอื่นๆ ในปริมาณสูงจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ซึ่งรวมถึงแมกนีเซียม ธาตุเหล็กบางชนิด และสังกะสี) อาจส่งผลให้การดูดซึมแคโรทีนอยด์ อาทิ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน และแอสตาแซนธิน จากทั้งอาหารและ/หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้อยลงได้ (3)

สรุป

Astaxanthin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังซึ่งพบได้ใน สัตว์ทะเลที่กินแพลงก์ตอนและสาหร่ายสีแดง โดยเฉพาะ ปลาแซลมอน ไข่ปลาแซลมอน กุ้ง ปู และไข่กุ้ง ปลาที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เช่น แซลมอนป่า มักมีปริมาณ Astaxanthin สูงกว่าปลาเลี้ยง แม้ว่า Astaxanthin จะไม่มีอยู่ในผักและผลไม้ แต่เราสามารถรับประทานอาหารทะเลเป็นประจำเพื่อให้ได้สารนี้จากธรรมชาติ และหากต้องการปริมาณที่เข้มข้นขึ้น อาหารเสริมจากสาหร่ายฮีมาโตค็อกคัสก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี

อ่านบทความเกี่ยวกับสรรพคุณของ Astaxanthin เพิ่มเติมได้ที่: รู้จัก Astaxanthin ประโยชน์ 8 อย่าง ตัวช่วยสุขภาพแบบครบจบ

แหล่งอ้างอิง

1.10 อาหารที่อุดมไปด้วยแอสตาแซนธินที่คุณควรลอง

2.ปฏิกิริยาระหว่างยาแอสตาแซนธินและวิตามินซี

3.ควรทานวิตามินและแร่ธาตุตัวไหนร่วมกันหรือแยกกัน?