โยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งทำมาจากส่วนผสมของนมที่ผ่านการเพาะเลี้ยงและแบคทีเรีย โยเกิร์ต ถือเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับสายรักสุขภาพ ที่หาซื้อง่ายและเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน
โยเกิร์ต ดีไหม รวม 6 ข้อดี ที่เคลียร์ทุกข้อสงสัยแบบไม่มีกั๊ก
หนึ่งในตัวเลือกยอดฮิตสำหรับผู้ที่กำลังคุมอาหารหรืออยากดูแลสุขภาพก็คือ “โยเกิร์ต” แต่ก็ยังมีคำถามอยู่ว่า โยเกิร์ต ดีไหม ทำไมหลาย ๆ คนถึงมีติดตู้เย็นไว้ตลอด ดังนั้น ในบทความนี้จะพาไปส่องคำตอบว่าโยเกิร์ตดีต่อสุขภาพอย่างไร ลองไปดูกันได้เลยค่ะ
1.แหล่งของจุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ในโยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการหมักอย่างเหมาะสม มักจะมีจุลินทรีย์ชนิดดี หรือที่รู้จักกันว่า โพรไบโอติกส์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ หากร่างกายมีจุลินทรีย์ที่ดีในระดับสมดุล ระบบย่อยอาหารจะทำงานได้ราบรื่นขึ้น ลดโอกาสของอาการท้องผูก ท้องอืด หรือแม้แต่การติดเชื้อบางชนิดที่ลำไส้
งานวิจัยจำนวนไม่น้อยยังชี้ว่า การทานโพรไบโอติกส์เป็นประจำสามารถลดการอักเสบเรื้อรัง และช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้อักเสบชนิดไม่รุนแรง (IBS) ได้อีกด้วย (2)
2. เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี
โยเกิร์ตโดยเฉพาะชนิดที่ผ่านการกรองน้ำออก เช่น กรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) มีปริมาณโปรตีนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโยเกิร์ตทั่วไปถึง 2 เท่า (3) ซึ่งโปรตีนไม่เพียงช่วยให้เราอิ่มนานขึ้น แต่ยังมีบทบาทในการสร้างกล้ามเนื้อของเราอีกด้วยค่ะ
3. อุดมไปด้วยแคลเซียม
โยเกิร์ตมีแคลเซียมในปริมาณมากซึ่งมีความสำคัญต่อกระดูกที่แข็งแรง การได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้โดยทำให้กระดูกมีความหนาแน่นมากขึ้นและลดความเสี่ยงของอาการกระดูกเปราะ (1)
4. ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ
การทานกรีกโยเกิร์ตอาจส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ เนื่องจากมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งไขมันทั้งสองชนิดนี้หากมีระดับสูงเป็นเวลานาน อาจเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวหรือเกิดการอุดตัน นำไปสู่ความเสี่ยงของโรคหัวใจหรือภาวะหลอดเลือดแดงแข็งได้ ดังนั้น การควบคุมระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคหัวใจได้นั่นเองค่ะ (1),(4)
5. ดีต่อสุขภาพจิต
มีผลการศึกษาพบว่า โพรไบโอติกส์ที่พบในโยเกิร์ตสามารถช่วยปรับปรุงอารมณ์ได้ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า จากผลการศึกษาพบว่า ผลการศึกษาครั้งนี้บ่งชี้ว่า การกินโยเกิร์ตพร้อมๆ กับการออกกำลังกายนั้น มีส่วนช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการกินโยเกิร์ตหรือออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว (5)
6. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
โยเกิร์ตยังเป็นแหล่งของ Zinc ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการสำหรับทุกวัย ที่สำคัญกว่านั้น แร่ธาตุนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียและไวรัส รวมถึงช่วยในการรักษาแผลได้ด้วยนะคะ (2)
โยเกิร์ตห้ามกินคู่กับอะไร
โยเกิร์ตอาจลดการดูดซึมและประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ Tetracyclines (เตตราไซคลีน) ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบนี้ ควรรับประทานโยเกิร์ตห่างจากยาเตตราไซคลิน อย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อน หรือ 4 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยา Tetracyclines (เตตราไซคลีน) (6)
*ยา Tetracyclines (เตตราไซคลีน) คือ กลุ่มยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไปโดยเฉพาะภาวะสิวอักเสบรุนแรงและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคอะไรห้ามกินโยเกิร์ต
ผู้ที่มีภาวะการแพ้นมวัว (Milk Allergy) ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโยเกิร์ต เนื่องจากโยเกิร์ตทำจากนมและอาจกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ (7) แต่ในปัจจุบันมีโยเกิร์ตทางเลือกที่ผลิตจากพืช เช่น โยเกิร์ตจากถั่วเหลือง อัลมอนด์ หรือมะพร้าว ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีภาวะแพ้นมวัวสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ทําไมกินโยเกิร์ตแล้วท้องอืด
อาจจะเกิดจากภาวะการแพ้แลคโตส (Lactose Intolerance) เนื่องจาก โยเกิร์ตมีแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบในนม ผู้ที่มีภาวะการแพ้แลคโตสจะขาดเอนไซม์แลคเตสที่ใช้ย่อยแลคโตส ทำให้เกิดอาการท้องอืดและแก๊สหลังจากบริโภคผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำจากนม
สรุป
ไขข้อสงสัย โยเกิร์ต ดีไหม โยเกิร์ต จัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การดูแลระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ ไปจนถึงการเติมเต็มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น การมีโยเกิร์ตติดตู้เย็นไว้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพของตนเองค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: Probiotic
แหล่งอ้างอิง
2.Is Yogurt Healthy? Here’s What a Dietitian Has to Say
6.Yogurt – Uses, Side Effects, and More
7.6 Impressive Health Benefits of Yogurt
8.Lactose Intolerance – Verywell Health