อุจจาระอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ แต่ความจริงแล้วสีและลักษณะของสิ่งเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพภายในได้มากกว่าที่คิด การเปลี่ยนแปลงของสีอุจจาระอาจบ่งบอกถึงปัญหาต่างๆ ในระบบย่อยอาหาร ไปจนถึงภาวะที่ร้ายแรงการรู้จักสังเกตและเข้าใจความหมายของสีอุจจาระจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้เราติดตามสุขภาพของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ
ถอดรหัส 7 สีอุจจาระบอกอะไร
ทำไมสีอุจจาระถึงสำคัญ? แต่ละ สีอุจจาระบอกอะไร กับเราได้บ้าง โดยปกติแล้วสีของอุจจาระนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อาหารที่เราทาน ยาที่เราใช้ และสุขภาพของตับและตับอ่อน น้ำดีซึ่งเป็นของเหลวสีเหลืองเขียวที่ผลิตโดยตับ มีบทบาทสำคัญในการย่อยไขมัน และเป็นตัวกำหนดสีของอุจจาระ ในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 ความลับที่ซ่อนอยู่ในสีของอุจจาระ ซึ่งเป็นสัญญาณที่คุณไม่ควรมองข้าม มาดูกันว่าแต่ละสีบอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของเราได้บ้าง ถ้าหากว่าเราสามารถเข้าใจและสังเกตอุจจาระของตัวเองหากมีปัญหาสุขภาพก็สามารถนำไปสู่การป้องกันหรือรักษาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเองค่ะ
1. อุจจาระสีน้ำตาล
อุจจาระสีตั้งแต่น้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม เป็นสีที่ถือว่า “ปกติ” และเป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี สีน้ำตาลมาจากการที่น้ำดีถูกปล่อยออกมาจากตับแล้วผ่านการย่อยสลายในลำไส้ น้ำดีซึ่งมีสีเหลือง-เขียวถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลผ่านกระบวนการย่อยอาหาร การที่อุจจาระมีสีนี้แสดงถึงสุขภาพระบบทางเดินอาหารที่สมดุลและไม่มีปัญหาผิดปกติ
2. อุจจาระสีเขียว
อุจจาระสีเขียวอาจเกิดจากการรับประทานผักใบเขียว เช่น ผักโขม หรือผักคะน้า อย่างไรก็ตาม อุจจาระสีเขียวอาจบ่งบอกถึงการที่อาหารเคลื่อนที่ผ่านลำไส้อย่างรวดเร็วเกินไป เช่น ในภาวะท้องเสีย ซึ่งน้ำดีในระบบย่อยอาหารไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลนั่นเองค่ะ
3. อุจจาระสีดำ
อุจจาระสีดำอาจเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารเสริมธาตุเหล็กหรืออาหารที่มีสีเข้ม เช่น บลูเบอร์รี่ หรือชะเอม แต่ถ้าอุจจาระสีดำมีลักษณะเหนียวและคล้ายยางมะตอย อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนบน เช่น หลอดอาหารหรือกระเพาะอาหาร เนื่องจากเลือดที่ผ่านการย่อยแล้วจะกลายเป็นสีดำ หากพบอุจจาระสีดำโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
4. อุจจาระสีเหลือง
อุจจาระสีเหลืองอาจบ่งบอกถึงการย่อยไขมันไม่ดี หรือปัญหาที่เกี่ยวกับตับ น้ำดี หรือถุงน้ำดี เพราะน้ำดีมีหน้าที่ในการช่วยย่อยและดูดซึมไขมัน หากการดูดซึมไขมันไม่สมบูรณ์ อุจจาระอาจกลายเป็นสีเหลืองมันเลื่อมและมีกลิ่นแรง สำหรับอุจจาระสีเหลือง อาจจะมีปัญหาที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง หรือการอุดตันในท่อน้ำดี
5. อุจจาระสีแดง
หากพบอุจจาระสีแดง โดยเฉพาะหากเป็นสีแดงสด อาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกในลำไส้ส่วนล่าง เช่น ลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก หรืออาจเกิดจากโรคริดสีดวงทวาร แผลในลำไส้ใหญ่ หรือแม้แต่โรคมะเร็งลำไส้ แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งการรับประทานอาหารที่มีสีแดง เช่น บีทรูท หรือมะเขือเทศ อาจทำให้อุจจาระเป็นสีแดงได้เช่นกัน ลองเช็คว่าได้รับประทานสิ่งเหล่านี้หรือไม่ หรือหากไม่มั่นใจควรพบแพทย์หาสาเหตุเพื่อความสบายใจค่ะ
6. อุจจาระสีเทาหรือซีด
อุจจาระที่มีสีซีดหรือสีเทามักเป็นสัญญาณของการขาดน้ำดี น้ำดีเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อุจจาระมีสีน้ำตาล เมื่อมีการอุดตันในท่อน้ำดี เช่น จากนิ่วในถุงน้ำดี หรือการติดเชื้อ อาจทำให้น้ำดีไม่สามารถไหลลงสู่ลำไส้ได้ ส่งผลให้อุจจาระเปลี่ยนเป็นสีซีด ซึ่งอาจเป็นอาการของโรคตับอักเสบ, ตับอ่อนอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับตับและถุงน้ำดีอื่นๆ
7. อุจจาระสีส้ม
สีส้มของอุจจาระอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่น แครอทหรือฟักทอง แต่ถ้าคุณไม่ได้บริโภคอาหารเหล่านี้ สีส้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาการดูดซึมสารอาหาร หรือปัญหาการย่อยน้ำดีนั่นเองค่ะ
คนปกติอุจาระสีอะไร
โดยปกติแล้ว อุจจาระควรมีสีน้ำตาล ซึ่งเป็นผลมาจากการย่อยสลายของน้ำดี (bile) ที่ถูกผลิตจากตับ น้ำดีมีสีเขียว-เหลือง แต่เมื่อถูกย่อยและผ่านกระบวนการในลำไส้ใหญ่ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล การที่อุจจาระมีสีน้ำตาลแสดงถึงการทำงานของระบบย่อยอาหารที่เป็นปกติ
อุจจาระสีเทาปกติไหม
คำตอบ คือ ไม่ปกติค่ะ หากคุณสังเกตเห็นว่าอุจจาระของคุณมีสีเทาอ่อนหรือเกือบขาว ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดเพราะหากถามว่า สีอุจจาระบอกอะไร หากเป็นสีเทาบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ปัญหาที่ตับหรือถุงน้ำดี การขาดน้ำดี ซึ่งเป็นของเหลวที่ผลิตจากตับและช่วยในการย่อยไขมัน ทำให้อุจจาระมีสีซีดลง การอุดตันของท่อน้ำดีหรือปัญหาที่ตับอ่อนก็อาจส่งผลให้อุจจาระมีสีเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน หรือบางครั้งอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยา ยาบางชนิดอาจทำให้สีของอุจจาระเปลี่ยนแปลงไปได้
อุจจาระ มี เลือด ป น ทำยังไงดี
พบเลือดปนในอุจจาระ เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม อาจเป็นอาการของโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร การพบเลือดปนในอุจจาระ ไม่ว่าจะปริมาณมากหรือน้อย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้การพบแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องทันท่วงทีค่ะ
สรุป
การสังเกตสีและลักษณะของอุจจาระเป็นวิธีหนึ่งที่เราสามารถทำได้เองในชีวิตประจำวัน สีอุจจาระบอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของเราได้มากกว่าที่คิดนะคะ ดังนั้น หากคุณพบการเปลี่ยนแปลงของสีที่ผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การตรวจอุจจาระสามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ตั้งแต่ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารไปจนถึงโรคที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น มะเร็งลำไส้ การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดีค่ะ
แหล่งอ้างอิง