หลายคนลงทุนกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่ดีที่สุด แต่กลับมองข้ามปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้การทานคอลลาเจนนั้นไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร นั่นก็คือ ‘อาหารและเครื่องดื่ม’ ที่เราทานเข้าไปในแต่ละวันนั่นเองค่ะ เพราะมีอาหารบางชนิดที่อาจเข้าไปขัดขวางการดูดซึมหรือทำลายคอลลาเจนที่ร่างกายพยายามจะสร้างขึ้น ในบทความนี้จะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจว่า คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไร เพื่อให้คุณดูแลตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทานคอลลาเจนค่ะ
คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไรบ้าง?
เพื่อให้การเสริมสร้างคอลลาเจนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น การทำความเข้าใจว่า คอลลาเจน ห้ามกินคู่กับอะไร จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอาหารและเครื่องดื่มประเภทไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณลง
1.น้ำตาล
นี่คือตัวการอันดับต้นๆ ที่ส่งผลเสียต่อคอลลาเจนโดยตรงเลยค่ะ เมื่อเราบริโภคน้ำตาลมากเกินไป จะเกิดกระบวนการที่เรียกว่า “ไกลเคชั่น” (Glycation) ซึ่งโมเลกุลของน้ำตาลจะเข้าไปจับตัวกับโปรตีนอย่างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดเป็นสารเร่งความเสื่อมสภาพ (Advanced Glycation End-products หรือ AGEs) (1) สารนี้จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนของเราแข็งกระด้าง ขาดความยืดหยุ่น และเปราะบางลง ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การกินคอลลาเจนจึงไม่ควรคู่กับการกินน้ำตาล เพราะน้ำตาลจะไปทำลายคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นหรือที่ได้รับจากอาหารเสริม ทำให้ความพยายามในการดูแลผิวของคุณสูญเปล่าได้นั่นเองค่ะ (1) (2)
2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากส่งผลเสียต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน รวมถึงการสร้างคอลลาเจนด้วย แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความชุ่มชื้นของผิว นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ที่ทำลายเซลล์ผิวและคอลลาเจน อีกทั้งยังไปลดระดับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์คอลลาเจนอีกด้วย (3)
3.อาหารแปรรูปและเนื้อสัตว์แปรรูป
การทานอาหารแปรรูปมากเกินไป เช่น เนื้อสัตว์แปรรูป สามารถเร่งกระบวนการที่ทำให้ คอลลาเจน และ อีลาสติน ในผิวเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนหลักที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียน การที่มันถูกทำลายลงจึงส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและปริมาตร ทำให้เกิดสัญญาณของความชราก่อนวัย (4)
4.อาหารที่มีไขมันทรานส์สูง
ไขมันทรานส์ที่พบได้บ่อยในมาร์การีน ขนมอบเบเกอรี่ และของทอดต่างๆ เป็นไขมันตัวร้ายที่ส่งเสริมให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย การอักเสบนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แต่ยังทำลายโครงสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวสูญเสียความกระชับและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น (5)
5.การได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่สูงเกินไป
แม้ว่ากาแฟจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่การได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่สูงมากๆ อาจส่งผลต่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนได้เล็กน้อย (6) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามดื่มเลยนะคะ เพียงแต่ควรเว้นระยะห่างการดื่มกาแฟกับการทานคอลลาเจนสักหน่อย เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมคอลลาเจนอย่างเต็มที่ก่อน
กินคอลลาเจนกับกาแฟได้ไหม?
คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย คำตอบคือ “ได้ค่ะ” แต่มีข้อแนะนำเล็กน้อย การดื่มกาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดูดซึมคอลลาเจนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจและให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด มินดี้แนะนำให้เว้นช่วงเวลาการทานคอลลาเจนกับการดื่มกาแฟประมาณ 30-60 นาที เช่น อาจจะทานคอลลาเจนก่อน แล้วค่อยดื่มกาแฟหลังมื้อเช้า หรือทานคอลลาเจนก่อนนอนไปเลย ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
โรคอะไรบ้างที่ไม่ควรกินคอลลาเจน และข้อควรระวังอื่นๆ
แม้คอลลาเจนจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับบางกลุ่มเช่นกันค่ะ (7)
- ผู้ที่มีอาการแพ้: ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่มาจากปลา หอย หรือไข่ ดังนั้นผู้ที่มีอาการแพ้อาหารเหล่านี้ควรตรวจสอบฉลากอย่างละเอียดก่อนรับประทาน
- ข้อจำกัดด้านอาหาร: คอลลาเจนส่วนใหญ่มาจากสัตว์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่รับประทานอาหารแบบโคเชอร์ (Kosher), ฮาลาล (Halal) หรือผู้ที่ทานมังสวิรัติและวีแกน (Vegan)
- พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง: เพื่อให้คอลลาเจนเสริมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อรักษาระดับคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอและการไม่ออกกำลังกาย เพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้การผลิตคอลลาเจนลดลงได้
ถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มรับประทานคอลลาเจนเสริมทุกครั้ง
สรุป
การทานคอลลาเจนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ไม่ใช่แค่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ยังรวมถึงการใส่ใจกับอาหารที่ทานคู่กันด้วย การหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายคอลลาเจนอย่างน้ำตาล, แอลกอฮอล์, และอาหารแปรรูปต่างๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมด้วยการทานวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของคุณนำคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เผยผิวพรรณที่สดใสและสุขภาพข้อต่อที่แข็งแรงได้อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: กระดูก
แหล่งอ้างอิง
1.THE UNIVERSITY OF TEXAS MDAnderson Cancer Center:ประโยชน์ของคอลลาเจน: ฉันควรทานอาหารเสริมหรือไม่?
2.National Library of Medicine:โภชนาการและผิวที่แก่ก่อนวัย: น้ำตาลและไกลเคชั่น
3.action-rehab: ผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อผิวหนังและวัยชรา
4.npdermatology: เนื้อสัตว์แปรรูปสามารถทำอะไรกับผิวของคุณได้บ้าง