กระเทียมเจียว แค่เอ่ยชื่อก็ได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาแตะจมูก ของโรยหน้าอาหารคู่ครัวไทยที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก ข้าวต้ม หรือแม้แต่ยำต่างๆ ก็ช่วยชูรสชาติและเพิ่มเสน่ห์ให้อาหารจานนั้นๆ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แต่เคยสงสัยไหมคะว่า นอกจากความอร่อยแล้ว เจ้ากระเทียมสีเหลืองทองกรอบๆ นี้จะมีประโยชน์อะไรซ่อนอยู่บ้าง วันนี้โปรทริว่าจะพาทุกคนมาไขความลับนี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
หลายคนอาจคิดว่าการนำกระเทียมไปทอดใน นำ้มัน ร้อนๆ จะทำให้คุณค่าทางอาหารหายไปหมดสิ้น แต่ความจริงแล้ว กระเทียมเจียว ประโยชน์ ยังคงมีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ แม้ว่าสารประกอบสำคัญอย่างอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งไวต่อความร้อนจะลดลงไปบ้าง แต่กระเทียมก็ยังมีสารอาหารและสารประกอบอื่นๆ ที่ทนความร้อนได้ดีและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราอยู่ (1) มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
มีงานวิจัยที่ทำการเปรียบเทียบผลของกระเทียมทอดต่อการละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด พบว่าหลังจากรับประทานกระเทียมทอดไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือดเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 63% และยังคงอยู่ต่อเนื่องได้นานถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ เมื่อรับประทานกระเทียมทอดเป็นประจำทุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ฤทธิ์ละลายลิ่มเลือดยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยอยู่ที่ประมาณ 72% เมื่อครบกำหนดการศึกษา แสดงให้เห็นว่ากระเทียมทอด แม้จะผ่านความร้อนและลดกลิ่นฉุนลงแล้ว ก็ยังคงรักษาคุณประโยชน์ในการช่วยดูแลการไหลเวียนโลหิตและการละลายลิ่มเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ (1)
กระเทียมเจียวยังมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลายและน้ำย่อย ทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการไอ พร้อมทั้งลดการเกิดเสมหะ ทำให้รู้สึกโล่งสบายขึ้นนั่นเอง (2)
เมื่อพูดถึงกระเทียมเจียว หลายคนอาจนึกถึงแค่ความหอมอร่อยที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร แต่จริงๆ แล้ว กระเทียมทอด ยังมีประโยชน์ที่น่าสนใจไม่แพ้กระเทียมสดเลยค่ะ ในกระเทียมเจียวจะมีสารสำคัญที่ชื่อว่า อัลลิซิน (allicin) ซึ่งเป็นสารที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติทางยา โดยสารอัลลิซินมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหลายชนิด เช่น เชื้อสแตฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) และ สเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในหลายๆ ส่วนของร่างกาย ด้วยคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรียนี้เอง จึงทำให้กระเทียมทอดมีฤทธิ์ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และยังช่วย ลดการอักเสบ ได้อีกด้วยค่ะ (2)
กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ กระเทียมเจียว เกิดจากสารประกอบซัลเฟอร์ที่ระเหยออกมาเมื่อโดนความร้อน กลิ่นนี้เองที่ช่วยกระตุ้นต่อมรับรสและทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเริ่มทำงาน ส่งผลให้เรารู้สึกอยากอาหารและอร่อยกับมื้อนั้นๆ มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเบื่ออาหารหรือผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารได้น้อยลง (3)
มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น กลิ่นหอมและน้ำมันธรรมชาติจากกระเทียมเมื่อผ่านการทอด สามารถกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น อีกทั้งยังมีฤทธิ์อ่อน ๆ คล้ายยาระบาย ช่วยให้รู้สึกเบาสบายท้องมากขึ้น (2)
แม้ว่ากระเทียมทอดจะมีคุณประโยชน์ แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้องหรือท้องเสีย หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเหมาะสม (2)
คำถามยอดฮิตติดครัวเลยค่ะ! กระเทียมเจียว สามารถเก็บในตู้เย็นได้ แต่ต้องเก็บให้ถูกวิธีเพื่อรักษาความกรอบและป้องกันกลิ่นหืน
กระเทียมเจียว ไม่ได้เป็นเพียงของโรยหน้าเพื่อความอร่อยและสวยงามเท่านั้น แต่ยังแฝง ประโยชน ดีๆ จากสารอาหารบางชนิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลังผ่านความร้อน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการบริโภคในปริมาณที่ “พอเหมาะ” การเจียวกระเทียมด้วยตัวเองโดยใช้น้ำมันใหม่และควบคุมความร้อนไม่ให้ไหม้จนเกินไป จะช่วยให้เราได้รับทั้งความอร่อยและประโยชน์ควบคู่ไปกับการลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ การสร้างสมดุลในการรับประทานจึงเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนค่ะ
1.National Library of Medicine: ผลของกระเทียมทอดเทียบกับกระเทียมดิบต่อกิจกรรมการสลายไฟบรินในมนุษย์
3.โรงพยาบาลหลงหัว สังกัดมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเซี่ยงไฮ้: สรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียมทอด
*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ
