DASH Diet เคล็ดลับ ความดันสูง กินอะไรหาย โดยไม่ต้องพึ่งยา

DASH Diet เคล็ดลับ ความดันสูง กินอะไรหาย โดยไม่ต้องพึ่งยา

ภาวะความดันโลหิตสูง ถือเป็น “ภัยเงียบ” ที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและผู้คนทั่วโลก การปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงตามมาได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคไต อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่อง “อาหาร” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ และหนึ่งในแนวทางโภชนาการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและมีงานวิจัยรองรับมากมายก็คือ DASH Diet นั่นเอง

DASH Diet เคล็ดลับ “ความดันสูง กินอะไรหาย” โดยไม่ต้องพึ่งยา

สำหรับหลายๆ ท่านที่กำลังมองหาแนวทางดูแลภาวะความดันสูงด้วยตัวเอง และสงสัยว่า ความดันสูง กินอะไรหาย อาจเคยได้ยินคำว่า DASH Diet ผ่านหูมาบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร มีหลักการอย่างไร และจะช่วยเรื่องความดันโลหิตได้อย่างไร บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับแนวทางโภชนาการนี้อย่างละเอียด เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน DASH Diet ไม่ใช่การอดอาหารที่ซับซ้อน แต่เป็นรูปแบบการกินที่เน้นอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institutes of Health – NIH) โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการควบคุมความดันโลหิตโดยเฉพาะ (1, 2)

DASH Diet คืออะไร? รู้จักแนวทางโภชนาการเพื่อการดูแลสุขภาพหัวใจ

DASH Diet (อ่านว่า แดช ไดเอท) มีชื่อเต็มมาจาก Dietary Approaches to Stop Hypertension ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “แนวทางโภชนาการเพื่อหยุดภาวะความดันโลหิตสูง” หัวใจหลักของ DASH Diet ไม่ใช่การจำกัดอาหารที่เข้มงวดจนเกินไป แต่เป็นการส่งเสริมให้เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย โดยเน้นไปที่ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีนไขมันต่ำ และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือขาดมันเนย ขณะเดียวกันก็แนะนำให้ลดการบริโภคโซเดียม, ไขมันอิ่มตัว, ไขมันทรานส์, และน้ำตาล (1)

แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการสังเกตว่าผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติมักมีความดันโลหิตต่ำกว่าผู้ที่บริโภคเนื้อสัตว์ จึงนำไปสู่การศึกษาวิจัยขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “The DASH Study” ซึ่งค้นพบว่ารูปแบบการกินที่เน้นพืชเป็นหลักและมีผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำร่วมด้วย สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ (2) ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเทียบเท่ากับการใช้ยาบางชนิดในผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงระดับเริ่มต้นเลยทีเดียว

หลักการสำคัญของมีอะไรบ้าง?

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ประกอบด้วยอะไรบ้าง เรามาดูรายละเอียดของกลุ่มอาหารและปริมาณที่แนะนำต่อวัน (อ้างอิงจากความต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี/วัน) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล (1, 4)

กลุ่มอาหาร ปริมาณที่แนะนำต่อวัน ตัวอย่างอาหาร บทบาทสำคัญ
ธัญพืชไม่ขัดสี (Whole Grains) 6-8 ส่วน ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีท, ข้าวโอ๊ต, ควินัว แหล่งพลังงานหลัก, ใยอาหาร, วิตามินบี
ผัก (Vegetables) 4-5 ส่วน บรอกโคลี, ผักโขม, แครอท, มะเขือเทศ โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ใยอาหาร, วิตามิน
ผลไม้ (Fruits) 4-5 ส่วน กล้วย, ส้ม, แอปเปิ้ล, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ใยอาหาร, วิตามิน
ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ (Low-Fat Dairy) 2-3 ส่วน นมพร่องมันเนย, โยเกิร์ตไขมันต่ำ, ชีสไขมันต่ำ แคลเซียม, วิตามินดี, โปรตีน
โปรตีนไขมันต่ำ (Lean Meats, Poultry, Fish) ไม่เกิน 6 ส่วน เนื้อปลา, อกไก่ (ไม่ติดหนัง), เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โปรตีน, วิตามินบี, ธาตุเหล็ก
ถั่วและเมล็ดพืช (Nuts, Seeds, Legumes) 4-5 ส่วนต่อสัปดาห์ อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดทานตะวัน, ถั่วเลนทิล แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, โปรตีน, ใยอาหาร, ไขมันดี
ไขมันและน้ำมัน (Fats and Oils) 2-3 ส่วน น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว, อะโวคาโด ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว, วิตามินอี
ของหวานและน้ำตาล (Sweets and Added Sugars) ไม่เกิน 5 ส่วนต่อสัปดาห์ น้ำตาล, แยม, ขนมหวานต่างๆ จำกัดปริมาณเพื่อควบคุมน้ำหนักและสุขภาพ

การนับ “ส่วน” (Serving Size) แบบง่ายๆ:

  • ธัญพืช 1 ส่วน: ขนมปัง 1 แผ่น, ข้าวสุก ½ ถ้วย, พาสต้าสุก ½ ถ้วย
  • ผัก 1 ส่วน: ผักดิบใบเขียว 1 ถ้วย, ผักสุก ½ ถ้วย
  • ผลไม้ 1 ส่วน: ผลไม้ขนาดกลาง 1 ผล, ผลไม้หั่น ½ ถ้วย
  • นม 1 ส่วน: นม 1 ถ้วย (240 มล.), โยเกิร์ต 1 ถ้วย
  • โปรตีน 1 ส่วน: เนื้อสัตว์ปรุงสุก 1 ออนซ์ (ประมาณ 30 กรัม)

แนวทางนี้เหมาะกับใคร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?

แม้ว่า DASH Diet จะถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีภาวะความดันสูง แต่ด้วยหลักการที่เน้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จึงเหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพองค์รวมเช่นกันเหมาะกับ:

  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
  • ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงระยะแฝง (Prehypertension)
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง และต้องการลดความเสี่ยง
  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
  • บุคคลทั่วไปที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ข้อควรระวัง ของ DASH-Diet

ถึงแม้ว่า แนวทาง ดังกล่าวจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีบางประเด็นที่ควรพิจารณา (3)

1.ไม่ใช่ทางลัดลดน้ำหนัก

แม้การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอาจทำให้น้ำหนักลดลงได้ แต่เป้าหมายหลัก คือ การควบคุมความดันโลหิต ไม่ใช่การลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน หากต้องการลดน้ำหนัก อาจต้องพิจารณาเรื่องการควบคุมปริมาณแคลอรีร่วมด้วย

2.ต้องใช้เวลาในการปรับตัว 

สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับอาหารรสจัด อาหารแปรรูป หรืออาหารจานด่วน อาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลิ้นให้คุ้นเคยกับรสชาติที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

3.โพแทสเซียมสูง

การเน้นผักและผลไม้ทำให้ เป็นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะไตทำงานบกพร่องหรือโรคไตเรื้อรัง การได้รับโพแทสเซียมในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทยหรือนักกำหนดอาหารก่อนเริ่มต้นเสมอ

4.อาจต้องเตรียมอาหารเองมากขึ้น 

เพื่อควบคุมปริมาณโซเดียมและส่วนผสมต่างๆ การทำอาหารรับประทานเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคนที่มีข้อจำกัดด้านเวลา

กินอะไรช่วยลดความดันโลหิตได้บ้าง? เจาะลึกอาหารตามแนวทาง DASH-Diet

คำถามที่ว่า ความดันสูง กินอะไรแล้วดีขึ้น อาจไม่มีคำตอบที่ตายตัวเป็นอาหารชนิดเดียว แต่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการกินโดยรวมตามแนวทาง DASH Diet คือคำตอบที่ดีที่สุด มินดี้ขอยกตัวอย่างกลุ่มอาหารเด่นๆ ที่คุณควรเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารเป็นประจำ:

13 อาหารลดความดันโลหิตสูง

  1. ผักใบเขียว: เช่น ผักโขม, คะน้า, ปวยเล้ง อุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่ช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายผ่านทางไต
  2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี: โดยเฉพาะบลูเบอร์รี มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น
  3. บีทรูท: มีไนเตรตสูง ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นไนตริกออกไซด์ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  4. กล้วย: เป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นเยี่ยมที่หาทานได้ง่าย
  5. ปลาที่มีไขมันดี: เช่น ปลาแซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ปลาซาร์ดีน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
  6. เมล็ดฟักทอง: เป็นแหล่งของแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิต
  7. ถั่วและพืชตระกูลถั่ว: เช่น ถั่วเลนทิล, ถั่วชิกพี เป็นแหล่งของใยอาหาร, แมกนีเซียม และโพแทสเซียม
  8. กระเทียม: มีสารประกอบที่อาจช่วยเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์ในร่างกาย
  9. ข้าวโอ๊ต: มีใยอาหารชนิดพิเศษที่ชื่อว่า เบต้ากลูแคน ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ (4)
  10. โยเกิร์ตไขมันต่ำ (ไม่หวาน): เป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรไบโอติกส์ที่ดีต่อสุขภาพ
  11. ดาร์กช็อกโกแลต (โกโก้ 70% ขึ้นไป): มีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นของหลอดเลือด (ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ)
  12. น้ำมันมะกอก: อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและสารต้านอนุมูลอิสระ
  13. มะเขือเทศ: มีไลโคปีนและโพแทสเซียมสูง

ความดันสูงควรเลี่ยงอะไรบ้าง?

  • อาหารโซเดียมสูง: อาหารแปรรูปทุกชนิด, ไส้กรอก, แฮม, เบคอน, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ขนมขบเคี้ยว, อาหารหมักดอง, ซอสปรุงรสต่างๆ
  • อาหารไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง: ของทอด, ฟาสต์ฟู้ด, เบเกอรีที่ใช้มาการีนหรือเนยขาว, เนื้อสัตว์ติดมัน, หนังสัตว์
  • เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง: น้ำอัดลม, ชานมไข่มุก, น้ำผลไม้กล่อง
  • แอลกอฮอล์: การดื่มในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

6 วิธี ลดความดัน โดยไม่ใช้ยา ที่ทำควบคู่กับ DASH-Dietได้

การปรับเปลี่ยนอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้การควบคุมความดันโลหิตมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยเสริมฤทธิ์กันได้เป็นอย่างดี

  1. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เช่น เดินเร็ว, วิ่งจ็อกกิง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ) อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
  2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน: แม้ลดน้ำหนักได้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถส่งผลดีต่อระดับความดันโลหิตได้
  3. จัดการความเครียด: ความเครียดเรื้อรังส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ลองฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ, โยคะ, การหายใจลึกๆ หรือหางานอดิเรกที่ชอบทำ
  4. งดหรือลดการสูบบุหรี่: สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัวและหัวใจทำงานหนักขึ้น การเลิกบุหรี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อสุขภาพหัวใจ
  5. จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: หากดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ
  6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืนอย่างต่อเนื่อง สัมพันธ์กับระดับความดันโลหิตที่สูงขึ้น ควรตั้งเป้านอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

การนำแนวทางมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันอาจต้องใช้ความตั้งใจในช่วงแรก แต่เมื่อร่างกายและพฤติกรรมเริ่มปรับตัวได้แล้ว คุณจะพบว่านี่คือวิถีการกินที่ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนเรื่องความดันสูงเท่านั้น แต่ยังมอบสารอาหารที่มีประโยช์ต่อสุขภาพในทุกๆ ด้าน เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่คุ้มค่าและยั่งยืนในระยะยาว ควรทำอย่างสม่ำเสอมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุป

DASH Diet ไม่ใช่แค่ “เทรนด์” การกินเพื่อสุขภาพ แต่เป็นแนวทางโภชนาการที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยควบคุมความดันโลหิต (4). หัวใจสำคัญของมันคือการกลับคืนสู่พื้นฐาน ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนดี และไขมันดี พร้อมทั้งลดปริมาณโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาล การปรับเปลี่ยนนี้ เมื่อทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพด้านอื่นๆ จะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของคุณ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะความดันโลหิตสูงได้อย่างยั่งยืน

 

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: กระเทียม

 

แหล่งอ้างอิง

1.National Heart, Lung, and Blood Institute: แผนการกิน DASH

2.The NEW ENGLAND JOURNAL of MEDICINE: การทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับผลกระทบของรูปแบบการรับประทานอาหารต่อความดันโลหิต

3.healthline: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นรับประทานอาหารแบบ DASH อย่างสมบูรณ์

4.National Library of Medicine: อิทธิพลของแนวทางการควบคุมอาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง (DASH) ต่อความดันโลหิต: การทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมานจากการทดลองแบบสุ่มที่มีการควบคุม

 

*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ

บทความอื่นๆ