จ-ศ 08:00 น. -17:00 น.

น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น พลังธรรมชาติเพื่อหัวใจและหลอดเลือด

น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น พลังธรรมชาติเพื่อหัวใจและหลอดเลือด

สารบัญเนื้อหา

น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ยาดีที่มีการใช้มากว่า 3,000 ปี !

กระเทียมเป็นพืชที่ถูกใช้เป็นยาใน “การแพทย์ทางเลือก” มาราวๆ 3,000 ปี ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อารยธรรม จีน อียิปต์ บาบิโลนและโรมัน เนื่องจากมีการค้นพบว่าการกินกระเทียมสดสามารถรักษาโรคต่างๆได้หลายชนิดมาก จนกระทั่งในปัจจุบันมีการค้นพบว่ากระเทียมมีสารสำคัญมากมายหลายชนิดที่สามารถบำรุงร่างกายได้และเด่นในเรื่องการ “บำรุงหัวใจ” และเด่นในเรื่องของการ “ลดความดันโลหิต” นั่นเอง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระเทียม

น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น พลังธรรมชาติเพื่อหัวใจและหลอดเลือด-H2

น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น พลังธรรมชาติเพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ในยุคปัจจุบันที่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ กำลังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญทั่วโลก การหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งในแนวทางที่น่าสนใจคือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติที่มีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพ และ “น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น” ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ
ในน้ำมันกระทียมมีสารออกฤทธิ์ทางธรรมชาติคือสาร S-allyl cysteine (SAC) เป็นสารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur compound) ที่พบในกระเทียม และสาร อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบกำมะถันมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลาย

1. S-allyl cysteine (SAC) และการปรับสมดุลความดันโลหิต

SAC เป็นสารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur compound) ที่พบในกระเทียม โดยเฉพาะในกระเทียมดำที่มีปริมาณ SAC สูงกว่ากระเทียมสดหลายเท่า การศึกษาทางคลินิกและการทดลองในสัตว์พบว่า SAC มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลความดันโลหิตผ่านกลไกดังนี้

ยับยั้ง Angiotensin-Converting Enzyme (ACE): ACE เป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต โดยจะเปลี่ยน Angiotensin I เป็น Angiotensin II ซึ่งเป็นสารที่ทำให้หลอดเลือดหดตัวและเพิ่มความดันโลหิต SAC สามารถยับยั้งการทำงานของ ACE ได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตสูง

เพิ่มการผลิต Nitric Oxide (NO): NO เป็นสารที่ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น SAC ช่วยกระตุ้นการผลิต NO ในหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิตและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

ลดการอักเสบ: การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง SAC มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งการทำงานของสารอักเสบ เช่น cytokines และ prostaglandins จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง

ปรับปรุงการทำงานของ Endothelium: Endothelium เป็นผนังชั้นในของหลอดเลือดที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการขยายและหดตัวของหลอดเลือด SAC ช่วยปรับปรุงการทำงานของ Endothelium ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดความดันโลหิตและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

สรุปสาร SAC: กุญแจสำคัญในการปรับสมดุลความดันโลหิต

 กลไกการทำงาน: SAC ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้นและลดแรงดันในหลอดเลือด นอกจากนี้ SAC ยังช่วยลดการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว จึงช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 ผลการวิจัย: งานวิจัยในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงพบว่า การรับประทานสารสกัดจากกระเทียมที่มี SAC สูง ช่วยลดความดันโลหิตทั้ง systolic และ diastolic ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง

2. สาร Allicin: สุดยอดสารต้านไขมันในหลอดเลือด

Allicin เป็นสารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์อีกชนิดหนึ่งที่พบในกระเทียม มีฤทธิ์ในการลดไขมันในหลอดเลือดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยมีกลไกการทำงานดังนี้

ลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล: Allicin ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ HMG-CoA reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในตับ จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

เพิ่มการสลายคอเลสเตอรอล: Allicin ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Lecithin Cholesterol Acyltransferase (LCAT) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายคอเลสเตอรอลในเลือด

ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล: Allicin ยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารในลำไส้

ป้องกันการเกิดออกซิเดชันของ LDL: Allicin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของ LDL ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว

อัลลิซิน: พลังแห่งการกำจัดไขมันในหลอดเลือด

อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบกำมะถันอีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในกระเทียม อัลลิซินมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ และช่วยลดไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือด

 กลไกการทำงาน: อัลลิซินช่วยลดการสร้างคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดคราบไขมันในหลอดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งมีส่วนช่วยในการกำจัดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีออกจากร่างกาย

 ผลการวิจัย: งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การรับประทานกระเทียมหรือสารสกัดจากกระเทียม ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL cholesterol ได้อย่างมีนัยสำคัญ

3. ประโยชน์อื่นๆ ของน้ำมันกระเทียมสกัดเย็น

นอกจากประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือดแล้ว น้ำมันกระเทียมสกัดเย็นยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น

เสริมภูมิคุ้มกัน: กระเทียมมีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มจำนวนและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว

ต้านอนุมูลอิสระ: สารประกอบในกระเทียม เช่น SAC และ Allicin มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

ต้านจุลชีพ: กระเทียมมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบางชนิด

ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ากระเทียมอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่

ข้อควรระวัง:

แม้ว่าน้ำมันกระเทียมสกัดเย็นจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ผู้บริโภคควรระมัดระวังในการใช้ โดยเฉพาะผู้ที่ มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวของเลือด กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร มีอาการแพ้กระเทียม

ทำไมต้อง Protriva G-Lic Oil 

Protriva G-Lic Oil: น้ำมันกระเทียมสกัดเย็นคุณภาพสูง มีการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อให้ได้สารสำคัญจากกระเทียมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณเข้มข้น คัดเลือกกระเทียมสายพันธุ์พิเศษ ผ่านกรรมวิธีการบ่มที่เป็นวิธีการเฉพาะ เพื่อให้ได้สาร S-allyl cysteine (SAC) ที่มีปริมาณสูงกว่ากระเทียมทั่วไปถึง 6 เท่า นำมาผ่านการสกัดเย็น เพื่อคงคุณค่าสารอัลลิซิน (Allicin) สารสำคัญตามธรรมชาติไว้ได้อย่างครบถ้วน

อ้างอิง:

  • Ried, K., Frank, O. R., & Stocks, N. P. (2013). Aged garlic extract reduces blood pressure in hypertensives: a dose-response trial. European journal of clinical nutrition, 67(1), 64-70
  • Sobenin, I. A., Sidorov, R. A., & Pleteneva, T. V. (2008). Aged garlic extract (Kyolic) and its constituent S-allyl cysteine reduce blood pressure in spontaneously hypertensive rats. Journal of nutritional biochemistry, 19(8), 512-518.
  • Ide, N., & Lau, B. H. (2001). Garlic compounds minimize intracellular oxidative stress and inhibit nuclear factor-kappa B activation. Journal of nutrition, 131(3), 1020S-1026S. 
  • Reinhart, K. M., Talati, R., White, C. M., & Coleman, C. I. (2008). The impact of garlic on lipid parameters: a systematic review and meta-analysis. Nutrition reviews, 66(7), 399-412.
  • Ali, M., Thomson, M., & Afzal, M. (2000). Garlic and onions: their effect on eicosanoid metabolism and its clinical relevance. Prostaglandins, leukotrienes, and essential fatty acids, 62(1), 55-73

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ