น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil) กลายเป็นไอเทมติดบ้านของใครหลายคนไปแล้ว ไม่ว่าจะในครัวหรือบนโต๊ะเครื่องแป้ง ด้วยกระแสความนิยมในฐานะ Superfood ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่เคยสงสัยไหมคะว่า นอกจากกลิ่นหอมๆ และการนำมาใช้ปรุงอาหารแล้ว น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ ที่แท้จริงนั้นมีอะไรบ้าง วันนี้จะพาทุกคนไปไขความลับของน้ำมันมหัศจรรย์ชนิดนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งกับคุณสมบัติที่หลากหลายกว่าที่เคยรู้มาแน่นอนค่ะ
เมื่อพูดถึง น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ ที่โดดเด่นนั้นมาจากโครงสร้างของไขมันที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ โดยน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว แต่ไม่ใช่ไขมันอิ่มตัวชนิดเดียวกับที่พบในไขมันสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันสายกลาง (Medium-Chain Triglycerides หรือ MCTs) ซึ่งร่างกายของเราสามารถย่อยและนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว แตกต่างจากกรดไขมันสายยาว (Long-Chain Triglycerides) ที่พบในไขมันชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมี “กรดลอริก” (Lauric Acid) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจในการสนับสนุนการทำงานของร่างกายในหลายๆ ด้าน
อย่างที่กล่าวไปว่า MCTs ในน้ำมันมะพร้าวมีความพิเศษตรงที่เมื่อเราบริโภคเข้าไป มันจะเดินทางตรงไปยังตับและถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นกรดไขมันสายกลางที่ร่างกายสามารถเผาผลาญได้อย่างรวดเร็ว คล้ายกับการใช้คาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงาน แตกต่างจากไขมันสายยาวที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยและลำเลียงผ่านเลือด กล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานอย่างรวดเร็วนั่นเอง (3)
น้ำมันมะพร้าว MCT สามารถสร้าง คีโตน ซึ่งใช้เป็นพลังงานทางเลือกแทนกลูโคส และอาจช่วยกระตุ้นการสร้าง BDNF โปรตีนสำคัญที่ช่วยปกป้องและส่งเสริมการทำงานของเซลล์สมอง งานวิจัยบางส่วนชี้ว่าคีโตนอาจลดการอักเสบและการก่อตัวของคราบพลัคในสมอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ มีข้อมูลว่า MCT อาจช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีความจำ สมาธิ อารมณ์ และการทำงานประจำวันดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าป้องกันหรือชะลอโรคได้ จึงควรใช้เป็นเพียงแนวทางเสริมควบคู่กับการดูแลสุขภาพโดยรวม (4)
นี่คือหนึ่งในคุณสมบัติยอดฮิตที่ทำให้สาวๆ หลงรักน้ำมันมะพร้าว ด้วยโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถซึมซาบสู่ผิวได้ดี น้ำมันมะพร้าวจึงช่วยเติมความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียน้ำได้เป็นอย่างดี มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทาผิว สามารถช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง (Xerosis) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยไม่แพ้มิเนอรัลออยล์เลยทีเดียว (1) เรียกได้ว่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติที่ทั้งถูกและดีค่ะ
ใครที่มีปัญหาผมแห้งเสีย ชี้ฟู หรือขาดหลุดร่วงง่าย ลองใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผมก่อนสระดูสิคะ งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันเพียงไม่กี่ชนิดที่มีความสามารถในการซึมลึกเข้าไปถึงแกนของเส้นผมได้ดีเยี่ยม ด้วยคุณสมบัติของกรดลอริก ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผมได้ (2) ผลลัพธ์คือเส้นผมที่แข็งแรงขึ้น ลดการแตกปลาย ช่วยให้เส้นผมดูมีน้ำหนักและจัดทรงได้งายขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
การอมน้ำมัน หรือ Oil Pulling เป็นวิธีดูแลสุขภาพช่องปากที่ใช้น้ำมันมะพร้าวกลั้วปากคล้ายน้ำยาบ้วนปาก แล้วบ้วนทิ้ง การศึกษาหลายชิ้นพบว่า น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยลดปริมาณแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดปัญหาในช่องปากได้ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามาจากกรดลอริก (Lauric acid) ที่มีอยู่ในน้ำมันมะพร้าวในปริมาณสูง นอกจากนี้ งานวิจัยบางส่วนยังระบุว่า การทำออยล์พูลลิ่งอาจช่วยลดคราบพลัค ลดการอักเสบของเหงือก และมีส่วนช่วยป้องกันฟันผุได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้เป็นเพียงวิธีเสริมเท่านั้น ไม่ควรใช้แทนการดูแลสุขภาพช่องปากพื้นฐาน เช่น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ (3)
งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการเสริมด้วยน้ำมัน MCT อาจช่วยลดน้ำหนักได้ โดยเฉพาะเมื่อรับประทานร่วมกับอาหารคีโตเจนิกแบบแคลอรีต่ำ เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีไตรกลีเซอไรด์สายกลาง (MCT) ราว 65% จึงอาจให้ผลคล้ายกัน การศึกษาเบื้องต้นยังชี้ว่า น้ำมันมะพร้าวอาจช่วยลดน้ำหนักตัว ดัชนีมวลกาย (BMI) และเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (5)
น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริกซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของกรดไขมัน MCT ในตัวมันเอง งานวิจัยบางชิ้นพบว่ากรดลอริกสามารถยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ที่อาจก่อโรคได้ เช่น Staphylococcus aureus จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่น้ำมันมะพร้าวมักถูกนำมาใช้ในกิจวัตรดูแลผิวและช่องปาก (3)
ปิดท้ายด้วยประโยขน์ด้านความงามที่หลายคนชื่นชอบ น้ำมันมะพร้าวเป็นเมคอัพรีมูฟเวอร์จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถละลายเครื่องสำอางกันน้ำที่ติดทนแน่นได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่าหรือลิปสติก เพียงนวดเบาๆ บนใบหน้าแล้วเช็ดออกด้วยสำลี จากนั้นล้างหน้าตามปกติ นอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวแล้ว ยังทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงอีกด้วย
จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า น้ำมันมะพร้าว ประโยชน์ นั้นมีมากมายกว่าที่เราคิด ตั้งแต่การเป็นแหล่งพลังงานชั้นดี การบำรุงผิวพรรณและเส้นผม ไปจนถึงการสนับสนุนสุขภาพช่องปากและระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil) คุณภาพดีสำหรับกาารบริโภคและบำรุงผิว และบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะพอดี เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพนะคะ น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจากธรรมชาติที่น่าสนใจสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพอย่างแท้จริงค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: ความรู้ทั่วไป
2.National Library of Medicine: ผลของน้ำมันแร่ น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันมะพร้าวต่อการป้องกันผมเสีย
3.verywellhealth: อะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณเมื่อคุณเติมน้ำมันมะพร้าวลงในอาหารของคุณ
4.Mya Care: น้ำมันมะพร้าวสามารถต่อสู้กับโรคอัลไซเมอร์ได้หรือไม่? มาดูกันว่างานวิจัยบอกอะไร
*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ
