เคยส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าใบหน้าดูเหนื่อยล้า มีริ้วรอยบางๆ ปรากฏขึ้นมาทักทาย ทั้งที่อายุยังไม่มากเท่าไหร่ไหมคะ? ความรู้สึกแบบนี้เป็นสัญญาณเตือนของภาวะ “หน้าแก่ ก่อนวัย” ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุ พร้อมค้นพบเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลตัวเองเพื่อชะลอสัญญาณแห่งวัย ให้ผิวกลับมาดูสดใสและอ่อนเยาว์สมวัยอีกครั้งค่ะ
หยุดเวลาให้ผิว 10 วิธีเอาตัวรอดจากการ หน้าแก่ ก่อนวัย ง่าย ๆ
หลายคนอาจกังวลกับสัญญาณของผิวที่ดูมีอายุเกินจริง หรือที่เรียกว่าภาวะ หน้าแก่ ก่อนวัย ซึ่งไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านอายุเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัจจัยภายนอกและไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อผิวของเราโดยตรง (3) แต่ข่าวดีก็คือ เราสามารถเข้ามามีบทบาทในการดูแลและสนับสนุนให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ ด้วย 10 แนวทางที่ทำตามได้ไม่ยาก ดังนี้ค่ะ
1. ยกให้เป็นเบอร์หนึ่ง: ทาครีมกันแดดทุกวัน
หากต้องเลือกสกินแคร์เพียงชิ้นเดียวเพื่อชะลอวัย คำตอบคือ “ครีมกันแดด” ค่ะ เพราะสาเหตุหลักของผิว หน้าแก่ ก่อนวัย มาจากรังสียูวีในแสงแดด ที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวโดยตรง (1) ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป และทาให้เป็นนิสัยทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดดหรือทำงานในอาคารก็ตาม
2. โบกมือลาตัวการทำร้ายผิว
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวสวย เพราะสารเคมีในบุหรี่จะเข้าไปจำกัดการไหลเวียนของเลือดที่มาหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวขาดออกซิเจนและสารอาหาร ขณะที่แอลกอฮอล์จะดึงความชุ่มชื้นออกจากร่างกาย ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น (2)
3. เลือกทานอาหารเป็นเกราะป้องกันผิว
อาหารที่เราทานเข้าไปมีผลต่อผิวมากกว่าที่คิด การเน้นทานผักผลไม้หลากสีจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ (3) ในทางกลับกัน ควรลดการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะน้ำตาลสามารถเข้าไปทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นได้
4. เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะแห้งกร้านและทำให้ริ้วรอยเล็กๆ ดูชัดเจนขึ้น การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นประจำ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากธรรมชาติ : ส่วนผสมจากธรรมชาติมากมาย เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว และชาเขียว มีคุณสมบัติต่อต้านวัยและช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ค่ะ (1) (3)
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ช่วงเวลาที่เรานอนหลับ คือช่วงที่ร่างกายและผิวพรรณได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ การนอนน้อยหรือนอนไม่มีคุณภาพจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดออกมามากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้สามารถเข้าไปทำลายคอลลาเจนในผิวได้ ซึ่งการนอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมงสามารถทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ (2)
6. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
การขัดถูผิวหน้าแรงๆ หรือใช้ผลิตภัณท์ทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไป อาจทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวระคายเคืองและแห้งเสียได้ง่าย ควรเลือกใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน นวดวนเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง จะช่วยถนอมผิวได้ดีกว่า อีกทั้งการขัดผิวให้สะอาดอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ การระคายเคืองผิวจะเร่งการแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน (1)
7. ออกกำลังกายเพื่อผิวเปล่งปลั่ง
ความเครียดในชีวิตประจำวันเป็นอีกสาเหตุสำคัญของผิวแก่ก่อนวัยค่ะ ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเครียด และยังดีต่อผิวด้วย เพราะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างทั่วถึง ส่งผลให้ผิวดูสดใสและเปล่งปลั่งจากภายใน (2)
8. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
แม้จะดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นสิ่งสำคัญมาก น้ำช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี รวมถึงการรักษาความชุ่มชื้นของผิวจากภายในสู่ภายนอก (3) การดื่มน้ำน้อยอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวดูแห้งและไม่สดใส
9. จัดการความเครียดให้ถูกวิธี
ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อ สุขภาพ โดยรวม รวมถึงผิวพรรณด้วย ลองหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง เช่น การนั่งสมาธิ ฟังเพลง เล่นโยคะ หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ เพื่อช่วยลดระดับความเครียดและสนับสนุนให้ผิวดูดีขึ้น (2)
10. ระวังการแสดงสีหน้าซ้ำๆ
การขมวดคิ้ว หรือการหยีตาบ่อยๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นทำงานหนักและเกิดเป็นริ้วรอยถาวรได้ในที่สุด หากรู้ตัวว่าทำบ่อยๆ อาจต้องพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือหากมีปัญหาสายตาที่ทำให้ต้องหยีตาบ่อยๆ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อแก้ไขที่ต้นเหตุ (3)
สาเหตุหลักที่ทำให้ หน้าแก่ก่อนวัย มีอะไรบ้าง?
นอกจากการดูแลตัวเองแล้ว การเข้าใจถึงรากของปัญหาก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยสาเหตุของภาวะ หน้าแก่ ก่อนวัย แบ่งได้เป็น 2 ปัจจัยหลักๆ คือ (2)
- ปัจจัยภายใน (Intrinsic Aging): คือกระบวนการแก่ตามธรรมชาติที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
- ปัจจัยภายนอก (Extrinsic Aging): เป็นปัจจัยที่เราควบคุมและป้องกันได้ ซึ่งเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิด สัญญาน แห่งวัยก่อนเวลาอันควร ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่
- แสงแดด (Photoaging): เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำร้ายผิวมากที่สุด
- ไลฟ์สไตล์: การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, โภชนาการที่ไม่ดี, การพักผ่อนน้อย, และความเครียด
- มลภาวะ: ฝุ่นควันและสิ่งสกปรกในอากาศก็สามารถทำร้ายผิวได้เช่นกัน
แต่งหน้าทุกวันทำให้หน้าแก่จริงหรือ?
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย คำตอบคือ “ไม่จริงเสมอไป” ค่ะ ตัวการที่ทำให้ผิวมีปัญหาไม่ใช่ “การแต่งหน้า” แต่เป็น “การทำความสะอาดเครื่องสำอางออกไม่หมดจด” ต่างหาก หากเราล้างหน้าไม่สะอาด เครื่องสำอางที่ตกค้างจะเข้าไปอุดตันรูขุมขน ก่อให้เกิดสิว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองในระยะยาว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งเสริมให้ผิวดูโทรมและแก่กว่าวัยได้ ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการแต่งหน้า เพียงแค่ใส่ใจกับการทำความสะอาดผิวแบบ Double Cleansing ให้หมดจดทุกวัน ก็สามารถมีความสุขกับการแต่งหน้าได้โดยไม่ต้องกังวลค่ะ (4)
สรุป
ภาวะ หน้าแก่ ก่อนวัย ไม่ใช่สิ่งที่ต้องยอมจำนนเสมอไป แม้เราจะหยุดเวลาหรือปัจจัยทางพันธุกรรมไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้อย่างมีนัยสำคัญ การสร้างเกราะป้องกันผิวจากแสงแดด การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการใส่ใจดูแลผิวอย่างถูกวิธี ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่ดูสดใสและสุขภาพดีสมวัยไปได้อีกนาน
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: Astaxanthin
แหล่งอ้างอิง
1.American Academy of AAD Dermatology Association: 11 วิธีลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย
2.clevelandclinic: สัญญาณของการแก่ก่อนวัย