ไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันชนิดหนึ่ง (ลิพิด) ที่พบในเลือด เมื่อคุณทานอาหาร ร่างกายจะเปลี่ยนแคลอรีที่ไม่จำเป็นให้กลายเป็นไตรกลีเซอไรด์ทันที ไตรกลีเซอไรด์จะถูกเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน ต่อมาฮอร์โมนจะปล่อยไตรกลีเซอไรด์ออกมาเป็นพลังงานระหว่างมื้ออาหารนั่นเองค่ะ
รู้ก่อนปลอดภัยกว่า รวม 6 อาหารที่มี ไตรกลีเซอไรด์ สูง ควรเลี่ยง
ปกติแล้ว ร่างกายจะสร้างไตรกลีเซอไรด์ขึ้นมาเองจากแคลอรี่ส่วนเกินที่เราทานเข้าไป กลุ่ม อาหารที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง ในที่นี้จึงหมายถึงอาหารที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งเมื่อระดับไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายสูงเกินไป อาจส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวหรือหนาขึ้นได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง และถ้ามีปริมาณสูงมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของตับอ่อนได้เช่นกันค่ะ (3) ดังนั้น ในบทความนี้เราจึงรวบรวมอาหารที่อาจจะต้องเลี่ยงสำหรับสายรักสุขภาพมาฝากกันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยค่ะ
1. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
น้ำตาลส่วนใหญ่ที่เราได้รับอาจมาจากเครื่องดื่มที่เราดื่มเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก น้ำผลไม้ หรือกาแฟหวาน ๆ เครื่องดื่มเหล่านี้มักมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งร่างกายอาจเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินให้กลายเป็นไตรกลีเซอไรด์ได้ค่ะ ดังนั้น อย่าลืมใส่ใจปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มด้วยนะคะ (2)
2. ขนมปังขาว ข้าวขาว และแป้งขัดสี
อาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมปังขาว พาสต้าเส้นขาว ข้าวขาว หรือขนมอบเบเกอรี่ต่างๆ เป็นอาหารที่ผ่านการขัดสีจนเหลือแต่แป้ง ทำให้มีใยอาหารน้อย ร่างกายจึงย่อยและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกระบวนการนี้คล้ายกับการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน คือเมื่อมีน้ำตาลในเลือดสูงอย่างรวดเร็วและร่างกายใช้ไม่ทัน ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์เพื่อเก็บสะสมเป็นพลังงานสำรอง (1)
3. อาหารที่มีไขมันทรานส์
ไขมันทรานส์คือไขมันไม่อิ่มตัวที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนเพื่อทำให้แข็งตัวและเก็บได้นานขึ้น ไขมันชนิดนี้ไม่เป็นผลดีต่อทั้งระดับไตรกลีเซอไรด์และสุขภาพโดยรวมเลย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ แม้ในสหรัฐอเมริกาจะมีการห้ามใช้ไขมันทรานส์สังเคราะห์ในอาหารแล้ว แต่ก็ยังพบในปริมาณเล็กน้อยได้ตามธรรมชาติ เช่น ในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม หากอยากลดการได้รับไขมันทรานส์ ควรเลี่ยงอาหารจำพวกขนมอบสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยวกรอบ ๆ ป๊อปคอร์นไมโครเวฟ ครีมเทียมสำหรับกาแฟ พิซซ่าแช่แข็ง รวมถึงอาหารจานด่วนที่ผ่านการทอดกรอบบ่อย ๆ เพราะมักจะมีไขมันทรานส์หลงเหลืออยู่ค่ะ (4)
4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไตรกลีเซอไรด์ สูงขึ้น และอาจทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงอยู่แล้วแย่ลงได้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ หรือสุรา ล้วนทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นได้ค่ะ (1)
5. เนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อสัตว์ติดมัน
ไม่จำเป็นต้องงดเนื้อสัตว์ไปเลย แต่ควรเลือกเนื้อส่วนที่มีไขมันน้อยจะดีกว่า และที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปอย่างเบคอน ไส้กรอก หรือแฮม เพราะมีงานวิจัยชี้ว่าการรับประทานบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้ (2)
6. น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิล
หลายคนอาจมองว่าน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเมเปิลเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าน้ำตาลทราย เพราะดูเป็นธรรมชาติและน่าจะดีต่อสุขภาพกว่า แต่ความจริงแล้วสารให้ความหวานเหล่านี้ก็ยังสามารถทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้นได้เช่นกัน หากคุณกำลังพยายามควบคุมหรือลดระดับไตรกลีเซอไรด์ การจำกัดการบริโภคสารให้ความหวานทุกชนิด ไม่ว่าจะมาจากน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง หรือเมเปิลไซรัป ก็เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจค่ะ (2)
ไตรกลีเซอไรด์สูงเกิดจากอะไรได้อีกบ้าง?
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารแล้ว ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงยังอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่นกันค่ะ (3) อาทิ โรคอ้วน และกลุ่มอาการเมตาบอลิก ซึ่งเป็นภาวะที่รวมหลายปัจจัยเสี่ยงไว้ด้วยกัน ได้แก่ ไขมันรอบเอวมากเกินไป ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง และระดับคอเลสเตอรอลที่ผิดปกติ
ไตรกลีเซอไรด์สูงอาจเป็นสัญญาณของภาวะต่อไปนี้:
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือภาวะก่อนเบาหวาน
- กลุ่มอาการเมตาบอลิก ซึ่งความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และน้ำตาลในเลือดสูงมักเกิดขึ้นร่วมกัน
- ภาวะไทรอยด์ทำงานน้อย (ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ)
- ภาวะทางพันธุกรรมบางชนิดที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ปกติ
ในบางกรณี ไตรกลีเซอไรด์สูงอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา เช่น
- ยาขับปัสสาวะ
- ยาฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน
- ยากลุ่มเรตินอยด์
- ยาสเตียรอยด์
- ยาเบต้าบล็อกเกอร์
- ยากดภูมิคุ้มกันบางชนิด
- ยาต้านเอชไอวีบางชนิด
ทํายังไงให้ไตรกลีเซอไรด์ลดลง? แนวทางดูแลตัวเองเบื้องต้น
ข่าวดีก็คือ ระดับไตรกลีเซอไรด์มักจะตอบสนองต่อการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี นอกจากการใส่ใจกลุ่มอาหารที่มีไตรกลีเซอไรด์สูงแล้ว ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อสนับสนุนสุขภาพที่ดีของคุณดูนะคะ (3)
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ตั้งเป้าออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน การทำกิจกรรมเป็นประจำช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และเพิ่มไขมันดี (HDL) ได้อย่างดี
- ควบคุมอาหารลดน้ำหนัก: หากคุณมีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยก็ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้
- ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี: จำกัดการบริโภคน้ำตาล ขนมหวาน และอาหารที่ทำจากแป้งขัดสี เช่น ขนมปังขาว เพราะอาหารเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย
- เลือกไขมันดี: หันมาบริโภคไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอกและน้ำมันคาโนลา และเพิ่มปลาที่มีไขมันโอเมก้า-3 สูง เช่น แซลมอนหรือแมคเคอเรลในมื้ออาหาร
- จำกัดแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์มีทั้งน้ำตาลและแคลอรี่สูง ซึ่งส่งผลต่อไตรกลีเซอไรด์โดยตรง ควรลดปริมาณการดื่มลง หรือเลิกดื่มหากมีระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมาก
ค่า Cholesterol กับ Triglyceride ต่างกันอย่างไร?
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ทั้งคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันในเลือด (Lipids) แต่มีหน้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ (3)
- ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides): ทำหน้าที่ “เก็บ” พลังงานส่วนเกินที่ร่างกายยังไม่ได้ใช้ พูดง่ายๆ คือเป็นแคลอรี่สำรอง เมื่อร่างกายต้องการพลังงานก็จะดึงไตรกลีเซอไรด์มาใช้ (1)
- คอเลสเตอรอล (Cholesterol): ทำหน้าที่ “สร้าง” และ “ซ่อมแซม” ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ใช้สร้างเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ สร้างฮอร์โมนบางชนิด และผลิตน้ำดีเพื่อช่วยย่อยไขมัน
แม้จะมีหน้าที่ต่างกัน แต่การมีไขมันทั้งสองชนิดนี้ในระดับที่สูงเกินไปก็ล้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลอดเลือดและหัวใจได้เช่นเดียวกันนะคะ
สรุป
การดูแลระดับไตรกลีเซอไรด์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องไกลตัว การทำความเข้าใจว่า อาหารที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง นั้น แท้จริงแล้วคือกลุ่มอาหารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างไขมันชนิดนี้ขึ้นมาเอง โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาล แป้งขัดสี และไขมันบางชนิดในปริมาณมาก จะช่วยให้เราสามารถเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมน้ำหนักตัว ถือเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงในระยะยาวค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: Five Oil
แหล่งอ้างอิง
1.verywellhealth: อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณมีไตรกลีเซอไรด์สูง
2.webmd: อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณมีไตรกลีเซอไรด์สูง
3.mayoclinic: ไตรกลีเซอไรด์: ทำไมจึงสำคัญ?
4.Imperial Center Family Medicine: อาหารอะไรบ้างที่ทำให้ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น?