เคยรู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นตะคริวง่ายๆ บ้างไหมคะ? อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่ากำลังเผชิญกับภาวะ อิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยแต่หลายคนอาจมองข้ามไป การทำความเข้าใจเรื่องนี้จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดูแลสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอยู่เสมอค่ะ
อิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล คืออะไร? ทำความเข้าใจเบื้องต้น
การที่ร่างกายมีอาการ อิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไปหรือไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคไต
อิเล็กโทรไลต์ คือ แร่ธาตุที่สามารถปล่อยประจุไฟฟ้าเมื่อละลายในของเหลว เช่น เลือดและปัสสาวะ ร่างกายสามารถสร้างอิเล็กโทรไลต์ได้เอง และยังได้รับเพิ่มเติมจากอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงอาหารเสริม อิเล็กโทรไลต์ที่อยู่ในเลือด เนื้อเยื่อ ปัสสาวะ และของเหลวต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย ช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ และสนับสนุนการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ (1)
ค่าอิเล็กโทรไลต์ที่สำคัญในร่างกาย มีดังนี้ (1)
- โซเดียม (Sodium): ช่วยควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย และมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ
- โพแทสเซียม (Potassium): สนับสนุนการทำงานของหัวใจ เส้นประสาท และกล้ามเนื้อ อีกทั้งช่วยลำเลียงสารอาหารเข้าสู่เซลล์ ขับของเสียออกจากเซลล์ และส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญ
- คลอไรด์ (Chloride): ช่วยรักษาสมดุลของเหลว ความดันโลหิต และการทำงานของระบบไหลเวียนให้เป็นปกติ
- แคลเซียม (Calcium):ช่วยให้หลอดเลือดหดและขยายตัวเพื่อควบคุมความดันโลหิต อีกทั้งยังมีส่วนในการหลั่งฮอร์โมนและเอนไซม์ที่ช่วยส่งสัญญาณประสาท
- แมกนีเซียม (Magnesium): เกี่ยวข้องกับการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- ฟอสเฟต: มีบทบาทสำคัญต่อระบบโครงกระดูก รวมถึงการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ
- ไบคาร์บอเนต: ช่วยรักษาสมดุลกรด–เบส (pH) ในเลือด และช่วยลำเลียงคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นของเสียออกไปตามกระแสเลือด
ภาวะ อิเล็กโทรไลต์ ไม่สมดุล (Electrolyte Imbalance) จึงหมายถึง การที่ร่างกายมีระดับของแร่ธาตุเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง สูงหรือต่ำกว่าค่าปกตินั่นเองค่ะ (2)
ภาวะไม่สมดุลของอิเลกโทรไลต์เกิดจากอะไร?
ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์มักเกิดขึ้นเมื่่อร่างกายสูญเสียของเหลวมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเหงื่อออกอย่างหนักจากอากาศร้อนหรือการออกกำลังกาย รวมถึงการอาเจียนหรือท้องเสียบ่อยครั้ง สภาวะเหล่านี้ล้วนทำให้ระดับแร่ธาตุสำคัญในร่างกายลดต่ำลงได้
โดยทั่วไป การเสียเหงื่อสามารถทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ถึงร้อยละ 2–6 และหากไม่ได้ดื่มน้ำหรือทดแทนเกลือแร่อย่างเพียงพอ ความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์ก็จะเสียสมดุลได้ง่ายขึ้น (2)
นอกจากการสูญเสียของเหลวแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะนี้ เช่น
- แผลไฟไหม้รุนแรง: ที่ทำให้ร่างกายสูญเสียของเหลวจำนวนมาก
- โรคเรื้อรังบางชนิด: อย่างเช่นโรคไต ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมสมดุลของแร่ธาตุ
- การทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ: ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารสำคั
- โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง: ที่อาจส่งผลต่อสมดุลกรด–เบสในร่างกาย
- ภาวะเมตาบอลิกอัลคาโลซิส: ภาวะที่ค่า pH ในเลือดสูงกว่าปกติ
- การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาระบายหรือสเตียรอยด์ ซึ่งอาจกระทบต่อสมดุลอิเล็กโทรไลต์โดยไม่รู้ตัว
7 สัญญาณเตือน เมื่อร่างกายเสียสมดุลอิเล็กโทรไลต์
อาการของภาวะอิเล็กโทรไลต์ ไม่สมดุลอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของอิเล็กโทรไลต์ที่ผิดปกติและความรุนแรงของภาวะนั้น ๆ หากเป็นเพียงความผิดปกติเล็กน้อย อาจไม่แสดงอาการที่ชัดเจน แต่เมื่อความไม่สมดุลมีมากขึ้น ร่างกายก็อาจเริ่มส่งสัญญาณเตือนออกมา เช่น (1)
- รู้สึกสับสน หงุดหงิด หรือมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
- มีอาการท้องเสียหรือท้องผูก
- รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า หรือไม่มีแรง
- ปวดศีรษะบ่อยครั้ง
- มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเต้นเร็วผิดปกติ (Arrhythmia)
- กล้ามเนื้อมีอาการเป็นตะคริว เกร็ง กระตุก หรืออ่อนแรง มีอาการชา หรือเสียวซ่าบริเวณแขน ขา นิ้วมือ หรือนิ้วเท้า
- รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน
โดยรวมแล้ว อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสะท้อนให้เห็นว่าร่างกายกำลังเสียสมดุลของแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ
แนวทางการดูแลตัวเองเพื่อปรับสมดุลอิเล็กโทรไลต์
การรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายไม่ใช่เรื่องยาก ทางเราได้รวบรวมมาฝห้เรียบร้อยแล้วค่ะ (2)
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: การจิบน้ำบ่อย ๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการทำกิจกรรมที่ทำให้เราเสียเหงื่อ จะช่วยรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกายได้อย่างง่ายดายที่สุดค่ะ
- เลือกดื่มเครื่องดื่มที่เหมาะสม:
- น้ำมะพร้าว: เป็นตัวเลือกที่ดีมากเพราะมีอิเล็กโทรไลต์ตามธรรมชาติและมีน้ำตาลต่ำ
- เครื่องดื่มเกลือแร่: หากออกกำลังกายหนักหรือทำกิจกรรมที่ยาวนาน เครื่องดื่มเกลือแร่จะช่วยทดแทนอิเล็กโทรไลต์ที่สูญเสียไปได้อย่างรวดเร็วค่ะ
- ทานอาหารที่มีอิเล็กโทรไลต์สูง: นอกจากเครื่องดื่มแล้ว อาหารก็ช่วยได้เช่นกันค่ะ อาหารที่มีอิเล็กโทรไลต์สูง เช่น มันฝรั่ง อะโวคาโด กล้วย ผักโขม หรือสตรอว์เบอร์รี ก็เป็นตัวช่วยที่ดีค่ะ
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ไม่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะมีน้ำตาลสูงและไม่ได้ช่วยเติมอิเล็กโทรไลต์เท่าที่ควรค่ะ
- ปรับพฤติกรรมการออกกำลังกาย: หากคุณเป็นคนที่เหงื่อออกมาก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในวันที่อากาศร้อนจัด หรือหาห้องที่มีอากาศเย็นสบาย เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำมากเกินไปค่ะ
หากดูแลตัวเองตามวิธีเหล่านี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น การปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดค่ะ (2)
ภาวะอิเล็กโทรไลต์ ไม่สมดุล “เสี่ยง” ภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง?
ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์อย่างมีนัยสำคัญ (ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำเกินไป) อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงที่คุกคามชีวิตได้ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ประกอบด้วย (1)
- โคม่า
- อาการชัก
- ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (sudden cardiac arrest)
สรุป
ภาวะ อิเล็กโทรไลต์ ไม่สมดุล เป็นภาวะที่ร่างกายส่งสัญญาณว่าระบบการทำงานภายในกำลังต้องการความช่วยเหลือ การใส่ใจรับฟังเสียงของร่างกายผ่านอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย หรือตะคริว ควบคู่ไปกับการดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีและสมดุลจากภายใน หากคุณมีอาการที่น่ากังวลหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไปนะคะ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: ความรู้ทั่วไป
แหล่งอ้างอิง
1.clevelandclinic: ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์
2.webmd: ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์คืออะไร?
3.verywellhealth: สาเหตุของความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์และวิธีรักษา