ความรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ถือเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ หลายคนอาจมองข้ามไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่การปล่อยให้ร่างการอ่อนล้าสะสมอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและตรงจุดที่สุดในการฟื้นฟูพลังงานให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กินอะไรดี
ความรู้สึกเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต้องการการดูแลและสารอาหารที่จำเป็น สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับภาวะ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กินอะไรดี เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย ลองมาดูแนวทางเหล่านี้กันดีกว่าค่ะ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการหาของกินเพื่อประทังความหิว แต่เป็นการเลือกสรรสิ่งที่มีประโยชน์เพื่อเติมพลังจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง
1. กระเทียม
การกินกระเทียมเป็นประจำอาจช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้น ผิวดีขึ้น และสุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น ในศาสตร์อายุรเวท (Ayurveda) ซึ่งเป็นการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย มักใช้กระเทียมในกระบวนการล้างพิษ (ดีท็อกซ์) เพราะเชื่อว่าช่วยขจัดสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งสารพิษเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายกลับมามีสมดุลและพลังอีกครั้งค่ะ (3)
2. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
ความจริงแล้ว คาร์โบไฮเดรตมีบทบาทสำคัญในการให้พลังงานและสารอาหารจำเป็นต่อร่างกายนะคะ โดยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นแหล่งของแป้งและไฟเบอร์ที่ย่อยช้า ช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งอุดมไปด้วยวิตามินบีซึ่งมีส่วนสำคัญต่อระบบเผาผลาญ อาหารประเภทแป้ง เช่น พาสต้า ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือถั่ว ถือเป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์ หากเลือกในรูปแบบไม่ขัดสีค่ะ อาหารกลุ่มนี้จะค่อยๆ ปล่อยพลังงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณรู้สึกมีแรงได้ยาวนานตลอดทั้งวัน (2)
3. โปรตีนคุณภาพดี
การเลือกทานโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญ แต่การทานโปรตีนที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อแดงลายหินอ่อน จะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักจนอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงซึมได้ค่ะ ดังนั้น การเลือกทานอาหาร เช่น อกไก่ไม่มีหนัง หรือ ปลา อย่างปลาแซลมอนและปลาค็อด สามารถช่วยเพิ่มโปรตีนให้ร่างกายได้โดยไม่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย นอกจากนี้ ยังสามารถหาแหล่งโปรตีนที่ช่วยเพิ่มพลังงานได้จากอาหารอื่นๆ เช่น ถั่ว (อัลมอนด์, พิสตาชิโอ, วอลนัท), เมล็ดพืช (เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดเจีย, เมล็ดฟักทอง), โยเกิร์ตธรรมชาติ, พืชตระกูลถั่ว และ ไข่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและช่วยให้ร่างกายมีพลังงานอย่างต่อเนื่อง (1)
4.น้ำ
งานวิจัยชี้ว่า ภาวะขาดน้ำแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าได้ เพราะเมื่อระดับของเหลวในร่างกายต่ำลง หัวใจจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือด ซึ่งจะค่อยๆ ดึงพลังงานของคุณไปอย่างช้าๆ ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพอากาศร้อน ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะน้ำจะช่วยให้ทุกส่วนในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงและเคลื่อนไหวได้สะดวกตลอดวันค่ะ (1)
5. ไขมันดี
ไขมันไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป ไขมันดีจากธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด, ถั่วเปลือกแข็ง (อัลมอนด์, วอลนัท), เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์ และน้ำมันมะกอก เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมองและช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิด การขาดไขมันดีอาจทำให้รู้สึกสมองตื้อและอ่อนล้าได้ (4)
ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เกิดจากอะไร และควรดื่มอะไรดี?
แล้วควรดื่มอะไรดี? คำตอบที่ง่ายและดีที่สุดคือ น้ำเปล่า การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้าและช่วยให้นอนหลับสบายของเหลวที่ช่วยเพิ่มพลังงานอื่น ๆ เช่น ชาเขียวและน้ำจากผักและผลไม้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ (2) เช่น น้ำมะพร้าว เนื่องจากมีปริมาณอิเล็กโทรไลต์ที่สูง เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม อิเล็กโทรไลต์เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่มีประจุบวกหรือลบตามธรรมชาติเมื่อละลายในน้ำ อิเล็กโทรไลต์ช่วยให้ร่างกายควบคุมปฏิกิริยาเคมีและรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณมีอิเล็กโทรไลต์ต่ำ น้ำมะพร้าวก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ (5)
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กินวิตามินอะไรดี?
ภาวะอ่อนเพลียเรื้อรังอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะวิตามินที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานและเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตว่า ขาดวิตามินอะไรทำให้อ่อนเพลีย คำตอบที่พบบ่อยที่สุด คือ (2)
-
ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของ ฮีโมโกลบิน ซึ่งทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย การขาดธาตุเหล็กจะนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า วิงเวียน และไม่มีแรง
แหล่งอาหาร: ไข่ ผักโขม และ เนื้อแดง เช่น ตับ และ ผักใบเขียวเข้ม อย่างคะน้าหรือปวยเล้ง
-
วิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงและการทำงานของระบบประสาท เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะดูดซึมวิตามินชนิดนี้ได้น้อยลง ซึ่งการขาดวิตามินบี 12 มักพบในผู้สูงอายุและผู้ที่กินมังสวิรัติ และส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียและมีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า
แหล่งอาหาร: เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และ ผลิตภัณฑ์จากนม
สมุนไพรแก้อาการอ่อนเพลีย ทางเลือกจากธรรมชาติ
นอกเหนือจากกระเทียมแล้ว ยังมีสมุนไพรอีกชนิดที่ได้รับการยอมรับและมีการศึกษาอย่างกว้างขวางในเรื่องการสนับสนุนพลังงานของร่างกาย ใครที่กำลังมีสงสัยว่า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง กินอะไรดี เจ้า “โสม” (Ginseng) ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ โดยเฉพาะโสมสายพันธุ์ Panax ginseng มีงานวิจัยทบทวนวรรณกรรมหลายชิ้นที่บ่งชี้ว่าโสมอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่พบได้ (4) โดยเชื่อว่าสารออกฤทธิ์ในโสมที่เรียกว่า “จินเซนโนไซด์” (Ginsenosides) มีบทบาทในการปรับสมดุลและสนับสนุนการทำงานของร่างกายในสภาวะเครียด (6)
เติมพลังด่วน! กินอะไรให้สดชื่นใน 7-11?
สำหรับช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องการหาอะไรกินให้รู้สึกมีแรงในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ก็มีตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ลองมองหาสิ่งเหล่านี้แทนขนมหวานหรือน้ำอัดลมดูนะคะ:
- กล้วยหอม: ให้พลังงานจากน้ำตาลธรรมชาติและโพแทสเซียม
- นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ: ได้ทั้งโปรตีนและโปรไบโอติกส์
- ไข่ต้ม: แหล่งโปรตีนชั้นดีที่หาซื้อง่าย
- ถั่วอบเกลือ (ซองเล็ก): ให้โปรตีนและไขมันดี ช่วยให้อิ่มนาน
- นมอัลมอนด์ หรือนมถั่วเหลือง (สูตรไม่หวาน): เป็นทางเลือกเครื่องดื่มที่ช่วยให้สดชื่น
สรุป
อาการ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เป็นภาวะที่สามารถดูแลและบรรเทาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนโภชนาการ การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญในการฟื้นฟูพลังงานให้กับร่างกาย ตั้งแต่การเพิ่มสมุนไพรใกล้ตัวอย่าง กระเทียม ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ไปจนถึงการเลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน, โปรตีนคุณภาพดี, และไขมันดีให้สมดุล ควบคู่ไปกับการดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน การใส่ใจกับอาหารที่กินในแต่ละมื้อไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลังมากขึ้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานสุขภาพที่ดีในระยะยาวอีกด้วย
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: กระเทียม
แหล่งอ้างอิง
1.clevelandclinic: กินเพื่อพลังงาน: อาหารที่ช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยล้า
2.webmd: อาหารให้พลังงานที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ
3.ayurved.dpu.edu: ประโยชน์ของกระเทียมต่อสุขภาพตามหลักอายุรเวช
4.verywellhealth: ควรกินอะไรเมื่อคุณมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
5.webmd: ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว
6.National Library of Medicine: ยาสมุนไพรเพื่อการกีฬา: บทวิจารณ์