เผย กิน เนื้อมะพร้าว อ้วนไหม พร้อม 5 ประโยชน์ที่อาจคาดไม่ถึง

เผย กินเนื้อมะพร้าว อ้วนไหม ? พร้อม 5 ประโยชน์ที่อาจคาดไม่ถึง

หลายคนคงเคยเพลิดเพลินกับรสชาติหวานมันอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อมะพร้าว ไม่ว่าจะทานสดๆ เป็นชิ้น หรือเป็นส่วนประกอบในอาหารและขนมหวาน แต่ในขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า “กินเนื้อมะพร้าว อ้วนไหม?” ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องไขมันและแคลอรี่ที่ค่อนข้างสูง วันนี้มินดี้จะพาไปหาคำตอบอย่างละเอียด เจาะลึกถึงคุณค่าทางโภชนาการและเคล็ดลับการทานอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณมีความสุขกับการทานมะพร้าวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักค่ะ

 

กินเนื้อมะพร้าว อ้วนไหม ?

หากคุณกำลังมองหาคำตอบสำหรับคำถามที่ว่าทาน เนื้อมะพร้าว อ้วนไหม คำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดคือ “ขึ้นอยู่กับปริมาณและรูปแบบการบริโภค” ค่ะ แม้เนื้อมะพร้าวจะให้พลังงานสูง แต่ก็มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่ทำให้มันแตกต่างจากไขมันทั่วไป การทำความเข้าใจองค์ประกอบของมะพร้าวจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น

ในเนื้อมะพร้าว 1 ถ้วย จะประกอบไปด้วย (3)

  • แคลอรี่: 283
  • โปรตีน: 2.66 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต: 12.2 กรัม
  • ไขมัน: 26.8 กรัม
  • น้ำตาล: 4.98 กรัม
  • ใยอาหาร: 7.2 กรัม
  • ซีลีเนียม: 8.08 ไมโครกรัม
  • ทองแดง: 0.35 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส: 90.4 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม: 285 มิลลิกรัม
  • เหล็ก: 1.94 มิลลิกรัม
  • สังกะสี: 0.88 มิลลิกรัม
  • แมงกานีส: 1.2 มิลลิกรัม

ดังนั้น แม้ว่าเนื้อในมะพร้าวจะมีไขมันดี ใยอาหาร และแร่ธาตุสำคัญ แต่ด้วยปริมาณแคลอรี่และไขมันที่สูง จึงควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไปค่ะ (1) งานวิจัยหนึ่งในปี 2018 แนะนำว่า การบริโภคมะพร้าวไม่ควรเกินปริมาณไขมันอิ่มตัวที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาแนะนำ ซึ่งควรน้อยกว่า 10% ของปริมาณแคลอรี่รวมที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน (4)

 

คุณค่าทางโภชนาการอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อมะพร้าว

นอกเหนือจากไขมันดีและใยอาหารแล้ว เนื้อมะพร้าวยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายอีกหลายชนิด (3)  ได้แก่:

  • แมงกานีส (Manganese): มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย รวมถึงสุขภาพกระดูกและการเผาผลาญสารอาหาร
  • ทองแดง (Copper): ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง สนับสนุนระบบประสาทและภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  • ซีลีเนียม (Selenium): ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
  • ธาตุเหล็ก (Iron): เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย

นอกจากนี้ ไขมันดีในมะพร้าวสดสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีเมื่อรับประทานในตอนเช้า นอกจากนี้สารอาหารต่างๆ ในมะพร้าว โดยเฉพาะโปรตีนและธาตุเหล็ก ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม และช่วยลดปัญหาผมบางหรือผมร่วงได้อีกด้วยค่ะ (2)

 

มะพร้าว VS มะพร้าวอ่อน อะไรดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน? 

1. สารอาหาร 

ทั้งมะพร้าวอ่อนและมะพร้าวแก่ (หรือมะพร้าวธรรมดา) อุดมไปด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ แต่มีสัดส่วนแตกต่างกัน (4)

  • มะพร้าวแก่จะมี แมงกานีส โซเดียม ทองแดง และซีลีเนียม สูงกว่า
  • มะพร้าวอ่อนจะมี โพแทสเซียมสูง น้ำเยอะ และสารต้านอนุมูลอิสระ มากกว่า

2. การใช้งาน

  • มะพร้าวแก่ นิยมใช้เนื้อมะพร้าวมาทำกะทิ น้ำมันมะพร้าว หรือขนมแบบดั้งเดิม (4)
  • มะพร้าวอ่อน นิยมกินเป็นของสด ดื่มน้ำเพื่อดับกระหาย และใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนทำแกง ขนมหวาน และเครื่องดื่ม (4)

3. อะไรดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน?

โดยทั่วไป มะพร้าวอ่อนจะดีต่อสุขภาพมากกว่า เพราะแคลอรีและไขมันต่ำ น้ำเยอะ ให้ความชุ่มชื้นดี มีอิเล็กโทรไลต์ธรรมชาติ เหมาะสำหรับดื่มหลังออกกำลังกาย (4)

ในขณะที่ มะพร้าวแก่ ให้ไฟเบอร์และไขมันดี (MCTs) เหมาะกับการนำไปปรุงอาหาร แต่ถ้าบริโภคมากไปก็อาจให้พลังงานสูงเกินความจำเป็น (4)

  • ถ้าเน้นความสดชื่น เติมน้ำ และควบคุมน้ำหนัก → เลือกมะพร้าวอ่อน
  • ถ้าใช้ประกอบอาหารไทยแบบดั้งเดิม หรือสกัดน้ำมัน → เลือกมะพร้าวแก่

 

สรุป

เนื้อมะพร้าว ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของความอ้วน หากเรารู้จักเลือกทานในรูปแบบที่เหมาะสมและควบคุมปริมาณให้พอดี ด้วยคุณสมบัติของไขมัน MCTs ที่ให้พลังงานได้เร็ว และใยอาหารสูงที่ช่วยให้อิ่มนาน เนื้อมะพร้าวจึงสามารถเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การกินเพื่อสุขภาพและการควบคุมน้ำหนักได้อย่างลงตัวค่ะ

 

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: ความรู้ทั่วไป

 

แหล่งอ้างอิง

1.clevelandclinic: 7 ประโยชน์ต่อสุขภาพของมะพร้าว

2.timesofindia: 5 เหตุผลที่ควรกินมะพร้าวสดเป็นอย่างแรกในตอนเช้า

3.medicalnewstoday: เนื้อมะพร้าว: คุณค่าทางโภชนาการ ประโยชน์ ความเสี่ยง และการใช้

4.timesofindia: มะพร้าว VS มะพร้าวอ่อน อะไรดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน?

 

*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ

บทความอื่นๆ