Welcome to Protriva น้ำมันสกัดเย็นเกรดพรีเมี่ยม   คลิกเพื่อฟังข้อความที่ไฮไลท์! Welcome to Protriva น้ำมันสกัดเย็นเกรดพรีเมี่ยม

โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร 5 อย่าง เช็กให้ชัวร์ก่อนรับประทาน

โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร 5 อย่าง เช็กให้ชัวร์ก่อนรับประทาน

โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียดีในลำไส้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการท้องเสีย และยังอาจช่วยบรรเทาอาการแพ้อาหารได้อีกด้วย การรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกเป็นประจำ จึงเป็นการดูแลสุขภาพลำไส้ให้แข็งแรง

โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร 5 อย่าง เช็กให้ชัวร์ก่อนรับประทาน

คำถามยอดนิยมว่า โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร เป็นคำถามที่หลายคนทั้งที่เป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มกิน หรือหลาย ๆ คนที่กำลังสนใจตัวช่วยขับถ่ายนี้  การรับประทานโพรไบโอติกคู่กับอาหารบางชนิด อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของโพรไบโอติกได้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถกินได้อย่างถูกวิธี  ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยในคำถามดังกล่าว ลองมาอ่านกันได้เลยครับ  

 

1. ยาปฏิชีวนะ

การรับประทานยาปฏิชีวนะพร้อมกับโพรไบโอติกอาจทำให้โพรไบโอติกทำงานได้ไม่เต็มที่  เพราะโพรไบโอติกบางชนิดอาจส่งผลต่อการดูดซึมยาได้ และในกรณีที่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาต่อเนื่อง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งหากต้องการกินอาหารเสริมเพิ่มเติม ดังนั้น เพื่อให้ได้ประโยชน์จากทั้งสอง ควรรับประทานโพรไบโอติกหลังจากยาปฏิชีวนะไปแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมงนะครับ (1)

 

2. อาหารที่มีความเป็นกรดสูง

อาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว และเครื่องดื่มโซดา อาจทำให้จุลินทรีย์ในโพรไบโอติกไม่สามารถอยู่รอดได้ เพราะกรดจะมีผลต่อการทำงานและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในลำไส้ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีความเป็นกรดสูงพร้อมกับโพรไบโอติก เพื่อให้จุลินทรีย์มีสภาพที่เหมาะสมในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ (4)

 

3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกับโพรไบโอติกอาจทำให้ประสิทธิภาพของโพรไบโอติกลดลง อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลกระทบต่อลำไส้ เช่น ทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ ซึ่งอาจขัดขวางการทำงานของโพรไบโอติกในการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ครับ (6)

 

4. อาหารที่มีน้ำตาลสูง

อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ของหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาจส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ ซึ่งอาจทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้เสียไป การทานโพรไบโอติกในขณะที่รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาจลดประสิทธิภาพของโพรไบโอติกได้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้และรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงเพื่อเสริมการทำงานของโพรไบโอติกครับ (5)

 

5. เครื่องดื่มร้อน

 เครื่องดื่มร้อนเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรระมัดระวัง สำหรับคำถาม  โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร เนื่องจาก เป็นจุลินทรีย์ที่ไวต่ออุณหภูมิสูง การทานโพรไบโอติกร่วมกับเครื่องดื่มร้อน อาจทำให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ถูกทำลายได้ จึงควรทานโพรไบโอติกคู่กับเครื่องดื่มที่อุณหภูมิห้อง หรือในกรณีที่ต้องการทานพร้อมอาหาร ควรรอให้เครื่องดื่มเย็นลงก่อนครับ

 

โพรไบโอติก ช่วยอะไร ผู้หญิง

จุลินทรีย์ที่ดีในช่องคลอดมีความสำคัญต่อการรักษาสมดุล ป้องกันการติดเชื้อ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระบบสืบพันธุ์ ความหลากหลายของจุลินทรีย์ในช่องคลอดมีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่ง โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุล ป้องกันโรคทางนรีเวช และอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก เทคโนโลยี 16SrRNA ทำให้สามารถวิเคราะห์จุลินทรีย์ได้อย่างละเอียด ส่งเสริมการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ในอนาคต โปรไบโอติกอาจมีบทบาทในการรักษาโรคทางสุขภาพสตรีได้มากขึ้น ทั้งนี้ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจกลไกของมันอย่างสมบูรณ์ (7)

 

โพรไบโอติก กินกับกาแฟได้ไหม

การทานโพรไบโอติกคู่กับกาแฟเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ควรระวังเรื่องอุณหภูมิของกาแฟ เนื่องจากความร้อนสูงอาจทำลายจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในโปรไบโอติกได้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเลือกดื่มกาแฟที่อุ่นหรือเย็นลงก่อน

ทานโพรไบโอติกในระยะยาวมีผลเสียต่อร่างกายหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว โพรไบโอติกถือว่าปลอดภัยสำหรับคนสุขภาพดี เนื่องจากมีประวัติการใช้งานมานานและแพร่หลาย แต่ก็มีข้อควรระวังดังนี้:

  • กลุ่มเสี่ยง: ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ทานยารักษาภูมิคุ้มกัน หรือทารกแรกเกิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  • ความเสี่ยงจากเชื้อปนเปื้อน: แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็มีโอกาสที่ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกจะปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงได้
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ: เพื่อลดความเสี่ยง ควรเลือกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีการรับรองคุณภาพ


โพรไบโอติก รักษาสิวได้หรือไม่

โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจช่วยบรรเทาและรักษาสิวได้ในบางกรณี โดยเฉพาะชนิด Lactobacillus และ Bifidobacterium ซึ่งมีงานวิจัยสนับสนุนว่าสามารถลดการอักเสบและการเกิดสิวได้ กลไกการทำงาน เกิดจากการที่โพรไบโอติกช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ลดการผลิตสารอักเสบ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้นและลดโอกาสการเกิดสิว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนในการเห็นผล การรับประทานโพรไบโอติก ควรเสริมร่วมกับการดูแลผิวและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก่อนตัดสินใจใช้โปรไบโอติกในการรักษาสิว ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล (8)

 

สรุป

โพรไบโอติกปลอดภัยพอสมควร แต่ก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับประทานเสมอ (3) และมีวิธีการกินที่ไม่ต้องระมัดระวังมาก สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก วันนี้เรานำเอาคำตอบจากคำถามที่ว่า โพรไบโอติก ไม่ควรกินกับอะไร นะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป้นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังเป้นมือใหม่ไม่มากก็น้อย

 

แหล่งอ้างอิง

1.webmd.com

2.wellgard.co.uk

3.โปรไบโอติกส์

4.การใช้ประโยชน์จากโพรไบโอติกให้ได้มากที่สุด

5.การบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูงและความสมดุลระหว่างแบคทีเรียในลำไส้ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

6.การบำบัดด้วยโปรไบโอติกเป็นแนวทางแบบบูรณาการสำหรับอาการผิดปกติจากการใช้แอลกอฮอล์ในโรคตับ| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

7.บทบาทของโปรไบโอติกต่อสุขภาพช่องคลอด| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

8.ผลกระทบของการบริโภคโปรไบโอติกและการรับประทานอาหารมังสวิรัติต่อผลลัพธ์ของสิว| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

Skip to content คลิกเพื่อฟังข้อความที่ไฮไลท์!