5 สาเหตุของ อาการนอนไม่หลับ เกิดจากอะไร และแนวทางดูแลตัวเอง

5 สาเหตุของ อาการนอนไม่หลับ เกิดจากอะไร และแนวทางดูแลตัวเอง

เคยไหมคะที่ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า แต่สมองกลับไม่ยอมหยุดคิด วนเวียนอยู่กับเรื่องราวต่างๆ จนสุดท้ายก็ต้องพลิกตัวไปมาทั้งคืน อาการนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว การทำความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการกลับมานอนหลับได้อย่างมีคุณภาพอีกครั้ง

สาเหตุของ อาการนอนไม่หลับ

ภาวะ นอนไม่หลับ เกิดจากอะไร นั้น อาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่มักเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน การที่สมองไม่หยุดคิดหรือความรู้สึกกระสับกระส่ายตอนกลางคืนนั้นเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างกำลังรบกวนสมดุลของร่างกายและจิตใจอยู่ค่ะ เรามาดูกันว่าสาเหตหลักๆ ของอาการดังกล่าวมีอะไรบ้าง

 

1. ปัจจัยด้านจิตใจและความเครียด

ความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ถือเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่รบกวนการนอนหลับ ความเครียดจากงาน การเรียน สุขภาพ การเงิน หรือปัญหาครอบครัว อาจทำให้จิตใจของคุณวุ่นวายโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ส่งผลให้หลับยาก นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เช่น การสูญเสียคนที่รัก การหย่าร้าง หรือการตกงาน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้เช่นกัน (3)

 

2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสุขอนามัยการนอน

“นาฬิกาชีวิต” หรือจังหวะชีวภาพของร่างกาย ทำหน้าที่ควบคุมการนอน-ตื่น การเผาผลาญ และอุณหภูมิในร่างกาย หากจังหวะนี้ถูกรบกวน เช่น จากการเดินทางข้ามเขตเวลาหลายเขต (เจ็ตแล็ก) การทำงานกะดึก หรือเปลี่ยนกะบ่อย ๆ ก็อาจทำให้วงจรการนอนหลับแปรปรวนและนำไปสู่อาการนอนไม่หลับได้ (3)

 

3. พันธุกรรม

นวโน้มที่จะมีปัญหานอนไม่หลับ อาจมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง กล่าวคือ หากคนในครอบครัวของคุณ—เช่น พ่อแม่หรือพี่น้อง—เคยมีประวัตินอนไม่หลับหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน เช่น หลับยาก ตื่นบ่อย หรือนอนไม่เต็มอิ่ม ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่คุณจะประสบกับปัญหาในลักษณะเดียวกันได้เช่นกัน แม้ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการใช้ชีวิต และสุขภาพจิตจะมีบทบาทสำคัญ แต่พันธุกรรมก็อาจเป็นอีกหนึ่งกลไกเบื้องหลังที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มจะไวต่อความเครียดหรือความเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ระบบการนอนถูกรบกวนได้ง่ายกว่าคนทั่วไป (2)

 

4. ปัจจัยทางร่างกายและภาวะสุขภาพ

ภาวะสุขภาพจิต  ผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังประมาณครึ่งหนึ่งยังมีภาวะสุขภาพจิตอย่างน้อยหนึ่งอย่าง เช่น โรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า (2) ซึ่งความผิดปกติด้านจิตใจ เช่น โรควิตกกังวล หรือโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) สามารถส่งผลโดยตรงต่อการนอนหลับ เช่นเดียวกับภาวะซึมเศร้าที่มักทำให้ผู้ป่วยตื่นเช้ากว่าปกติ อาการนอนไม่หลับจึงมักเกิดควบคู่กับภาวะทางจิตใจเหล่านี้ ทั้งนี้ยังรวมไปถึง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นภาวะที่ทำให้การหายใจหยุดชะงักเป็นช่วง ๆ ระหว่างนอน ส่งผลให้นอนหลับไม่สนิท ส่วนโรคขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome) จะทำให้รู้สึกไม่สบายที่ขา จนต้องขยับอยู่ตลอดเวลาเมื่อพยายามจะนอน ส่งผลให้หลับยากหรือหลับไม่ต่อเนื่อง (3)

 

5. การใช้ยาหรือสารบางชนิด

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา หรือโคล่า รวมถึงนิโคตินในบุหรี่ ล้วนเป็นสารกระตุ้นที่รบกวนการนอนได้ หากบริโภคช่วงเย็นอาจทำให้หลับยาก ในขณะที่แอลกอฮอล์แม้ช่วยให้หลับในช่วงแรก แต่จะขัดขวางการนอนในระยะลึก และทำให้ตื่นกลางดึกได้ง่าย (3)

 

เครียดนอนไม่หลับ วิธีแก้ ที่เน้นการปรับสมดุลกายใจ

เมื่อความเครียดเป็นต้นตอ การดูแลจิตใจจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราจึงนำเอาวิธีที่ทำได้ไม่ยากและอาจเป็นตัวช่วยที่ดีได้ค่ะ (4)

1.รักษาตารางการนอนให้สม่ำเสมอ

การเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวันรวมถึง ในวันหยุด สามารถช่วยปรับจังหวะการทำงานของร่างกาย (นาฬิกาชีวิต) ให้คงที่มากขึ้น ส่งผลให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นและตื่นมารู้สึกสดชื่นขึ้นในแต่ละวัน

2.สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ช่วยผ่อนคลาย

ลองเพิ่มกิจกรรมที่ช่วยลดความตึงเครียดและเตรียมจิตใจให้พร้อมสำหรับการพักผ่อน เช่น การเขียนบันทึกความคิด การทำสมาธิ ฝึกหายใจลึก ๆ หรือเล่นโยคะเบา ๆ ช่วงก่อนนอน กิจกรรมเหล่านี้สามารถช่วยให้ร่างกายและจิตใจสงบลง ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น

3.ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด

หากคุณต้องรับผิดชอบภาระหลายอย่างในแต่ละวัน อย่าลังเลที่จะขอให้คู่ชีวิตหรือสมาชิกในครอบครัวช่วยแบ่งเบาภาระ โดยเฉพาะงานบ้านหรืองานที่อาจรบกวนเวลาการพักผ่อน เช่น การซักผ้า ทำความสะอาด หรือดูแลเด็กเล็กการมีเวลาสำหรับตัวเองและการนอนหลับอย่างเพียงพอคือสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพของคุณค่ะ 

4.ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคุณเป็นอันดับแรก

การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น ทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายเป็นประจำ และจัดการกับความเครียด สามารถช่วยส่งเสริมการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการไม่สบายต่าง ๆ เช่น อาการก่อนมีประจำเดือน อาการในช่วงวัยหมดประจำเดือน ภาวะซึมเศร้า ไปจนถึงอาการปวดเรื้อรังอีกด้วย

 

แก้อาการนอนไม่หลับ ธรรมชาติ ด้วยอาหารและสมุนไพร

นอกจากการปรับพฤติกรรมแล้ว การเลือกทานอาหารบางอย่างก็เป็นอีกแนวทางธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมการนอนหลับได้ดีค่ะ (5)

  • กีวี: มีงานวิจัยบางชิ้นที่สนับสนุนว่า การบริโภคกีวีอาจช่วยส่งเสริมการนอนหลับได้ โดยหนึ่งในงานวิจัยที่ได้รับการอ้างถึงบ่อยครั้งพบว่า ผู้เข้าร่วมที่รับประทานกีวีจำนวน 2 ผลก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีแนวโน้มหลับได้เร็วขึ้น หลับได้นานขึ้น และรายงานว่าคุณภาพการนอนหลับโดยรวมดีขึ้น
  • ถั่วต่างๆ: ถั่วอย่างอัลมอนด์ วอลนัท พิสตาชิโอ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นแหล่งของเมลาโทนิน โอเมก้า-3 แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งล้วนมีบทบาทในการส่งเสริมการนอนหลับ สารอาหารเหล่านี้เมื่อทำงานร่วมกันจะช่วยให้หลับง่ายขึ้น หลับได้นานขึ้น และมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น
  • ปลาที่มีไขมัน: การศึกษาวิจัยพบว่าปลาที่มีไขมันอาจเป็นอาหารที่ดีสำหรับการนอนหลับที่ดีขึ้น โดยนักวิจัยเชื่อว่าปลาที่มีไขมันสูงอาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วยการให้วิตามินดีและกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยและควบคุมเซโรโทนินของร่างกาย

 

ร่างกายขาดอะไรถึงนอนไม่หลับ?

บางครั้งอาการนอนไม่หลับอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดสารอาหารบางอย่าง โดยเฉพาะ แมกนีเซียม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบประสาทที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างระดับแมกนีเซียมที่ต่ำกับปัญหาการนอนหลับ แมกนีเซียมสามารถช่วยให้คนเรานอนหลับได้ดีขึ้น ทั้งในแง่ของการหลับง่าย หลับลึก และการคงจังหวะการนอนที่สม่ำเสมอมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ข้อมูลทางโภชนาการในสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ใหญ่และเด็กเกือบครึ่งหนึ่งอาจได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ จากอาหารในแต่ละวัน (6)  แต่อย่างไรก็ตาม การจะสรุปว่าร่างกายขาดสารอาหารหรือไม่นั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลและประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรซื้อวิตามินเสริมมาทานเองโดยไม่ได้ปรึกษาผู้รู้ก่อนนะคะ เพราะอาจส่งผลต่อสุขภา วะ ด้านอื่นได้

 

สรุป

ดังนั้นแล้ว อาการ นอนไม่หลับ เกิดจากอะไร มีได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความเครียดและปัจจัยทางจิตใจ, พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม, สภาพแวดล้อมในห้องนอน, ไปจนถึงปัจจัยทางร่างกาย การทำความเข้าใจต้นตอของปัญหาจะช่วยให้เราสามารถเลือกแนวทางการดูแลตัวเองได้อย่างตรงจุดมากขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การสร้างกิจวัตรการนอนที่สม่ำเสมอ, การผ่อนคลายความเครียดก่อนนอน, และการใส่ใจกับสภาพแวดล้อมในห้องนอน ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ คืน

 

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่: แมกนีเซียม

 

แหล่งอ้างอิง

1.Webmd: อาการนอนไม่หลับในผู้หญิง

2.clevelandclinic: นอนไม่หลับ

3..mayoclinic: นอนไม่หลับ

4.sleepfoundation: โรคนอนไม่หลับกับผู้หญิง

5.sleepfoundation: อาหารที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณนอนหลับ

6.sleepfoundation: การใช้แมกนีเซียมเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น

 

*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความอื่นๆ