น้ำมันรำข้าวเป็นที่นิยมในฐานะ “น้ำมันเพื่อสุขภาพ” ในญี่ปุ่น เอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดีย และปัจจุบันกลายเป็นไอเทมยอดฮิตติดครัวของคนใส่ใจสุขภาพไปแล้ว ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ โดยน้ำมันรำข้าว คือ น้ำมันที่สกัดจาก “รำ” และ “จมูกข้าว” ซึ่งเป็นส่วนที่อุดมด้วยสารอาหารของเมล็ดข้าว มีกรดไขมันที่สมดุลและสารต้านอนุมูลอิสระสูง
แม้หลายคนอาจจะพอรู้จักประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวมาบ้างแล้ว แต่ประเด็นที่หลายคนยังอยากรู้ให้แน่ชัดคือ น้ำมันรำข้าว กินทุกวันดีไหม บ้างก็ได้ยินว่าดี แต่ไม่แน่ใจว่าควรกินอย่างไร กินมากไปจะอ้วนไหม หรือถ้าใช้แทนน้ำมันชนิดอื่นในทุกมื้อจะปลอดภัยจริงหรือเปล่า คำตอบคือ: “กินได้ทุกวัน” แต่ควรกินอย่างเหมาะสม โดยแนะนำปริมาณสูงสุด 30 กรัมต่อวัน (1) นั่นเองค่ะ โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกพบว่า น้ำมันรำข้าวมีผลในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-C) ได้ดีกว่าการบริโภครำข้าวทั้งเมล็ด เช่น การกินข้าวกล้องหรือรำข้าวบดทั่วไป นั่นก็เพราะในน้ำมันรำข้าวมีสารสำคัญที่สกัดออกมาอย่างเข้มข้น ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ง่ายกว่า ยิ่งไปกว่านั้น หากใช้ ในปริมาณมากกว่า 30 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน และ ต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ จะเห็นผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชีย ซึ่งผลการศึกษาชี้ว่า มีแนวโน้มตอบสนองต่อการบริโภคน้ำมันรำข้าวได้ดีกว่าชาวตะวันตก (2)
น้ำมันรำข้าวถือเป็นแหล่งของวิตามินอีที่ดี และยังอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งแบบเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับสมดุลระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ส่งผลให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้อีกด้วย (4)
น้ำมันรำข้าวมีคุณสมบัติในการช่วยเรื่องการนอนหลับ มีผลการวิจัยพบว่าสารสกัดจากรำข้าวมีศักยภาพในการเป็นตัวช่วยเสริมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ โดยช่วยให้หลับเร็วขึ้น นอนนานขึ้น และมีประสิทธิภาพการนอนที่ดีขึ้น รวมถึงลดความง่วงในตอนกลางวัน โดยไม่พบผลข้างเคียงที่น่ากังวลค่ะ (5) แต่ในกรณีที่กินก่อนนอน แนะนำให้กิน น้ำมันรำข้าวในรูปแบบสกัดเย็นมากกว่าเพื่อความสะดวกค่ะ
น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สามารถใช้น้ำมันรำข้าวในการทำ oil pulling เพื่อช่วยลดกลิ่นปากได้ ผลวิจัยพบว่า สามารถช่วยลดกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ (6)
*Oil Pulling คือ การดูแลสุขภาพช่องปากตามแนวทางอายุรเวทของอินเดียโบราณ โดยการอมน้ำมัน (เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา หรือน้ำมันมะกอก) ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วกลั้วให้ทั่วปาก ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที จากนั้นจึงบ้วนทิ้ง
น้ำมันรำข้าว สามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องได้เช่นเดียวกับน้ำมันปรุงอาหารทั่วไป อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือควรหลีกเลี่ยงการวางในที่ที่โดนแสงแดดเป็นเวลานาน เพราะหากน้ำมันรำข้าวสัมผัสแสงแดดนานเกินไป จะเริ่มเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้วิตามินอีสลายตัวและคุณค่าทางโภชนาการลดน้อยลง (3)
เนื่องจากน้ำมันรำข้าวอาจลดความดันโลหิต ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนนำน้ำมันรำข้าวมารับประทาน (4)
น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันพืชที่อุดมไปด้วยไขมันดี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแกมมา-ออริซานอล ซึ่งมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ปรับสมดุลไขมันในเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวาน หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ไม่เกิน 30 กรัมต่อวัน ก็สามารถกินได้ทุกวันอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยให้นอนหลับดีขึ้น และอาจช่วยลดกลิ่นปากได้เมื่อนำมาใช้อมน้ำมัน ทั้งนี้ควรเก็บแบบหลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีแสงแดด เพื่อคงคุณค่าสารอาหารให้ได้สูงสุด
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: น้ำมันรำข้าว
1.Webmd: รำข้าว- การใช้, ผลข้างเคียง,และอื่นๆอีกมากมาย
NUTRITION SCIENCE LABORATORY(THAILAND) COMPANY LIMITED No. 9, Soi Srinakarin 38, Nong Bon Subdistrict, Prawet District, Bangkok 10250
02-123-3860
Mon - Fri 08.00 - 17.00 hrs.
