ข้อควรรู้ Astaxanthin ห้ามกินกับอะไร เพื่อความปลอดภัย

ข้อควรรู้ Astaxanthin ห้ามกินกับอะไร เพื่อความปลอดภัย

แอสตาแซนทิน (Astaxanthin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลังที่พบได้ตามธรรมชาติในสาหร่ายทะเลขนาดเล็กและสัตว์ทะเลบางชนิด เช่น แซลมอน กุ้ง และล็อบสเตอร์ ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งเชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ

 

ข้อควรรู้ Astaxanthin ห้ามกินกับอะไร เพื่อความปลอดภัย

 

ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมาย ก็ต้องระมัดระวังในการใช้ โดยในบทความนี้เรารวบรวมว่า Astaxanthin ห้ามกินกับอะไร  เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยากับยาหรือสารบางชนิด ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้แอสตาแซนธิน เราจำเป็นต้องรู้ว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทานร่วมกับสารชนิดนี้ค่ะ ลองไปดูกันเลยค่ะ

 

1.ยาลดความดันโลหิตสูง

 

แอสตาแซนทินอาจเสริมฤทธิ์ยาลดความดันโลหิต ทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ ควรระมัดระวังและปรึกษาแพทย์หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ยากลุ่ม 5-แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์ (5-Alpha Reductase Inhibitor): ยาในกลุ่มนี้ เช่น ดูทาสเทอไรด์ (Dutasteride) และฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride)  (3)

 

2.ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด

แอสตาแซนทินอาจมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด หากรับประทานร่วมกับยาลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป (ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ) ซึ่งเป็นอันตรายได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังเป็นพิเศษ  (2) 

 

3.ยาละลายลิ่มเลือด

เนื่องจากมีรายงานว่าแอสตาแซนธินอาจทำปฏิกิริยากับยาวาร์ฟาริน ซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยฟกช้ำหรือเลือดออก หากคุณใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ร่วมกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและปรับขนาดยาตามความเหมาะสม (4)

 

4.ยาคอเลสเตอรอล

แอสตาแซนธินอาจส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งอาจมีผลเสริมฤทธิ์กับยาลดไขมัน เช่น กลุ่มสแตตินและกรดไขมันโอเมก้า 3 ดังนั้น หากใช้แอสตาแซนธินร่วมกับยาเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อติดตามระดับไขมันในเลือดและปรับขนาดยาตามความเหมาะสม  (4)

 

Astaxanthin ใครไม่ควรกิน

 

1.ผู้ที่แพ้อาหารทะเลหรือสาหร่าย

 

เนื่องจากแอสตาแซนธินเป็นเม็ดสีแคโรทีนอยด์สีแดงส้มที่พบตามธรรมชาติในสาหร่ายและอาหารทะเลบางประเภท หากคุณมีประวัติแพ้อาหารทะเล เช่น แซลมอน กุ้ง ล็อบสเตอร์ หรือสาหร่าย (2) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอสตาแซนทิน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประเมินความเสี่ยงของการแพ้

 

2.ผู้ที่แพ้แคโรทีนอยด์

 

 แอสตาแซนทินเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ หากคุณทราบว่าตนเองแพ้สารแคโรทีนอยด์ชนิดอื่น ๆ เช่น เบต้าแคโรทีน หรือแคนทาแซนทิน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอสตาแซนทิน (3)

 

3.สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการรับประทานแอสตาแซนทินในสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอสตาแซนทินในช่วงดังกล่าว (1)

 

4.ผู้มีอาการโรคกระดูกพรุนหรือภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ

 แอสตาแซนทินอาจมีผลลดระดับแคลเซียมในเลือด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนหรือภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ  (3)

 

5.ภาวะความดันโลหิตผิดปกติ

ทั้งความดันโลหิตสูงและต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากแอสตาแซนทินอาจมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อทานแอสตาแซนทิน  (3)

 

แอสตาแซนธิน ลดฝ้าได้ไหม

แอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพผิว แต่ในเรื่องของการลดฝ้านั้น ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม แอสตาแซนธินอาจมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวโดยรวม ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และอาจช่วยลดเลือนรอยด่างดำ ฝ้า กระ ได้บ้าง แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลค่ะ

 

แอสตาแซนธินกินเวลาไหนดีที่สุด

เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานแอสตาแซนธินคือระหว่างหรือหลังอาหาร เนื่องจากเป็นสารที่ละลายได้ดีในไขมัน (5)และการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการรับประทานแอสตาแซนธิน 4-12 มก. ต่อวันอาจมีประโยชน์ได้ (3)

 

แหล่งอ้างอิง

1.แอสตาแซนธิน- การใช้, ผลข้างเคียง,และอื่นๆอีกมากมาย

2.ประโยชน์ต่อสุขภาพของแอสตาแซนธิน

3.แอสตาแซนธิน

4.แอสตาแซนธิน: ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้

5.แอสตาแซนธิน: คำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบ

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

Skip to content