ประเทศไทยอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นจนอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของเราได้ โดยเฉพาะสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของหลายๆ บ้าน สุนัขมีโอกาสเกิดภาวะฮีทสโตรก (Heatstroke) ได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
ทำตามง่าย ได้ผลจริง! 8 วิธีคลายร้อนให้สุนัข ฉบับมือโปร
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน ๆ แบบนี้การรู้ วิธีคลายร้อนให้สุนัข อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็ก ดังนั้น ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 8 วิธีคลายร้อนให้สุนัขฉบับมือโปร ทำตามง่าย ได้ผลจริง ที่จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงของคุณห่างไกลจากอาการอันตรายดังกล่าวค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันได้เลยค่ะ
1.จัดหาน้ำเย็นสะอาดให้เพียงพอ
แม้จะดูธรรมดา…แต่สำคัญค่ะ เพราะสุนัขต้องการน้ำเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากการหายใจหอบ ควรจัดเตรียมน้ำเย็นสะอาดใส่ชามไว้ตลอดเวลา และวางชามน้ำไว้ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก หากออกไปข้างนอก ควรพกน้ำและชามสำหรับสุนัขติดตัวไปด้วย
2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในเวลาที่ร้อนจัด
ควรพาสุนัขออกไปเดินเล่น หรือออกกำลังกายในช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็นที่อากาศเย็นสบาย และหลีกเลี่ยงการออกไปในช่วงกลางวันที่มีแดดจัด เพราะพื้นถนนตอนบ่ายอาจร้อนเกินไป อาจะทำให้สุนัขเจ็บเท้าได้นั่นเองค่ะ
3.จัดพื้นที่ให้เย็นสบาย
ควรจัดพื้นที่ในบ้านที่เย็นสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก ให้สุนัขได้พักผ่อน อาจปูกระเบื้องเย็นๆ หรือใช้แผ่นเจลเย็นสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ควรเลือกแบบที่ทำความสะอาดง่ายและขนาดพอดีตัว
4.ใช้สระน้ำสำหรับเด็ก
หากมีพื้นที่ อาจหาสระน้ำสำหรับเด็กขนาดเล็กมาใส่น้ำเย็น แล้วให้สุนัขลงไปแช่เล่นคลายร้อน
5.ทำไอศกรีมสำหรับสุนัข
ทำไอศกรีมรสชาติที่เจ้าตัวเล็กชอบ เช่น รสเนื้อ หรือรสผลไม้ (ที่สุนัขกินได้) แช่แข็งให้เป็นก้อน แล้วให้กินเป็นขนมคลายร้อน รับรองว่าติดใจจนอ้อนขอกินอีกแน่นอนเลยค่ะ
6.ใช้ผ้าเย็นเช็ดตามตัว
ในวันที่ร้อนจัด ลองใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดตัวให้สุนัขเบา ๆ โดยเฉพาะที่พุง ใต้คอ หรืออุ้งเท้า แค่ไม่กี่นาทีน้องก็จะค่อย ๆ ผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้ามีเวลา ลองเอาผ้าไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อน แล้วค่อยนำมาวางบนหลัง เป็นหนึ่งใน วิธีคลายร้อนให้สุนัข ง่าย ๆ ที่ช่วยให้น้องหมาหลับสบายขึ้นในวันที่ร้อนระอุ
7.เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ
ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์แรง ๆ เสมอไปค่ะ แค่มีลมพัดผ่าน หรือวางพัดลมให้ตรงจุดที่น้องชอบนอน ก็ช่วยให้สุนัขหายใจสะดวกขึ้นมาก แนะนำให้ลองเปลี่ยนมุมวางพัดลมบ้างในแต่ละวันให้อากาศหมุนเวียนทั่ว ๆ บ้าน
8.ระวังเรื่องการอยู่ในรถ
อากาศในรถที่จอดตากแดด อาจร้อนกว่าข้างนอกเป็นสิบองศา และเพียงแค่ 5-10 นาที อุณหภูมิก็อาจพุ่งสูงจนน้องหมาเป็นลมได้เลยค่ะ ต่อให้อากาศด้านนอกดูเย็น แต่ภายในรถกลับเป็นกับดักอันตรายเสมอ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะไปซื้อของแป๊บเดียวแค่ไหน ก็อย่าทิ้งน้องไว้คนเดียวนะคะ
สัญญาณอันตรายของภาวะฮีทสโตรกในสุนัข
- หอบอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
- น้ำลายไหลยืด
- เหงือกและลิ้นมีสีแดงจัด
- อาเจียนหรือท้องเสีย
- เดินเซหรือไม่สามารถทรงตัวได้
- หมดสติ
หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
ทำไมสุนัขถึงเสี่ยงฮีทสโตรก?
เนื่องจากสุนัขมีกลไกการระบายความร้อนในร่างกายที่แตกต่างจากคน โดยจะระบายความร้อนหลักๆ ผ่านการหายใจหอบ (Panting) และระบายความร้อนผ่านทางฝ่าเท้า ทำให้การระบายความร้อนในร่างกายของสุนัขนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าคน เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดและมีความชื้นสูง จึงไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนเกิดภาวะฮีทสโตรก ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สุนัขร้อน อาการเป็นยังไง
เมื่อสุนัขมีอาการ “ร้อน” หรือ ภาวะร่างกายร้อนเกิน (Heatstroke) จะเริ่มแสดงอาการหายใจเร็ว หอบ น้ำลายไหลมาก ลิ้นและเหงือกมีสีแดงเข้มหรือม่วง ตัวร้อนผิดปกติ และอาจมีอาการเซหรือหมดสติได้ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนจัดหรืออยู่ในที่อับลม หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
ปอม นอนพัดลมได้ไหม
โดยทั่วไปแล้ว การให้น้องปอมนอนในห้องที่มีพัดลมเปิดไว้ สามารถทำได้ และอาจช่วยคลายร้อนให้น้องหมาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังไม่ให้ลมพัดโดนตัวน้องหมาโดยตรงเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง หรือเป็นหวัดได้ ควรให้พัดลมส่าย และไม่แรงมากนัก เพื่อให้อากาศถ่ายเท
อุณหภูมิที่เหมาะ กับสุนัข
โดยทั่วไป สุนัขจะรู้สึกสบายตัวที่สุดที่อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส (60-77 องศาฟาเรนไฮต์) แต่อาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ อายุ ขนาด และสุขภาพ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่สูงกว่า 29 องศาเซลเซียส/85 องศาฟาเรนไฮต์
สรุป
การดูแลน้องหมาให้เย็นสบายในช่วงหน้าร้อน เป็นสิ่งที่เจ้าของทุกคนควรให้ความสำคัญ การทำตาม 8 วิธีคลายร้อนให้น้องหมาที่เราแนะนำ จะช่วยให้น้องหมาของคุณปลอดภัยจากภาวะฮีทสโตรก และมีความสุขตลอดหน้าร้อน อย่าลืมสังเกตอาการของน้องหมาอย่างใกล้ชิด และหากพบความผิดปกติ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: Lifestyle