รับมือซัมเมอร์! 9 วิธีคลายร้อนให้แมว ปลอดภัย สบายตัว

รับมือซัมเมอร์! 9 วิธีคลายร้อนให้แมว ปลอดภัย สบายตัว

ในบทความก่อนที่เราได้เล่าถึงวิธีคลายร้อนให้น้องหมาไปแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้านายขนฟูที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน ก็คือแมวนั่นเอง แม้แมวจะเป็นสัตว์ที่เคยชินกับการอยู่ในที่อบอุ่น แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถรับมือกับอุณหภูมิที่ร้อนจัดได้ตลอดเวลา ส่งผลบางครั้งให้เจ้าเหมียวเองก็เสี่ยงต่อการเกิดภาวะลมแดด (Heatstroke) ได้ง่ายกว่าที่เราคิดได้นะคะ

 

รับมือซัมเมอร์! 9 วิธีคลายร้อนให้แมว ปลอดภัย สบายตัว

หน้าร้อนมาเยือนทีไร ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่รู้สึกร้อนอบอ้าว แต่เหล่าเจ้าตัวเล็กขนฟูของเราก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราได้รวบรวม วิธีคลายร้อนให้แมว ที่ทั้งง่าย และใช้ได้จริง มาฝากค่ะ เพื่อให้เจ้าเหมียวของคุณปลอดภัยและสบายตัวในช่วงอากาศร้อน จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยค่ะ

 

1. เคลียร์พื้นที่ให้อากาศถ่ายเท

เลือกมุมบ้านที่เย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรงในช่วงกลางวัน และไม่แออัดหรือมีเสียงดังจอแจ หรือบริเวณที่มีพัดลมระบายอากาศ อาจเสริมด้วยผ้าปูพื้นเย็น ๆ หรือกล่องกระดาษวางในที่ร่ม เพื่อให้แมวได้มีพื้นที่ส่วนตัวในการพักผ่อนโดยไม่ถูกรบกวน ถ้าเปิดแอร์ ควรปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ ไม่เย็นจนเกินไป 

 

2. เปลี่ยนน้ำดื่มอยู่เสมอ

ในช่วงหน้าร้อน การคงความสดชื่นไว้ให้แมวผ่านการดื่มน้ำสะอาดคือเรื่องสำคัญ ควรเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ วันละ 2–3 ครั้ง และหากเป็นไปได้ ให้ใช้น้ำเย็นจากตู้เย็นเล็กน้อยผสมกับน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น แต่อย่าเย็นจนเกินไป เพราะน้ำที่เย็นจัดเกินไป อาจทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี และอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้นั่นเองค่ะ

 

3. แปรงขนเป็นประจำ

แมวบางสายพันธุ์มีขนหนาและซ้อนหลายชั้น การแปรงขนจะช่วยกำจัดขนที่หลุดร่วงออกจากตัวแมว ทำให้การถ่ายเทอากาศดีขึ้น ลดโอกาสที่ขนจะจับตัวเป็นก้อน และช่วยให้แมวรู้สึกสบายตัวมากขึ้น

 

4. หลีกเลี่ยงการเล่นหรือทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากในช่วงกลางวัน

ในช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุดของวัน อย่างช่วงสายถึงบ่าย อย่ากระตุ้นให้แมววิ่งเล่นหรือเคลื่อนไหวมากเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายแมวร้อนเกินอย่างรวดเร็ว ลองเลื่อนเวลาเล่นไปเป็นช่วงเย็นหรือค่ำแทน และเลือกของเล่นที่ใช้แรงน้อย เช่น ไม้ตกแมว หรือบอลนุ่ม ๆ ที่เขาเล่นได้เอง

 

5. ใช้แผ่นเจลเย็นหรือผ้าเย็นช่วยคลายร้อน

แนะนำให้ใช้แผ่นเจลเย็น หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นบิดหมาด แล้ววางไว้ในที่ที่แมวชอบนอน จะช่วยให้เขาคลายร้อนได้อย่างดีเลยทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ระวังอย่าใช้เจลเย็นที่มีสารเคมี หรือวัสดุที่แมวอาจกัดเล่นได้ ควรเลือกอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะจะปลอดภัยที่สุด

 

6. เช็ดตัว

การเช็ดตัวเบา ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้ โดยไม่ทำให้แมวเครียดเกินไป เแนะนำให้ค่อย ๆ เช็ดแบบเบาๆ อย่าฝืน หากแมวแสดงอาการไม่สบายใจ เพราะอาจทำให้แมวเครียดได้ค่ะ

 

7. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้น้องแมวอยู่กลางแดด

ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงการพาน้องแมวออกไปกลางแจ้ง หรือปล่อยให้พวกเขาอยู่ในบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

 

8.เฝ้าระวังอาการฮีทสโตรก

 สังเกตอาการผิดปกติของน้องแมวอย่างใกล้ชิด หากพบว่าพวกเขามีอาการหอบถี่ หายใจลำบาก เหงือกแดง น้ำลายไหลยืด หรือซึมเศร้า ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะฮีทสโตรก

 

9.เตรียมของเล่นแช่แข็ง

ลองนำของเล่นที่น้องแมวชอบไปแช่ในช่องฟรีซสักพัก แล้วนำมาให้เล่น ความเย็นจากของเล่นจะช่วยให้เจ้าเหมียวรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายขึ้นได้ค่ะ

 

เปิดพัดลมให้แมวดีไหม

ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ  เนื่องจากกลไกการระบายความร้อนของแมวแตกต่างจากคน แมวไม่มีต่อมเหงื่อทั่วตัว แต่ใช้วิธีเลียขนเพื่อให้น้ำลายระเหยและลดอุณหภูมิ หากเป่าลมจากพัดลมโดยตรง อาจทำให้ความชื้นบนขนแห้งเร็วเกินไป ขัดขวางกระบวนการระบายความร้อนตามธรรมชาติของเจ้าเหมียวได้ค่ะ (1)

 

แมวระบายความร้อนอย่างไร

เนื่องจากน้องแมวมีขนหนานุ่มปกคลุมร่างกาย และไม่สามารถระบายความร้อนด้วยการขับเหงื่อได้เหมือนคนเรา วิธีคลายร้อนของน้องจึงมีจำกัดค่ะ น้องแมวจะอาศัยการระบายความร้อนผ่านอุ้งเท้าเป็นหลัก และวิธีคลายร้อนตามธรรมชาติที่เจ้าเหมียวชอบทำก็คือ การหาที่เงียบๆ ร่มๆ นอนอยู่นิ่งๆ ยืดตัวออกให้ยาวที่สุด (เคยสังเกตไหมคะ เวลาร้อนๆ น้องแมวจะดูตัวยาวเป็นพิเศษเลย นั่นเป็นวิธีระบายความร้อนอย่างหนึ่งของน้องค่ะ) และดื่มน้ำมากขึ้นนั่นเอง (2)

 

แมวมีอาการอะไรบ้างเมื่ออากาศร้อน

1.น้องแมวจะรู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ

2.มีอาการหอบ บางตัวมีการอ้าปาก ลิ้นห้อย

3.หัวใจเต้นเร็ว

4.มีอาการกระสับกระส่าย

5.ในกรณีที่ผิดปกติมักมีอาการเหงือกแห้ง อ่อนแรง ร่วมด้วย

 

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: Lifestyle

แหล่งอ้างอิง

1.thevoicefoundation

2.Six Ways to Keep Your Cat Safe During Extreme Heat Waves

3.petpobpad.com

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

Skip to content