10 อาหารสุดปัง! กินอะไร บำรุงสมอง ความจำดี ไม่มีสะดุด

10 อาหารสุดปัง! กินอะไร บำรุงสมอง ความจำดี ไม่มีสะดุด

เคยไหมคะ ที่บางวันรู้สึกสมองตื้อๆ คิดอะไรไม่ค่อยออก หรือลืมเรื่องสำคัญง่ายๆ จนน่าตกใจ? ปัญหาเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องของอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับอาหารการกินในแต่ละวันของเราด้วยค่ะ การเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกานและสมองโดยตรงจึงเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ซึ่ง กินอะไร บำรุงสมอง ความจำดี ? แล้วมีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยเติมพลังให้สมองและความจำของเราได้บ้างกันนะ?

เปิดลิสต์ 10 อาหาร บำรุงสมอง ความจำดี ที่ควรมีติดครัว

อยากให้สมองของเราทำงานได้อย่างเต็มที่ การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ  ในบทความนี้จะพาไปดูกันว่า กินอะไร บำรุงสมอง ความจำดี ที่หาทานง่ายและมีประโยชน์จริงๆ ค่ะ ซึ่งเราได้รวบรวมสุดยอดอาหาร 10 อย่างที่ได้รับการยอมรับดีว่าต่อสมองมาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

 

1. ปลาที่มีไขมันสูง (Fatty Fish)

ปลาทะเลน้ำลึกอย่างแซลมอน, ทูน่า, แมคเคอเรล หรือแม้แต่ปลาสวายของไทยเรา อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันดีที่จำเป็นต่อสมองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ DHA ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์สมอง การได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอจึงช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และความจำได้เป็นอย่างดี 

 

2. บลูเบอร์รี (Blueberries)

ผลไม้ลูกจิ๋วแต่แจ๋วนี้เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะแอนโทไซยานิน ซึ่งมีงานวิจัยชี้ว่ามีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของสมองที่เกี่ยวข้องกับอายุ และช่วยส่งเสริมการสื่อสารระหว่างเซลล์สมองให้ดีขึ้น 

 

3. น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil)

นี่คือพระเอกที่หลายคนอาจมองข้าม! น้ำมันรำข้าว เป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพและโดดเด่นด้วยสารสำคัญอย่าง แกมมา-โอรีซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง จากการศึกษาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่อาจเกิดต่อสุขภาพสมอง รวมถึงการปรับปรุงการทำงานของความรู้ความเข้าใจ ลดความวิตกกังวล และอาจให้ผลในการปกป้องระบบประสาท การศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นว่ามันสามารถผ่านทะลุด่านกั้นเลือด-สมอง ส่งผลกระทบต่อไฮโปทาลามัสและต่อมใต้สมอง และอาจช่วยรักษาความจำและการทำงานของระบบรับรู้ในสัตว์ทดลองได้

 

4. ขมิ้นชัน (Turmeric)

สารสีเหลืองในขมิ้นชันที่เรียกว่า “เคอร์คูมิน (Curcumin)” เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบที่ทรงพลัง มีความพิเศษคือสามารถข้ามผ่านแนวกั้นเลือดและสมอง (Blood-Brain Barrier) เข้าไปในสมองได้โดยตรง มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าเคอร์คูมินอาจช่วยส่งเสริมความจำในผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมได้

 

5. ไข่ไก่ (Eggs)

ไข่เป็นแหล่งของสารอาหารบำรุงสมองที่หาทานง่ายและราคาไม่แพง โดยเฉพาะ “โคลีน (Choline)” ที่ร่างกายนำไปใช้สร้างสารสื่อประสาทชื่อว่า อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งมีความสำคัญต่อการควบคุมอารมณ์และความจำ นอกจากนี้ไข่ยังอุดมไปด้วยวิตามินบีหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพสมองด้วยค่ะ 

 

6. ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate)

ข่าวดีสำหรับคนรักช็อกโกแลต! ดาร์กช็อกโกแลต (ที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไป) เต็มไปด้วยฟลาโวนอยด์, คาเฟอีน และสารต้านอนุมูลอิสระ สารเหล่านี้มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง ซึ่งส่งผลดีต่อความจำและสมาธิ แต่ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ

 

7. บรอกโคลี (Broccoli)

ผักสีเขียวเข้มชนิดนี้อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร มีวิตามินเคสูงมาก ซึ่งจำเป็นต่อกระบวนการสร้างไขมันชนิดหนึ่งที่พบได้หนาแน่นในเซลล์สมอง นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบที่ช่วยลดการอักเสบในส่วนต่างๆ ของร่างกายรวมถึงสมองด้วย

 

8. โยเกิร์ต

โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม ที่มีจุลินทรีย์ช่วยในการปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพสมอง ระบบย่อยอาหารที่ดีจะช่วยให้ร่างกาย ดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสมองได้ดีขึ้น จึงทำให้สมองทำงานได้เต็มที่

 

9. ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี 

บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี เชอร์รี จะช่วยเสริมสุขภาพสมอง ระบบหมุนเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยลดความดันโลหิตที่สูงให้สมดุล มีวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยเพิ่มความสามารถในการคิด และระดับไอคิวได้ดี ทั้งยังป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้น

 

10. ชาเขียว (Green Tea)

เครื่องดื่มยอดนิยมนี้มีคาเฟอีนที่ช่วยให้สมองตื่นตัว และยังมี “แอล-ธีอะนีน (L-Theanine)” กรดอะมิโนที่สามารถข้ามแนวกั้นเลือดและสมองเข้าไปช่วยเพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาท GABA ซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกกังวล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายแต่ยังคงมีสมาธิ 

 

อาหารบำรุงสมอง ผู้สูงอายุ สำคัญอย่างไร?

สำหรับผู้สูงอายุ การดูแลสมองยิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเป็นวัยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะความจำเสื่อมและโรคทางสมองต่างๆ ได้ง่าย อาหารที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็น อาหารบำรุงสมอง ผู้สูงอายุ ที่ยอดเยี่ยมทั้งนั้น โดยเฉพาะปลาที่มีโอเมก้า 3, บลูเบอร์รี, ถั่วต่างๆ และผักใบเขียว จะช่วยสนับสนุนการทำงานของสมอง ชะลอความเสื่อม และลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดสมองได้

 

เครียดจังกินอะไรดี? อาหาร บำรุง สมอง คลายเครียด

ความเครียดเป็นศัตรูตัวฉกาจของสมอง ทำให้คิดช้า ความจำแย่ลง และรู้สึกเหนื่อยล้า การเลือกทาน อาหาร บำรุง สมอง คลายเครียด สามารถช่วยได้มากค่ะ ลองเลือกทานดาร์กช็อกโกแลตสักชิ้นเล็กๆ จิบชาเขียวอุ่นๆ หรือทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงอย่างเมล็ดฟักทองและอัลมอนด์ สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสมองปลอดโปร่งขึ้นได้ค่ะ

 

ไม่มีเวลา? แวะ 7-11 กินอะไรให้สมองปลอดโปร่ง

ในวันเร่งรีบ หลายคนอาจต้องพึ่งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 แล้วจะ กินอะไรให้สมองปลอดโปร่ง 7-11 ดีล่ะ? มีไอเดียมาฝากค่ะ

  • ไข่ต้ม/ไข่ลวก: หาซื้อง่าย ได้โปรตีนและโคลีนเต็มๆ
  • นมหรือโยเกิร์ตรสจืดผสมอัลมอนด์: อัลมอนด์แบบซองก็เป็นทางเลือกที่ดี
  • กล้วยหอม: ให้พลังงานและมีวิตามินบี 6
  • น้ำเต้าหู้หวานน้อย: ได้โปรตีนจากพืช
  • ดาร์กช็อกโกแลต: เลือกแบบที่มีเปอร์เซ็นต์โกโก้สูงๆ
  • น้ำมะเขือเทศดอยคำ: อุดมด้วยไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี

 

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับคำตอบ กินอะไร บำรุงสมอง ความจำดี ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ การดูแลสุขภาพสมองและความจำเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ทุกวันผ่านการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การเพิ่มอาหาร 10 อย่างที่  โดยเฉพาะการเลือกใช้ น้ำมันรำข้าว ที่มีแกมมา-โอรีซานอลในการทำอาหาร หรือการทานปลาที่มีไขมันสูง, ผักผลไม้หลากสี, และถั่วต่างๆ จะช่วยส่งเสริมให้สมองของคุณทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ความจำดี สมองปลอดโปร่ง พร้อมรับมือกับทุกเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอนค่ะ อย่าลืมว่าการทานอาหารที่หลากหลายควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่เพียงพอและการออกกำลังกายสม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญสู่สุขภาพสมองที่ดีที่สุดนะคะ

 

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: ไลฟ์สไตล์

 

แหล่งอ้างอิง

1.กรมสุขภาพจิต : 10 อาหารบำรุงสมอง ป้องกันสมองเสื่อม

2.National Library of Medicine: γ-Oryzanol ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบรับรู้และควบคุมโปรตีโอมของฮิปโปแคมปัสในหนู

3.sanook.com: กินแล้วสมองแล่น 10 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มความจำดี คิดไว ไม่เบลอ

4.americanbehavioralclinics: เพิ่มพลังสมองของคุณ: 10 สุดยอดอาหารเพื่อการโฟกัสและความจำที่ดีขึ้น

 

*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความอื่นๆ