ข้อเสื่อม อาการไม่ถึงตาย แต่เหมือนพิการตลอดชีวิตอาการปวดเข่า ปวดข้อ มีเสียงก้อบแก้บเวลาเดิน จนบางครั้งถึงกับเคลื่อนไหวไม่ได้ เป็นอาการที่มักจะแสดงออกมาเมื่อผู้ป่วยมีอายุ 40 ปีขึ้นไป และพุ่งสูงถึงร้อยละ 50 เมื่ออายุเกิน 60 ปี หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาการนั้นจะหนักขึ้นเรื่อยๆจนทำให้คุณใช้ชีวิตลำบากขึ้น บางรายถึงกับเดินไม่ได้หลายวัน แม้โรคนี้เป็นแล้วจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่หากไม่ดูแลรักษาผู้ป่วยอาจจะต้องทุกข์ทนทรมานกับอาการเหล่านี้ไปจนตลอดชีวิตเลยทีเดียว อ่านเพิ่มเติม
10 อาหารบำรุงข้อ ที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2564
ในปี 2564 ที่ผ่านมานั้น มีการค้นหาเกี่ยวกับอาหารบำรุงข้อหลากหลายชนิด มีทั้งการค้นหาเพื่อประกอบเมนูอาหาร ,สรรพคุณ ,อาหารเสริม หรือ วิตามินต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งบทความนี้ ไม่ได้บอกว่าอาหารเหล่านี้ เป็นอาหารบำรุงข้อได้ดีที่สุด แต่จะเป็นการรวบรวม การค้นหาเกี่ยวกับอาหารบำรุงข้อต่อต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้อาการปวดข้อต่างๆ ดีขึ้น ฉนั้น อันดับต่อไปนี้ ไม่ได้เป็นตัววัดว่าอาหารตัวไหนดีกว่ากัน เป็นแค่อันดับตามการค้นหาในปี 2564 เพียงเท่านั้น
อันดับที่ 10 ปลา
ปลา เป็นอาหารที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งของ โอเมก้า -3 ซึ่งนอกจากจะช่วยในการบำรุงสมอ สายตาและความจำงแล้วนั้น ยังช่วยเสริมสร้างเมตาบอลิซซึ่มของกระดูก ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงมากขึ้น เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกเปราะ แนะนำว่าควรทานปลาทะเลเพราะจะมีโอเมก้า-3 สูงกว่าปลาอื่นๆ สามารถนำไปประกอบได้หลากหลาย คอเลสเตอรอลต่ำ สามารถทานได้บ่อย แต่ให้ระวังอันตรายของน้ำมันพืชจากปลาดทอดและผัด หากทานบ่อยควรเลือกการประกอบการอาหารด้วยวิธีการ ต้ม นึ่ง อบ จะดียิ่งกว่ามาก หรือเลือกทานคอลลาเจนไทป์ ทู ที่ทำมาจากกระดูกปลาอย่าง Collamate
อันดับที่ 9 ขิง
ขิง นั้นมีคุณสมบัติหลายอย่าง แต่ที่รู้จักกันดีและเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นนั่นก็คือ ลดอาการอักเสบและปวดข้อเข่า เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ต้นเหตุการเกิดภาวะอักเสบตามร่างกาย รวมไปถึงการเสื่อมและผุพังของกระดูก โดยขิงนั้นนิยมนำไปต้มทำเป็นน้ำขิงเพื่อจิบดื่มบำรุงร่างกาย โดยความเผ็ดร้อนจากน้ำขิงจะช่วยให้เลือดลมเดินได้ ความดันโลหิตลดลงได้ด้วยอีกด้วย
อันดับที่ 8 ผลไม้หลากสีและผัก
ผักและผลไม้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบำรุงกระดูกชั้นดีที่กินได้บ่อย ดีต่อสุขภาพแถมอร่อยอีกด้วย โดยผลไม้หลากสีที่ดีต่อกระดูกมีอยู่มากมายหลายชนิด เช่น แก้วมังกร ส้ม ฝรั่ง สตอรเบอร์รี่ เป็นต้น ซึ่งผลไม้พวกนี้อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่าง วิตามินซี วิตามินดี แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ที่จะช่วยเพิ่มกระดูก ซ่อมแซมส่วนกระดูกที่สึกหรอ นอกจากผลไม้แล้วผักใบเขียวบางชนิดก็มีสรรพคุณในการเสริมความแข็งแรงของกระดูกเช่นเดียวกัน อย่าง ใบเหลียง ผักแพว ตำลึง
อันดับที่ 7 ถั่วและเมล็ด
ถั่วและเมล็ด ถือว่าเป็นของว่างชั้นเลิศที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะพืชตระกูลส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุอีกมากมาย ที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งถั่วแต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป บางชนิดโปรตีนสูงให้พลังงานเยอะ บางชนิดดีต่อหัวใจและหลอดเลือด บางชนิดก็ดีต่อกระดูกและฟัน เช่น ถั่วลิสงที่มีสารอาหารสำคัญอย่าง แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีสูง ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง มีโปรตีนสูงยิ่งกินยิ่งดีต่อสุขภาพ สิ่งที่ควรระวังคือ อาจเกิดภาวะแพ้ถั่วลิสงขึ้นกับบางคนได้ เป็นอาการแพ้ร้ายแรงที่อาจส่งผลถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรตรวจเช็คตัวเองก่อนรับประทาน
อันดับที่ 6 ขมิ้น
ขมิ้น มักจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ขึ้นมาในหัวหากพูดถึงอาหารบำรุงกระดูกข้อเข่า เป็นหนึ่งในสมุนไพรในแพทย์แผนไทยที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ขมิ้น มีสรรพคุณในการกระตุ้นระบบไหลเวียนบริเวณข้อเข่า ลดการปวดเกร็งและการอักเสบของกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อเข่า ชะลอการเสื่อมของข้อเข่า นิยมนำขมิ้นชันมาทำเป็นสมุนไพรประคบร้อน หรือนำมาบดทำเป็นยาพอกเข่า สามารถรับประทานได้โดยการนำผงขมิ้น ประมาณ 1.5 – กรัม ต่อวัน ชงกับน้ำร้อนดื่มวันละ 3 – 4 ครั้ง หลังอาหาร และก่อนนอน สามารถผสมกับน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติได้
อันดับที่ 5 ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะมีคุณประโยชน์ ให้สารอาการและพลังงานสูง ผู้คนนิยมทานเป็นมื้อเช้า มีสารอาหารสำคัญคือ แมงกานีส ฟอสฟอลัส วิตามินอี วิตามินบี 1 ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคความดันสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง นอกจากนั้น ข้าวโอ้ต ยังอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งเป็นพลังงานที่สำคัญของกระดูก หากทานเป็นประจำจะทำให้กระดูกและข้อแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย ลดอาการอักเสบบริเวณเนื้อเยื่อข้อต่อ อย่างไรก็ตามการทาน ข้าวโอ้ต ควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ และเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะการทานครั้งละมาก ๆ จะทำให้มีแก๊สในท้องมาก แน่นท้อง ท้องอืดได้ง่าย ที่สำคัญผู้ที่มีภาวะความผิดปกติในระบบย่อยอาหารนั้นไม่ควรทาน เพราะ ข้าวโอ้ต เป็นธัญพืชที่ใช้เวลาในการย่อยนาน อาจทำให้ลำไส้อุดตันได้
อันดับที่ 4 มะเขือเทศ
หากพูดถึง มะเขือเทศ หลายคนมักนึกถึงการบำรุงผิวพรรณ ต้านสารอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงการเกิดเซลล์มะเร็ง แต่ในความจริงแล้วคอลลาเจนใน มะเขือเทศ ยังช่วยซ่อมแซมกระดูกข้อต่อ เพิ่มน้ำเลี้ยงกระดูกข้อต่อ ช่วยทำให้ข้อต่อไหลลื่น ลดความเสื่อมของกระอ่อนต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้อีกด้วย มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนจะมีสารอาหารที่มากกว่ามะเขือเทศสด
อันดับที่ 3 พริกแดง
พริกแดง และพืชที่มีส้มหรือแดง มักจะมีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีและวิตามินดี ช่วยในการชะลอการเสื่อมของกระดูก ข้อเข่า เพิ่มมวลกระดูก ทำให้กระดูกไม่หักง่ายอีกด้วย แต่พริกแดงนั้นทานได้เพียงปริมาณไม่มาก เนื่องจาก กรดแคปไซซิน ที่มรสเผ็ดร้อนอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพราะอาหาร และเกิดอาหารแสบท้องหรืออักเสบได้
อันดับที่ 2 คะน้า
คะน้า ผักสวนครัวที่เราคุ้นเคยกันดีของคนไทย นำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย คะน้าเป็นผักใบเขียวที่มีสรรพคุณในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานดีขึ้น ลดสารพิษตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนั้น คะน้า ยังมีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้อีกด้วย มีการวิจัยพบว่า กินคะน้า 1 ถ้วย จะได้แคลเซียมเท่ากับนม 1 แก้วเลยทีเดียว ข้อควรระวังคือ ไม่ควรทานคะน้าแบบดิบ เพราะมี สารกอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งเป้นพิษต่อร่างกาย และจะทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดพลาดได้
อันดับที่ 1 งาดำ
งาดำ คือสุดยอดแหล่งแคลเซียมที่ดีต่อกระดูกและข้ออย่างแท้จริง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าใน งาดำ มีแคลเซียมมากกว่านมวัวถึง 8 เท่าเลยทีเดียว ช่วยเพิ่มมวลกระดูก เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน แตกหักง่าย อีกทั้งยังมีสาร เซซามิน (Sesamin) สารสำคัญในงาดำที่ดีต่อกระดูกและข้อเข่า อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบจากภาวะไขข้อเสื่อม เพิ่มการสร้างกระดูกอ่อน โดยในปัจจุบันมีการสกัด น้ำมันงาดำ ออกมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะกระดูกพรุนและข้อเข่าเสื่อม ทำให้การบริโภคน้ำมันงาดำนั้นสะดวกกว่าการบริโภคงาดำแบบปกติ ข้อควรระวังคือ อาจเกิดอาการแพ้งาขึ้นกับบางได้ หากมีประวัติการแพ้ถั่ว ก็มีแน้วโน้มที่จะแพ้งาด้วยเช่นกัน
ข้อมูลทั้งหมด เป็นการเก็บรวบรวมการค้นหาคำจากการที่คนค้นหาคำนั้นๆบนเว็บไซต์ Google โดยนับจากอาหารที่มีจำนวนการค้นหาบน Google และนำมาจัดอันดับ โดยอาหารแต่ละอย่าง จำนวนการค้นหาจะขึ้นอยู่กับว่า อาหารนั้นๆ คนรู้จักและนิยม หรือ สนใจแค่ไหน อันดับไม่เกี่ยวกับว่าอาหารบำรุงข้อได้ดีแค่ไหน