9 สาเหตุของการป่วยบ่อย เกิดจากอะไรได้บ้าง รับมือยังไงดี

9 สาเหตุของการป่วยบ่อย เกิดจากอะไรได้บ้าง รับมือยังไงดี

ระบบภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนกองทัพทหารที่คอยปกป้องร่างกายของเราจากเหล่าร้ายที่มองไม่เห็นอย่างเชื้อโรคต่างๆ โดยมีเซลล์และอวัยวะต่างๆ ทำงานร่วมกันเป็นทีม ทั้งเม็ดเลือดขาวที่คอยตรวจจับและกำจัดเชื้อโรค ต่อมน้ำเหลืองที่เป็นเหมือนฐานทัพในการผลิตและฝึกฝนเซลล์ภูมิคุ้มกัน ม้ามที่ช่วยกรองและทำลายเชื้อโรคในกระแสเลือด รวมถึงผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ที่เป็นปราการด่านแรกในการป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกายครับ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เราก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ป่วยง่าย

9 สาเหตุของการป่วยบ่อย เกิดจากอะไรได้บ้าง รับมือยังไงดี

9 สาเหตุของการป่วยบ่อย เกิดจากอะไร ได้บ้าง

การที่เราป่วยบ่อยๆ นั้นมีสาเหตุได้หลากหลายการจะอกแบบเจาะจงว่าป่วยบ่อย เกิดจากอะไรนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยากเพราะการป่วยบ่อยๆ ทั้งจากปัจจัยภายนอกอย่างเช่น การสัมผัสเชื้อโรคบ่อย หรือการใช้ชีวิตที่เร่งรีบและเครียด รวมไปถึงปัจจัยภายในเช่น ภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงตามอายุ หรือโรคประจำตัวบางชนิด นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราก็มีส่วนสำคัญ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือการขาดการออกกำลังกาย ล้วนส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอลงและป่วยได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและมีสุขภาพที่แข็งแรงได้

สาเหตุหลักที่ทำให้ป่วยบ่อย

1.ความเครียด

ความเครียดส่งผลต่อร่างกายของเราในหลายระดับ เมื่อเราเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือเรื่องสุขภาพ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมา เช่น คอร์ติซอล ซึ่งในระยะสั้นจะช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แต่หากความเครียดนั้นเรื้อรังหรือสะสมเป็นเวลานาน ฮอร์โมนเหล่านี้จะเริ่มส่งผลเสียต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลง ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้เราป่วยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดยังส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น ทำให้นอนหลับยาก รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา หรือละเลยการออกกำลังกาย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

2.พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย หากเรามีพฤติกรรมที่ไม่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ รับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ขาดการออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตที่เร่งรีบและมีความเครียดสูง ร่างกายของเราจะเริ่มอ่อนแอลง ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ เมื่อภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เราก็จะง่ายต่อการติดเชื้อและป่วยได้บ่อยขึ้น นอกจากนี้ พฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพยังอาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ ซึ่งโรคเหล่านี้ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่นๆ ได้ง่ายขึ้นไปอีก

3.การสัมผัสเชื้อโรค 

เชื้อโรคมีอยู่รอบตัวเรา ทั้งในอากาศ น้ำ อาหาร หรือแม้กระทั่งบนพื้นผิวต่างๆ ที่เราสัมผัส การสัมผัสเชื้อโรคเหล่านี้ ไม่ว่าจะผ่านการหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไป การรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน หรือการสัมผัสเชื้อโรคโดยตรงผ่านทางบาดแผล ก็เป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของเราได้ เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะพยายามกำจัดเชื้อโรคเหล่านั้น แต่ถ้าภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอ หรือเชื้อโรคมีความรุนแรงมาก ก็อาจทำให้เราติดเชื้อและป่วยได้ นอกจากนี้ การสัมผัสเชื้อโรคบ่อยๆ ยังอาจทำให้ร่างกายของเราสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคนั้นๆ ได้ไม่ทัน ทำให้เราป่วยได้ง่ายขึ้นเมื่อสัมผัสเชื้อโรคเดิมซ้ำอีก

4.พันธุกรรม

พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของเรา โดยเฉพาะในเรื่องของความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน หากมีประวัติครอบครัวที่มีคนป่วยเป็นโรคบางชนิดบ่อยๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ อาจเป็นไปได้ว่าเรามีความเสี่ยงทางพันธุกรรมที่สูงขึ้นในการเกิดโรคเหล่านั้น เนื่องจากยีนที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันหรือระบบต่างๆ ในร่างกายอาจมีความผิดปกติบางอย่างที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลงและไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ป่วยได้ง่ายกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ พันธุกรรมยังอาจส่งผลต่อการตอบสนองของร่างกายต่อยาหรือการรักษาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้การรักษาโรคบางชนิดทำได้ยากขึ้น

5.ภูมิแพ้ตัวเอง 

โรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือที่เรียกว่าโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune diseases) เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยปกติแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น เชื้อโรค แต่ในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ระบบภูมิคุ้มกันกลับทำงานผิดพลาด หันไปโจมตีเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายตัวเองแทน ทำให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายได้ ความผิดปกตินี้ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคภายนอก นอกจากนี้ การอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ตัวยังส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและมีแนวโน้มที่จะป่วยบ่อยขึ้น

สาเหตุรองลงมาที่ทำให้ป่วยบ่อย

6.อายุ

เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ หนึ่งในนั้นคือการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่เริ่มเสื่อมถอยลง การป่วยบ่อย เกิดจากอะไรนั้น อายุเลยเป็นสาเหตุรองลงมา การที่อายุมากขึ้นทำให้การตอบสนองต่อเชื้อโรคต่างๆ ลดลง เราจึงมีแนวโน้มที่จะป่วยได้ง่ายขึ้นและอาจใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัว นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมักจะมีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ ซึ่งโรคเหล่านี้ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นไปอีก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตามวัยก็มีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่เช่นกัน

7.ดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราโดยตรง เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารพิษออกไป ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังลดจำนวนและประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากหรือเป็นประจำยังส่งผลเสียต่ออวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ และทางเดินอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา และส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมได้อีกด้วย

8.น้ำหนัก

น้ำหนักที่ไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็นภาวะน้ำหนักเกินหรือน้ำหนักน้อยเกินไป ล้วนส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและความสามารถในการต่อสู้กับโรค ในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เซลล์ไขมันส่วนเกินจะผลิตสารอักเสบออกมา ทำให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งจะไปรบกวนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและทำให้ร่างกายอ่อนแอลง นอกจากนี้ ภาวะน้ำหนักเกินยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งโรคเหล่านี้ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ที่มีน้ำหนักน้อยเกินไปมักจะมีภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งส่งผลต่อการสร้างและการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9.ดูแลฟันไม่ดี

ช่องปากของเราเป็นแหล่งรวมของแบคทีเรียจำนวนมาก เมื่อเราไม่ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แบคทีเรียเหล่านี้จะเจริญเติบโตและก่อตัวเป็นคราบพลัค ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบและฟันผุ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา การอักเสบในช่องปากจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ผ่านทางกระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบในระบบต่างๆ เช่น หัวใจ ข้อต่อ หรือแม้กระทั่งสมอง นอกจากนี้ แบคทีเรียจากช่องปากยังสามารถเข้าสู่ปอดและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้นด้วย ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของฟันสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันโรคต่างๆ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอีกด้วย

ป่วยบ่อย กินอะไรดี

ป่วยบ่อย กินอะไรดี

  1. ส้ม
  2. โยเกิร์ต
  3. กระเทียม
  4. ขิง
  5. ผักใบเขียว
  6. อัลมอนด์
  7. ชาเขียว
  8. ปลาแซลมอน
  9. เห็ด
  10. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ป่วยบ่อย ห้ามกินอะไร

ป่วยบ่อย ห้ามกินอะไร

  1. น้ำตาล
  2. อาหารแปรรูป
  3. อาหารทอด
  4. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  5. แอลกอฮอล์
  6. อาหารรสจัด
  7. อาหารที่มีไขมันทรานส์
  8. อาหารที่มีโซเดียมสูง
  9. อาหารที่แพ้

ป่วยบ่อย กินวิตามินอะไรดี

การป่วยบ่อยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนั้นการเลือกวิตามินที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงและความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงในการป่วยบ่อย:

  1. วิตามินซี: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดระยะเวลาการเป็นหวัด พบได้ในส้ม ฝรั่ง มะละกอ บรอกโคลี
  2. วิตามินดี: มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเดินหายใจ สามารถรับได้จากแสงแดด ปลาแซลมอน ไข่แดง เห็ด
  3. วิตามินเอ: ช่วยเสริมสร้างเยื่อบุต่างๆ ในร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ พบได้ในแครอท ฟักทอง มันเทศ ผักใบเขียวเข้ม
  4. สังกะสี: มีส่วนสำคัญในการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหวัด พบได้ในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่ว เมล็ดพืช
  5. ซีลีเนียม: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน พบได้ในปลาทูน่า เนื้อวัว บราซิลนัท ไข่

ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกกินวิตามินอาจต้องอยู่ในการดูแลขอแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพราะการได้รับวิตามินเยอะเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพ แนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: วิตามินและแร่ธาตุจากอาหารธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

สรุป

สรุปบทความ ป่วยบ่อย เกิดจากอะไร สาเหตุหลักๆ คือ ความเครียด พฤติกรรมการใช้ชีวิต การสัมผัสเชื้อโรค พันธุกรมม และภูมิแพ้ ส่วนสาเหตุรองที่ทำให้ป่วยบ่อยๆนั้นจะมี อายุ การดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหนัก และการดูแลฟัน ฉนั้นให้ประเมิณตัวเองเบื้องต้นว่าเสี่ยงข้อไหนมากที่สุด แล้วค่อยๆปรับปรุงปรับเปลี่ยนไปๆเรื่อยๆ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่ไม่มีประโยชน์ลง เพราะนอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารจะทำให้ป่วยยากขึ้นแล้ว ยังทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วยดั่งคำที่ว่า You are what you eat กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ด้วยความปราถนาดีจาก โปรทริว่า น้ำมันสกัดเย็นเกรดพรีเมียม

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ