“คอลลาเจน” กลายเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อต้องการดูแลสุขภาพผิวพรรณ กระดูก และข้อต่อ แต่ท่ามกลางผลิตภัณฑ์มากมายในท้องตลาด คำถามที่ตามมาเสมอคือ คอลลาเจน กินยังไง ถึงจะดีที่สุด? ต้องกินตอนเช้าหรือก่อนนอน กินกับอะไรถึงจะช่วยเสริมประสิทธิภาพ และมีข้อห้ามอะไรบ้าง ลองมาไขทุกข้อสงสัย พร้อมแนะแนวทางแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากการทานคอลลาเจนอย่างเต็มที่ค่ะ
สำหรับคำถามยอดฮิตว่า คอลลาเจน กินยังไง ให้ได้ผลดีที่สุดนั้น เราต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เพื่อปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายการดูแลสุขภาพของเรามากที่สุด มาดูกันทีละข้อเลยค่ะ
นี่คือคำถามที่ถกเถียงกันมากที่สุด และความจริงก็คือ ยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ชัดฟันธงได้ว่าเวลาไหนดีกว่ากันอย่างเด็ดขาด แต่สามารถเลือกให้เหมาะกับตัวเองได้ค่ะ (1)
การทานคอลลาเจนในช่วงเช้าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระฉับกระเฉงและฟื้นฟูร่างกายหลังตื่นนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ บำรุงผิวและเส้นผม เพราะสามารถผสมคอลลาเจนกับกาแฟหรือสมูทตี้ได้อย่างสะดวก และยังช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันได้อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ กระตือรือร้น หรือเน้นการออกกำลังกาย การทานคอลลาเจนก่อนออกกำลังกายประมาณ 60 นาที โดยเฉพาะเมื่อทานพร้อมกับวิตามินซี จะช่วย ฟื้นฟูข้อต่อ และ กล้ามเนื้อ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากคุณมีเป้าหมายในการ ควบคุมน้ำหนัก การทานคอลลาเจนก่อนมื้ออาหารอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะอาจช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ ระบบย่อยอาหาร ทำงานได้ดีขึ้น และบรรเทาอาการท้องอืด
สำหรับผู้ที่ต้องการ ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ การทานคอลลาเจนก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง อาจช่วยให้คุณหลับได้ลึกขึ้นและลดการตื่นกลางดึกได้ เนื่องจากในคอลลาเจนมีกรดอะมิโนไกลซีนที่ช่วยในเรื่องนี้ได้โดยตรง
แล้วจะเลือกแบบไหนดี? ขอแนะนำว่า “ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าช่วงเวลา” ค่ะ ไม่ว่าคุณจะเลือกทานตอนเช้าหรือก่อนนอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทานอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้ระดับคอลลาเจนในร่างกายคงที่และเพียงพอให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ลองเลือกช่วงเวลาที่คุณสะดวกที่สุดและสามารถทำได้เป็นประจำโดยไม่ลืมนะคะ (3)
*งานวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับคอลลาเจนเพื่อบำรุงผิว มักใช้ปริมาณระหว่าง 2.5–15 กรัมต่อวัน (1)
เวลาไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อการดูดซึมและประสิทธิภาพของคอลลาเจน อาหาร พฤติกรรมการใช้ชีวิต และยาบางชนิดก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดูดซึมและการใช้คอลลาเจนของร่างกายเช่นกันนะคะ เพราะ คอลลาเจนไม่ต้องอาศัยสารอาหารสำคัญอย่าง วิตามินซี ทองแดง และสังกะสี เพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานได้เต็มที่ที่สุด คุณสามารถเพิ่มสารอาหารเหล่านี้ได้จากอาหาร ดังนี้ค่ะ (2)
ข่าวดีก็คือ โดยปกติ ผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจนส่วนใหญ่มักมีวิตามินซีผสมอยู่แล้ว ซึ่งช่วยสนับสนุนการทำงานของคอลลาเจนให้ดียิ่งขึ้น
หากคุณกำลังใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ก่อนเริ่มทานคอลลาเจนเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ หรือยาปฏิชีวนะ (เช่น เตตราไซคลีน และฟลูออโรควิโนโลน) อาจรบกวนการทำงานของคอลลาเจนในร่างกายได้ นอกจากนี้ เพื่อให้คอลลาเจนทำงานได้เต็มที่ คุณควร หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ด้วยเช่นกันค่ะ (1)
ที่สำคัญแม้ว่าคอลลาเจนจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระมัดระวังเล็กน้อย สำหรับกลุ่มเหล่านี้ค่ะ (2)
จากข้อมูลการศึกษาโดยส่วนใหญ่ แนะนำให้รับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8-12 สัปดาห์ หรือประมาณ 2-3 เดือน จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในด้านการสนับสนุนสุขภาพผิวและความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ, ไลฟ์สไตล์, และสภาพร่างกายเริ่มต้นค่ะ
สำหรับ คอลลาเจน ไทพ์ทู (Collagen Type II) ซึ่งเป็นชนิดที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพกระดูกอ่อนและข้อต่อโดยเฉพาะ มีคำแนะนำคล้ายกับคอลลาเจนโดยทั่วไป คือสามารถทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอนก็ได้ แต่หลายๆ คำแนะนำมักจะเอนเอียงไปทางการทาน ตอนท้องว่าง เพื่อส่งเสริมการดูดซึมที่ดีที่สุดสำหรับเป้าหมายด้านข้อต่อโดยตรง แต่เช่นเคยค่ะ ความสม่ำเสมอในการทานทุกวันยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยคอลลาเจนชนิดที่ 2 มักถูกใช้โดยผู้ใหญ่ในขนาด 40 มิลลิกรัม รับประทานทุกวัน เป็นเวลา 4-6 เดือน (4)
การทานคอลลาเจนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้นต้องอาศัยความเข้าใจในแนวทาง “คอลลาเจน กินยังไง” ที่ถูกต้อง โดยหัวใจหลักคือ ความสม่ำเสมอ ในการรับประทานทุกวัน โดยสามารถเลือกช่วงเวลาที่สะดวกที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนท้องว่างหรือก่อนนอน การทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับ วิตามินซี เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเสริมกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกาย ในขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค น้ำตาลในปริมาณสูง ซึ่งเป็นตัวการทำลายคอลลาเจนที่มีอยู่เดิม การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้ร่างกายของคุณนำคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพผิวพรรณ กระดูก และข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่: กระดูก
1.verywellhealth: เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานคอลลาเจนเพื่อประโยชน์สูงสุด
2.eatingwell: เวลาที่ดีที่สุดในการทานอาหารเสริมคอลลาเจนเพื่อการดูดซึมสูงสุด ตามที่นักโภชนาการแนะนำ
3.vogue: เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานคอลลาเจน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
4.webmd: คอลลาเจนชนิดที่ 2 (ดั้งเดิม) – การใช้ ผลข้างเคียง และอื่นๆ
*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการให้คำแนะนำทางการแพทย์, การวินิจฉัย, หรือการรักษา หากมีข้อกังวลหรือคำถามเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเสมอ
