งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง!

งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง-

สารบัญเนื้อหา

เมล็ดงาดำ (Black sesame)

เมล็ดงาดำ (Black sesame) เป็นเมล็ดงาสีดำที่ได้มาจากต้นงา (Sesamum indicum). มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็ก ๆ สีดำ มีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์. เมล็ดงาดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากมีวิตามิน, แร่ธาตุ, โปรตีน, และกลูตาไทโอนไนน์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ในเอเชียโดยเฉพาะในประเทศไทย เมล็ดงาดำมักถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องปรุง , นม หรือในขนมที่มีรสหวาน. เมล็ดงาดำยังถูกบดเป็นแป้งเพื่อนำมาทำเป็นน้ำมันงาดำที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมหลาย ๆ อย่าง เช่น ขนมปัง, ไอศครีม, และต่าง ๆ

งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง-

งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง!

วันนี้ทีมงานโปรทริว่าจะพาทุกคนไปดูว่า งาดํา กินยังไงให้อร่อย และไม่น่าเบื่อ เพื่อคนที่อยากทานงาดำในรูปแบบอื่นๆบ้าง แทนการกินเป็นเมล็ดคั่วเฉยๆ การกินงาดำนั้นทั้งสามารถลดการอักเสบต่างๆในร่างกายแถมยังบำรุงสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงอีกด้วย ส่วนใครอยากรู้ว่างาดำดียังไง ช่วยอะไรได้บ้าง จิ้มเบาๆตามไปอ่านต่อได้เลย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเริ่มกันเลยดีกว่าหิวแล้ววว

1.งาดำโรยบนอาหาร

วิธีง่ายๆเบสิคๆในการกินงาดำ เพียงแค่โรยงาดำลงไปในอาหารที่ชอบอย่างเช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ยำ เพียงแค่นี้ก็ทำให้กินงาดำไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แถมกินง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

เคล็ดลับในการโรยงาดำบนอาหารให้น่ากินยิ่งขึ้น

    • ใช้งาดำคั่วบดที่มีคุณภาพดี มีกลิ่นหอม
    • โรยงาดำคั่วบดในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป
    • โรยงาดำคั่วบดในขณะที่อาหารยังร้อนอยู่ เพื่อให้งาดำคั่วบดยังคงความกรอบอร่อย

2.เครื่องดื่มงาดำ

เครื่องดื่มผสมงาดำจะโดดเด่นเรื่องรสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่มหอมของงาดำ ที่ทำให้เครื่องดื่มทั่วๆไปหอมยิ่งขึ้น และยังได้ประโยชน์จากงาดำอีกด้วย

2.1.น้ำเต้าหู้งาดำ

ส่วนผสม
      • ถั่วเหลืองผ่าซีกแช่น้ำข้ามคืน 200 กรัม
      • งาดำ 30 กรัม
      • น้ำสะอาด 2 ลิตร
วิธีทำ
      1. ล้างงาดำให้สะอาด คั่วไฟอ่อนให้หอม
      2. ปั่นถั่วเหลืองที่แช่น้ำข้ามคืน กับงาดำคั่ว และน้ำให้ละเอียดเคล็ดลับ: ถั่วเหลืองผ่าซีกล้างน้ำให้สะอาด
      3. เทใส่ผ้าขาวบาง บิด คั้นน้ำหลังจากปั่นถั่วเหลือง กับงาดำทั้งหมด เสร็จไป 1 รอบ นำกากมาใส่น้ำ ปั่นอีกรอบ นำไปคั้นน้ำเหมือนเดิม
      4. ต้มให้ถั่วเหลืองสุก ไม่มีกลิ่นถั่ว ช่วงแรกเราใช้ไฟแรง คนตลอดเวลา 30 นาที / อีก 30 นาที คนเป็นบางช่วง แต่เปลี่ยนมาใช้ไฟอ่อน ครบเวลาแล้ว ปิดเตา เคล็ดลับ: ไม่อยากคนตลอดเวลา ให้ตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำ และนำหม้อที่มีน้ำเต้าหู้วางด้านบน ใช้ความร้อนจากไอน้ำต้มน้ำเต้าหู้ให้สุก
      5. หลังจากพักไว้ให้เย็น จะได้แผ่นฟองเต้าหู้ เคล็ดลับ: ความหวานเพิ่มได้ตามชอบครับ
      6. พร้อมทาน

2.2.กาแฟลาเต้งาดำเย็น

ส่วนผสม
      • นมสด 1 ถ้วย
      • กาแฟดำ 2 ช้อนโต๊ะ
      • งาดำคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำแข็ง
วิธีทำ
      1. ชงกาแฟดำตามปกติ
      2. ใส่นมสดลงในแก้วน้ำแข็ง
      3. เทกาแฟดำลงไป
      4. ใส่งาดำคั่วบดลงไป คนให้เข้ากัน
      5. ตกแต่งด้วยงาดำคั่วบดและผงโกโก้

3.น้ำจิ้มงาดำ

น้ำจิ้มสูตรงาดำเป็นอีกทางเลือกของคนที่อยากกินงา ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มกินกับผัก น้ำจิ้มสุกี้ หรือจะแบบนี้จิ้มอื่นๆอีกหลายอย่างที่สามารถเพิ่มงาดำลงไปเพื่อเพิ่มความหอมงาดำให้กับน้ำจิ้ม งาดํา กินยังไงในสูตรทำน้ำจิ้มมีมากมายเหลือเกิน จนทีมงานไม่รู้จะเอาสูตรไหน เลยขอให้เป็นน้ำที่นิยม สามารถทำกินกับสุกี้หรือหมูกระทะก็อร่อยได้

น้ำจิ้มสุกี้เข้มข้นงาดำ

ส่วนผสม
      • ซอสพริกศรีราชาภูเขาทอง ครึ่งขวดใหญ่
      • กระเทียมจีน 10 กลีบ
      • น้ำตาล 3ช้อนกินข้าว
      • พริกชีฟ้าสีแดง 15เม็ด
      • ต้นหอมผักชีรวมกัน 5บาท
      • เต้าหู้ยี้ 4ก้อน
      • งาดำตามใจชอบ
วิธีทำ
      1. ปั่นพริกกระเทียม
      2. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อนๆ
      3. บดขยี้เต้าหู้ยี้ในกระทะให้หอมๆ
      4. เติมซอสพริก
      5. เติมพริกกระเทียมบด
      6. เติมน้ำตาล
      7. ต้มให้เดือดปุดๆ
      8. ปิดไฟ แล้วเติมงาดำกับต้นหอมผักชีซอย

4.น้ำสลัดงาดำ

อีก 1 ทางเลือกของสายสุขภาพกับน้ำสลัดงาดำเพิ่มความหอมและสุขภาพดีลงไปในน้ำสลัด จะเลือกทำเองก็ได้ หรือจะซื้อออนไลน์ก็มีให้เลือกกินหลากหลายแบบ

สูตรน้ำสลัดงาดำ

ส่วนผสม
      • งาดำคั่ว 2 ช้อนชา
      • น้ำมันพืช 100 มล. (ใส่มากข้นมาก)​
      • ไข่สด/ไข่ลวก 2 ฟอง
      • น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดตามชอบ)
      • น้ำมันงา 2 ช้อนชา
      • น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดตามชอบ)
      • เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
      1. ปั่นพริกกระเทียม
      2. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อนๆ
      3. บดขยี้เต้าหู้ยี้ในกระทะให้หอมๆ
      4. เติมซอสพริก
      5. เติมพริกกระเทียมบด
      6. เติมน้ำตาล
      7. ต้มให้เดือดปุดๆ
      8. ปิดไฟ แล้วเติมงาดำกับต้นหอมผักชีซอย

5.น้ำมันงาดำ

น้ำมันงาดำจะเป็นน้ำมันพืชชนิดนึง ที่สกัดน้ำมันมาจากงาดำ โดยกระบวนการสกัดเย็น ซึ่งการสกัดเย็นจะคงคุณค่าสารอาหารของงาดำได้มากที่สุด น้ำมันงาดำ สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทานน้ำมันงาดำเพรียวๆเลย 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือ จะผสมน้ำมันงาดำในอาหารเช่นสกัดหรือโยเกิร์ต หรือจะใช้ทาผิวโดยตรงเพื่อบำรุงผิวก็ยังได้ เรียกได้ว่าใช้กิน ใช้ทา ให้ขวดเดียวกันเลยทีเดียวเชียว แต่คนที่ไม่ชอบน้ำมัน หรือ กลิ่นที่รุนแรงของงาอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะกลิ่นงาดำจะค่อนข้างแรง

6.ขนมอบงาดำ

งาดํา กินยังไงอีก 1 วิธีที่นิยมทำกันคือ การทำขนมอบงาดำ หรือที่เห็นได้ตามร้านขนมปัง หรือร้านสะดวกซื้อทั่วๆไปเลยคือการนำงาดำมาใส่ เป็นขนมปังงาดำ หรือจะเพิ่มท็อปปิ้งเข้าไปเป็นขนมปังงาดำไส้ถั่วแดง เพิ่มความน่ากินให้กับขนมปังไปอีก หรือจะเป็นคุกกี้งาดำก็น่ากินไปอีก

สูตรคุกกี้งาดำ

ส่วนผสม
      • แป้งข้าวญี่ปุ่นตราภูเขา (100g.) 2 /3 ถ้วย
      • แป้งอัลมอนด์ (50g.) 1/2 ถ้วย
      • แป้งข้าวโพด (20g.) 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาล (50g.) 1/4 ถ้วย
      • น้ำมันงา (60ml) 1/4 ถ้วย
      • นมถั่วเหลือง (40 ml) 2 2/3 ช้อนโต๊ะ
      • งาดำ (10g.) 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
      1. เปิดเตาอบที่ 350 องศา F (180 องศา C)
      2. ใส่แป้งข้าวญี่ปุ่นตราภูเขา แป้งอัลมอนด์ แป้งข้าวโพด และน้ำตาลลงในชาม
      3. ใส่น้ำมันงานมถั่วเหลืองและงา รวมกันและปั้นเป็นก้อนกลมๆ
      4. รีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ หั่นเป็นชิ้นยาว
      5. นำเข้าอบ 15 นาที จนเหลืองน่ารับประทาน พร้อมเสิร์ฟ.

งาดำดิบ กินได้ไหม ? 

งาดำดิบสามารถกินได้ แต่รสชาติขมกว่างาดำคั่ว และมีสารประกอบบางชนิดที่อาจทำให้ท้องเสียได้ ดังนั้นควรคั่วงาดำก่อนกิน งาดำคั่วจะมีรสชาติหอมอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่างาดำดิบ

แต่ให้ระวังผู้ที่มีอาการแพ้งาดำควรหลีกเลี่ยงการกินงาดำทั้งดิบและคั่ว ผู้ที่เป็น Wilson’s disease ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินงาดำ เพราะงาดำมีทองแดงสูง ซึ่งอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้

นอกจากนี้ ควรกินงาดำในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไปและเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนอีกต่างหาก

งาดำบดเอง VS งาดำที่บดมาแล้ว กินแบบไหนดี ?

งาดำที่บดใหม่ๆ จะหอมกว่างาดำแบบบดมาแล้วในซอง เพราะงาดำจะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่งจะระเหยออกไปตามอายุของงาดำ ดังนั้นงาดำที่บดใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่างาดำแบบบดมาแล้วในซอง

นอกจากนี้ งาดำแบบบดมาแล้วในซองอาจมีการเติมสารกันบูดหรือสารอื่นๆ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งอาจทำให้กลิ่นหอมของงาดำลดลงได้

แต่งาดำแบบบดมาแล้วในซองจะเหมาะกับคนที่ชอบความสบายๆ งาดำไม่ต้องหอมมากก็ได้ เพราะงาดำแบบบดมาแล้วไม่ต้องไปบดเองเพิ่มเติม และงาดำแบบบดมาแล้วก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อและหลายราคา ดังนั้นจึงสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ

เคล็ดไม่ลับทำให้งาดำบดใหม่ๆ หอมขึ้น:

    • เลือกงาดำที่สดใหม่
    • คั่วงาดำด้วยไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอม
    • บดงาดำให้ละเอียด
    • เก็บงาดำบดไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท

แถมส่งท้าย วิธีคั่วงาดำให้หอมน่ากิน

  1. เตรียมงาดำ โดยล้างงาดำให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
  2. ตั้งกระทะบนเตาไฟกลาง ใส่งาดำลงไป คั่วด้วยไฟอ่อน คนตลอดเวลา
  3. สังเกตสีของงาดำ เมื่องาดำมีสีเหลืองทองและมีกลิ่นหอม แสดงว่าสุกแล้ว
  4. ปิดเตาไฟ เทงาดำใส่จานพักให้เย็น

เคล็ดไม่ลับ

    • ใช้กระทะที่มีความหนา เช่น กระทะสแตนเลส เพื่อให้ความร้อนทั่วถึงและงาไม่ไหม้
    • ไม่ควรใช้กระทะเทฟล่อน เพราะจะทำให้ติดกระทะ
    • คนงาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้งาโดนความร้อนทั่วถึงและสุกพร้อมๆ กัน จะทำให้สีสวย
    • เมื่อได้ยินเสียงงาแตกแสดงว่างากำลังจะสุก
    • อย่าคั่วงานานเกินไป เพราะจะทำให้ไหม้และเสียรสชาติ
    • งาดำคั่วสามารถเก็บไว้ได้นานในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในที่แห้งและเย็น
    • แนะนำให้กินงาคั่ววัน 1 ช้อนชาก็พอ

สรุป

งาดํา กินยังไงให้อร่อย คงจะต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เพราะว่างาดำมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรง และรสชาติที่เรียกได้ว่ากินยากเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าใครอยากบำรุงสุขภาพ แต่ลองกินงาดำตามที่ได้แนะนำไปแล้วมันไม่ได้ ไม่ไหวกลับกลิ่นงาดำจริงๆ (ทีมงานขอขายของหน่อย) นี่เลย โปรทริว่า แบล็คซีดส์ น้ำมันงาดำสกัดเย็น เกรดพรีเมี่ยม ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม เพราะผ่านกระบวนการสกัดเย็นมา แถมกินง่าย ลื่นคอด้วยซอฟเจลล์ ไม่ติดคอ กลิ่นแทบจะไม่มี และงาดำของเรายังผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงานที่ใช้ผลิตยา จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเราสะอาดและปลอดภัย (แถมยอดขายยังเกิน 1 ล้านกระปุกแล้วด้วย เย้)

เมล็ดงาดำ (Black sesame)

เมล็ดงาดำ (Black sesame) เป็นเมล็ดงาสีดำที่ได้มาจากต้นงา (Sesamum indicum). มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็ก ๆ สีดำ มีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์. เมล็ดงาดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เนื่องจากมีวิตามิน, แร่ธาตุ, โปรตีน, และกลูตาไทโอนไนน์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ในเอเชียโดยเฉพาะในประเทศไทย เมล็ดงาดำมักถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องปรุง , นม หรือในขนมที่มีรสหวาน. เมล็ดงาดำยังถูกบดเป็นแป้งเพื่อนำมาทำเป็นน้ำมันงาดำที่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมหลาย ๆ อย่าง เช่น ขนมปัง, ไอศครีม, และต่าง ๆ

งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง-

งาดํา กินยังไงให้อร่อยและได้ประโยชน์ 6 วิธีนี้ต้องหามาลอง!

วันนี้ทีมงานโปรทริว่าจะพาทุกคนไปดูว่า งาดํา กินยังไงให้อร่อย และไม่น่าเบื่อ เพื่อคนที่อยากทานงาดำในรูปแบบอื่นๆบ้าง แทนการกินเป็นเมล็ดคั่วเฉยๆ การกินงาดำนั้นทั้งสามารถลดการอักเสบต่างๆในร่างกายแถมยังบำรุงสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงอีกด้วย ส่วนใครอยากรู้ว่างาดำดียังไง ช่วยอะไรได้บ้าง จิ้มเบาๆตามไปอ่านต่อได้เลย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเริ่มกันเลยดีกว่าหิวแล้ววว

1.งาดำโรยบนอาหาร

วิธีง่ายๆเบสิคๆในการกินงาดำ เพียงแค่โรยงาดำลงไปในอาหารที่ชอบอย่างเช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ยำ เพียงแค่นี้ก็ทำให้กินงาดำไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แถมกินง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

เคล็ดลับในการโรยงาดำบนอาหารให้น่ากินยิ่งขึ้น

    • ใช้งาดำคั่วบดที่มีคุณภาพดี มีกลิ่นหอม
    • โรยงาดำคั่วบดในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป
    • โรยงาดำคั่วบดในขณะที่อาหารยังร้อนอยู่ เพื่อให้งาดำคั่วบดยังคงความกรอบอร่อย

2.เครื่องดื่มงาดำ

เครื่องดื่มผสมงาดำจะโดดเด่นเรื่องรสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่มหอมของงาดำ ที่ทำให้เครื่องดื่มทั่วๆไปหอมยิ่งขึ้น และยังได้ประโยชน์จากงาดำอีกด้วย

2.1.น้ำเต้าหู้งาดำ

ส่วนผสม
      • ถั่วเหลืองผ่าซีกแช่น้ำข้ามคืน 200 กรัม
      • งาดำ 30 กรัม
      • น้ำสะอาด 2 ลิตร
วิธีทำ
      1. ล้างงาดำให้สะอาด คั่วไฟอ่อนให้หอม
      2. ปั่นถั่วเหลืองที่แช่น้ำข้ามคืน กับงาดำคั่ว และน้ำให้ละเอียดเคล็ดลับ: ถั่วเหลืองผ่าซีกล้างน้ำให้สะอาด
      3. เทใส่ผ้าขาวบาง บิด คั้นน้ำหลังจากปั่นถั่วเหลือง กับงาดำทั้งหมด เสร็จไป 1 รอบ นำกากมาใส่น้ำ ปั่นอีกรอบ นำไปคั้นน้ำเหมือนเดิม
      4. ต้มให้ถั่วเหลืองสุก ไม่มีกลิ่นถั่ว ช่วงแรกเราใช้ไฟแรง คนตลอดเวลา 30 นาที / อีก 30 นาที คนเป็นบางช่วง แต่เปลี่ยนมาใช้ไฟอ่อน ครบเวลาแล้ว ปิดเตา เคล็ดลับ: ไม่อยากคนตลอดเวลา ให้ตั้งหม้ออีกใบใส่น้ำ และนำหม้อที่มีน้ำเต้าหู้วางด้านบน ใช้ความร้อนจากไอน้ำต้มน้ำเต้าหู้ให้สุก
      5. หลังจากพักไว้ให้เย็น จะได้แผ่นฟองเต้าหู้ เคล็ดลับ: ความหวานเพิ่มได้ตามชอบครับ
      6. พร้อมทาน

2.2.กาแฟลาเต้งาดำเย็น

ส่วนผสม
      • นมสด 1 ถ้วย
      • กาแฟดำ 2 ช้อนโต๊ะ
      • งาดำคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำแข็ง
วิธีทำ
      1. ชงกาแฟดำตามปกติ
      2. ใส่นมสดลงในแก้วน้ำแข็ง
      3. เทกาแฟดำลงไป
      4. ใส่งาดำคั่วบดลงไป คนให้เข้ากัน
      5. ตกแต่งด้วยงาดำคั่วบดและผงโกโก้

3.น้ำจิ้มงาดำ

น้ำจิ้มสูตรงาดำเป็นอีกทางเลือกของคนที่อยากกินงา ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มกินกับผัก น้ำจิ้มสุกี้ หรือจะแบบนี้จิ้มอื่นๆอีกหลายอย่างที่สามารถเพิ่มงาดำลงไปเพื่อเพิ่มความหอมงาดำให้กับน้ำจิ้ม งาดํา กินยังไงในสูตรทำน้ำจิ้มมีมากมายเหลือเกิน จนทีมงานไม่รู้จะเอาสูตรไหน เลยขอให้เป็นน้ำที่นิยม สามารถทำกินกับสุกี้หรือหมูกระทะก็อร่อยได้

น้ำจิ้มสุกี้เข้มข้นงาดำ

ส่วนผสม
      • ซอสพริกศรีราชาภูเขาทอง ครึ่งขวดใหญ่
      • กระเทียมจีน 10 กลีบ
      • น้ำตาล 3ช้อนกินข้าว
      • พริกชีฟ้าสีแดง 15เม็ด
      • ต้นหอมผักชีรวมกัน 5บาท
      • เต้าหู้ยี้ 4ก้อน
      • งาดำตามใจชอบ
วิธีทำ
      1. ปั่นพริกกระเทียม
      2. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อนๆ
      3. บดขยี้เต้าหู้ยี้ในกระทะให้หอมๆ
      4. เติมซอสพริก
      5. เติมพริกกระเทียมบด
      6. เติมน้ำตาล
      7. ต้มให้เดือดปุดๆ
      8. ปิดไฟ แล้วเติมงาดำกับต้นหอมผักชีซอย

4.น้ำสลัดงาดำ

อีก 1 ทางเลือกของสายสุขภาพกับน้ำสลัดงาดำเพิ่มความหอมและสุขภาพดีลงไปในน้ำสลัด จะเลือกทำเองก็ได้ หรือจะซื้อออนไลน์ก็มีให้เลือกกินหลากหลายแบบ

สูตรน้ำสลัดงาดำ

ส่วนผสม
      • งาดำคั่ว 2 ช้อนชา
      • น้ำมันพืช 100 มล. (ใส่มากข้นมาก)​
      • ไข่สด/ไข่ลวก 2 ฟอง
      • น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดตามชอบ)
      • น้ำมันงา 2 ช้อนชา
      • น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดตามชอบ)
      • เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
      1. ปั่นพริกกระเทียม
      2. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อนๆ
      3. บดขยี้เต้าหู้ยี้ในกระทะให้หอมๆ
      4. เติมซอสพริก
      5. เติมพริกกระเทียมบด
      6. เติมน้ำตาล
      7. ต้มให้เดือดปุดๆ
      8. ปิดไฟ แล้วเติมงาดำกับต้นหอมผักชีซอย

5.น้ำมันงาดำ

น้ำมันงาดำจะเป็นน้ำมันพืชชนิดนึง ที่สกัดน้ำมันมาจากงาดำ โดยกระบวนการสกัดเย็น ซึ่งการสกัดเย็นจะคงคุณค่าสารอาหารของงาดำได้มากที่สุด น้ำมันงาดำ สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทานน้ำมันงาดำเพรียวๆเลย 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือ จะผสมน้ำมันงาดำในอาหารเช่นสกัดหรือโยเกิร์ต หรือจะใช้ทาผิวโดยตรงเพื่อบำรุงผิวก็ยังได้ เรียกได้ว่าใช้กิน ใช้ทา ให้ขวดเดียวกันเลยทีเดียวเชียว แต่คนที่ไม่ชอบน้ำมัน หรือ กลิ่นที่รุนแรงของงาอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะกลิ่นงาดำจะค่อนข้างแรง

6.ขนมอบงาดำ

งาดํา กินยังไงอีก 1 วิธีที่นิยมทำกันคือ การทำขนมอบงาดำ หรือที่เห็นได้ตามร้านขนมปัง หรือร้านสะดวกซื้อทั่วๆไปเลยคือการนำงาดำมาใส่ เป็นขนมปังงาดำ หรือจะเพิ่มท็อปปิ้งเข้าไปเป็นขนมปังงาดำไส้ถั่วแดง เพิ่มความน่ากินให้กับขนมปังไปอีก หรือจะเป็นคุกกี้งาดำก็น่ากินไปอีก

สูตรคุกกี้งาดำ

ส่วนผสม
      • แป้งข้าวญี่ปุ่นตราภูเขา (100g.) 2 /3 ถ้วย
      • แป้งอัลมอนด์ (50g.) 1/2 ถ้วย
      • แป้งข้าวโพด (20g.) 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำตาล (50g.) 1/4 ถ้วย
      • น้ำมันงา (60ml) 1/4 ถ้วย
      • นมถั่วเหลือง (40 ml) 2 2/3 ช้อนโต๊ะ
      • งาดำ (10g.) 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
      1. เปิดเตาอบที่ 350 องศา F (180 องศา C)
      2. ใส่แป้งข้าวญี่ปุ่นตราภูเขา แป้งอัลมอนด์ แป้งข้าวโพด และน้ำตาลลงในชาม
      3. ใส่น้ำมันงานมถั่วเหลืองและงา รวมกันและปั้นเป็นก้อนกลมๆ
      4. รีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ หั่นเป็นชิ้นยาว
      5. นำเข้าอบ 15 นาที จนเหลืองน่ารับประทาน พร้อมเสิร์ฟ.

งาดำดิบ กินได้ไหม ? 

งาดำดิบสามารถกินได้ แต่รสชาติขมกว่างาดำคั่ว และมีสารประกอบบางชนิดที่อาจทำให้ท้องเสียได้ ดังนั้นควรคั่วงาดำก่อนกิน งาดำคั่วจะมีรสชาติหอมอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่างาดำดิบ

แต่ให้ระวังผู้ที่มีอาการแพ้งาดำควรหลีกเลี่ยงการกินงาดำทั้งดิบและคั่ว ผู้ที่เป็น Wilson’s disease ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินงาดำ เพราะงาดำมีทองแดงสูง ซึ่งอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้

นอกจากนี้ ควรกินงาดำในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไปและเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนอีกต่างหาก

งาดำบดเอง VS งาดำที่บดมาแล้ว กินแบบไหนดี ?

งาดำที่บดใหม่ๆ จะหอมกว่างาดำแบบบดมาแล้วในซอง เพราะงาดำจะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่งจะระเหยออกไปตามอายุของงาดำ ดังนั้นงาดำที่บดใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่างาดำแบบบดมาแล้วในซอง

นอกจากนี้ งาดำแบบบดมาแล้วในซองอาจมีการเติมสารกันบูดหรือสารอื่นๆ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งอาจทำให้กลิ่นหอมของงาดำลดลงได้

แต่งาดำแบบบดมาแล้วในซองจะเหมาะกับคนที่ชอบความสบายๆ งาดำไม่ต้องหอมมากก็ได้ เพราะงาดำแบบบดมาแล้วไม่ต้องไปบดเองเพิ่มเติม และงาดำแบบบดมาแล้วก็มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อและหลายราคา ดังนั้นจึงสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ

เคล็ดไม่ลับทำให้งาดำบดใหม่ๆ หอมขึ้น:

    • เลือกงาดำที่สดใหม่
    • คั่วงาดำด้วยไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอม
    • บดงาดำให้ละเอียด
    • เก็บงาดำบดไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท

แถมส่งท้าย วิธีคั่วงาดำให้หอมน่ากิน

  1. เตรียมงาดำ โดยล้างงาดำให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
  2. ตั้งกระทะบนเตาไฟกลาง ใส่งาดำลงไป คั่วด้วยไฟอ่อน คนตลอดเวลา
  3. สังเกตสีของงาดำ เมื่องาดำมีสีเหลืองทองและมีกลิ่นหอม แสดงว่าสุกแล้ว
  4. ปิดเตาไฟ เทงาดำใส่จานพักให้เย็น

เคล็ดไม่ลับ

    • ใช้กระทะที่มีความหนา เช่น กระทะสแตนเลส เพื่อให้ความร้อนทั่วถึงและงาไม่ไหม้
    • ไม่ควรใช้กระทะเทฟล่อน เพราะจะทำให้ติดกระทะ
    • คนงาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้งาโดนความร้อนทั่วถึงและสุกพร้อมๆ กัน จะทำให้สีสวย
    • เมื่อได้ยินเสียงงาแตกแสดงว่างากำลังจะสุก
    • อย่าคั่วงานานเกินไป เพราะจะทำให้ไหม้และเสียรสชาติ
    • งาดำคั่วสามารถเก็บไว้ได้นานในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในที่แห้งและเย็น
    • แนะนำให้กินงาคั่ววัน 1 ช้อนชาก็พอ

สรุป

งาดํา กินยังไงให้อร่อย คงจะต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เพราะว่างาดำมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรง และรสชาติที่เรียกได้ว่ากินยากเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าใครอยากบำรุงสุขภาพ แต่ลองกินงาดำตามที่ได้แนะนำไปแล้วมันไม่ได้ ไม่ไหวกลับกลิ่นงาดำจริงๆ (ทีมงานขอขายของหน่อย) นี่เลย โปรทริว่า แบล็คซีดส์ น้ำมันงาดำสกัดเย็น เกรดพรีเมี่ยม ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม เพราะผ่านกระบวนการสกัดเย็นมา แถมกินง่าย ลื่นคอด้วยซอฟเจลล์ ไม่ติดคอ กลิ่นแทบจะไม่มี และงาดำของเรายังผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงานที่ใช้ผลิตยา จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเราสะอาดและปลอดภัย (แถมยอดขายยังเกิน 1 ล้านกระปุกแล้วด้วย เย้)

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความใกล้เคียง

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ