เคล็ดไม่ลับ 6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ รู้แบบนี้สบายนานแล้ว

เคล็ดไม่ลับ 6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ รู้แบบนี้สบายนานแล้ว

สารบัญเนื้อหา

คอเคล็ด 

คอเคล็ด คือ อาการบาดเจ็บของ เส้นเอ็น หรือ กล้ามเนื้อ บริเวณคอ มักเกิดจากการใช้งานคอมากเกินไป หรือเกิดจากอุบัติเหตุ แรงกระแทกอย่างฉับพลัน ทำให้คอมีการยืดและหดเกร็งเร็วเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม ตึง อักเสบ และเคลื่อนไหวคอได้ลำบากนั่นเอง

คอเคล็ด เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

  • การใช้งานคอมากเกินไป
  • ท่านอนที่ไม่ถูกต้อง
  • การออกกำลังกายผิดวิธี
  • อุบัติเหตุ
  • โรคบางชนิด 
  • อื่นๆ
เคล็ดไม่ลับ 6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ รู้แบบนี้สบายนานแล้ว

6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ 

ใน 6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ นี้คงจะมีหลายๆคนรู้อยู่แล้ว แต่บางอย่างก็ไม่ควรทำตั้งแต่เริ่มเป็นเลย ควรจะรอก่อน แต่บางอย่างก็สามารถทำให้ได้เลยเพื่อบรรเทาอาการลง ถ้าทำสลับกัน หรือทำเร็วเกินก็มีความเสี่ยงที่จะอาการหนักกว่าเดิมได้ บางวิธี ให้เริ่มทำภายใน 48 ชั่วโมง ที่เริ่มมีอาการ และ บางวิธีอาจต้องรอทำหลัง 48 ชั่วโมงที่มีอาการแล้ว ไม่งั้นอาจทำให้คอเคล็ดหนักกว่าเดิมเข้าไปอีกได้

1. ประคบเย็น

การประคบเย็นหลังจากเริ่มรู้สึกปวดคอทันที จะได้ผลดีที่สุด โดยให้ประคบเย็นบริเวณคอด้วยถุงน้ำแข็ง หรือ จะห่อด้วยผ้าอีกชั้นแล้วประคบก็ได้ ประคบเซ็ทละ 10-20 นาที ทำแบบนี้ซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ภายใน 48 ชั่วโมงแรกที่เริ่มปวด การประคบเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ชะลอการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบบริเวรที่ประคบ และความเย็นยังลดความรู้สึกปวดได้อีกด้วย

2. ประคบร้อน

การประคบร้อน มักจะใช้หลังจากมีอาการนานแล้ว หรือหลังจาก 48 ชั่วโมงนับจากตอนเริ่มปวด และไม่ดีขึ้นเลย การประบคบร้อนสามารถหาถุงร้อน หรือ ใส่น้ำร้อนในถุง แล้วห่อผ้า หรือจะใช้เป็นผ้าชุบน้ำร้อนแล้วบิดหมาดๆ แล้วค่อยทำการประบคบ เซ็ทละ 10-20 นาทีก็ได้ ทำซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ที่ยังมีอาการปวด

ความร้อนจากการประคบร้อนจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย จากการปวดและตึงได้

3. พักการใช้งานคอ

การปวดคอมักจะเกิดกจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตติดจอ อย่างเช่น ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หรือ นั่งทำงานหน้าคอมเป็นเวลานานๆ ถ้าเกิดมีอาการปวดคอ ให้เลิกก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ซักพักจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือถ้านั่งทำงานจ้องคอมก็ควรปรับท่านั่งให้ถูก หลังตรง แขนวางราบกับโต๊ะ เพื่อปวดคอน้อยลง

4. ยืดกล้ามเนื้อคอ

ยืดกล้ามเนื้อคอ วิธีง่ายๆที่คลายอาการปวดได้ไม่น้อย แต่ถ้าคอเคล็ดหนัก ยังไม่ควรทำ ควรทำวิธีอื่นให้อาการดีขึ้นก่อนค่อยทำ ไม่งั้นกล้ามเนื้ออาจจะยิ่งเกิดการอักเสบมากกว่าเดิมได้ การยืดกล้ามเนื้อคอให้ทำเบาๆ ไม่ฝืนจนเจ็บ ถ้ารู้สึกว่าเจ็บมาก ให้หยุดทำทันที

ท่าบริหารคอเบื้องต้น

นั่งก้มหัวลงโดยให้คางแตะกับอก และค้างไว้ 10-15 นาที ทำแบบนี้ซ้ำๆ 3-5 ครั้ง ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้ทำท่าต่อไปโดยเงยหน้ามองเพดาน ค้างไว้ 10-15 นาที และทำซ้ำ 3-5 ครั้ง

5. ทานยาแก้ปวด

การแก้ปวดด้วยยาอย่างพาราเซตามอลอาจจะเป็นวิธีที่รวดเร็ว กินไม่นานก็เริ่มไม่ค่อยปวดแล้ว แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาก็อาจจะกลับมาปวดอีกครั้งได้ ถ้ามีอาการหนัก และกินยาแรง ควรกินปรึกษาเภสัชก่อนจะดีที่สุด

6. กายภาพบำบัด

ในการทำกายภาพบำบัด ไม่แนะนำสำหรับคนที่คอเคล็ดหนักๆ หรือถ้าคอเคล็ดหนักๆ ควรรอให้อาการดีขึ้นซัก 48 ชั่วโมง หลังมีอาการ เพื่อให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นซักหน่อยก่อน และควรหานักกายภาพบำบัดที่เชื่อถือได้ ไม่งั้นอาจมีความเสี่ยงที่อาการคอเคล็ดจะหนักกว่าเดิม

คอเคล็ด กินอะไรดี ? ถึงจะทำให้อาการดีขึ้น

ในระหว่างที่คอเคล็ด กินอะไรดี อาหารเหล่านี้อาจไม่ได้กินแล้วหายทันที แต่อาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยลดการอักเสบ ทำให้อาการอักเสบของคอเคล็ดดีขึ้นได้ (ควรกินในปริมาณที่พแเหมาะ)

  1. ปลาแซลมอน
  2. เบอร์รี่อะไรก็ได้
  3. ขิง
  4. ผักโขม
  5. งาดำ

คอเคล็ด ไม่ควรกินอะไร

อย่างที่บอกไปว่าคอเคล็ดเกิดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อคอ ทำให้เกิดการอักเสบ อาหารเหล่านี้จะยิ่งกระตุ้นทำให้ร่างกายอักเสบ การกินอาหารเหล่านี้มากๆขณะที่คอเคล็ดอาจจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก ควรเลี่ยงระหว่างที่มีอาการจะดีที่สุด

  1. ปลาร้า
  2. ไก่ทอด
  3. น้ำอัดลม
  4. แอลกอฮอล์
  5. ส้มตำเผ็ดๆ

คอเคล็ดกี่วันหาย

ปกติแล้วคอเคล็ดจะหายภายใน 2-3 วันถ้าอาการไม่ได้หนักมากมายอะไร แต่ในคนที่อาการหนักๆ จนหันไม่ได้อาจจะเกิดจากการออกกำลังกายผิดท่า หรือ อื่นๆที่ทำให้คอเคล็ดรุ่นแรงอาจจะนานถึง 1-2 อาทิตย์กว่าจะหายเป็นปกติได้

สรุป

ย้ำอีกครัง 6 วิธีแก้คอเคล็ด หันไม่ได้ นั้น ถ้าภายใน 48 ชั่วโมงแรกที่มีอาการควรจะประคบเย็นไปก่อน และหลังจาก 48 ชั่วโมงไปแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นประคบร้อนแทน แล้วค่อยเริ่มยืดกล้ามเนื้อคอ หรือ กายภาพบำบัดต่อไปตามลำดับ ระหว่า 48 ชั่วโมงแรกอาจจะมีการทานยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลร่วมด้วยเพื่อให้อาการดีขึ้น แต่ถ้าอาการหนักอาจจะกินยา ไอบูโพรเฟน แต่ให้ปรึกษาเภสัชก่อน เพราะเป็นยาที่ค่อนข้างแรง ระหว่างนี้ก็ให้ลดอาหารที่น้ำตาลสูง ไขมันสูง อาหารเค็ม อาหารเผ็ดๆ หรือ แอลกอฮอล์ เพราะอาหาหารเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มการอักเสบของร่างกาย ทำให้หายช้ากว่าเดิมได้ แต่ถ้ากินอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบอย่าง แซลมอน เบอร์รี่ ขิง ผักโขม หรือ งาดำ ก็อาจทำให้อาการหายเร็วขึ้นได้ เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยลดการอักเสบของร่างกาย และมีประโยชน์อื่นๆต่อร่างกายอีกด้วย

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความใกล้เคียง

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ