8 วิธี กินกระเทียม อย่างไรมีคุณค่ามากที่สุด

8 วิธี กินกระเทียม อย่างไรมีคุณค่ามากที่สุด

กระเทียมถือเป็นยอดนิยมที่ได้รับความนิยมมานาน กระเทียมอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

8 วิธี กินกระเทียม อย่างไรมีคุณค่ามากที่สุด

กระเทียมเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าและถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารและยามาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต ในบทความนี้เรานำเอา 8 วิธี กินกระเทียม อย่างไรมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสมุนไพรชนิดนี้อย่างเต็มที่ที่สุดค่ะ เพราะ บางครั้งเพียงแค่การปรุงผิดวิธี หรือกินแบบไม่เหมาะสม อาจทำให้สารอาหารสำคัญสูญเสียไปโดยไม่รู้ตัว ลองไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

 

1. กินกระเทียมสด

กระเทียมสดมีสารอัลลิซินที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่สารนี้จะเกิดขึ้นเมื่อกระเทียมถูกบดหรือหั่น การกินกระเทียมสดทันทีหลังบดจึงช่วยให้ร่างกายได้รับสารสำคัญอย่างเต็มที่ หากกังวลเรื่องกลิ่นปาก อาจรับประทานร่วมกับผักชีฝรั่งหรือดื่มน้ำมะนาวหลังรับประทาน  หากต้องการรับประโยชน์ด้านสุขภาพสูงสุดจากกระเทียม ควรเลือกกระเทียมสดมากกว่ากระเทียมบรรจุขวด นักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่ากระเทียมที่บดแล้วที่เก็บไว้ในน้ำจะสูญเสียอัลลิซินไปประมาณครึ่งหนึ่งภายในเวลา 6 วัน (1)

 

2. บดกระเทียมและปล่อยทิ้งไว้ก่อนปรุง

การบดหรือสับกระเทียม แล้วพักไว้ห่างจากความร้อนประมาณ 10 นาที ในช่วงเวลานี้ อัลลิซินจะถูกสร้างขึ้นสูงสุดและคงสภาพไว้ระหว่างการปรุงอาหาร จากนั้นคุณสามารถนำไปปรุงอาหารได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการ ทอด ผัด อบ ก็ทำได้ตามต้องการ และยังคงได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน (2)

 

3. ปรุงกระเทียมด้วยไฟอ่อน

ความร้อนสูงอาจทำลายสารอัลลิซิน การปรุงกระเทียมด้วยไฟอ่อน หรือใส่กระเทียมในอาหารช่วงท้ายของการปรุง สามารถรักษาสารอาหารในกระเทียมได้ดีกว่า อย่าใช้ความร้อนเกิน 140 องศาฟาเรนไฮต์ (60 องศาเซลเซียส) เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำลายอัลลิซินได้นั่นเอง (4)

 

4. เลือกกระเทียมปลอดสารพิษ

กระเทียมที่ปลอดสารเคมีจะปลอดภัยกว่าและยังคงคุณค่าสารอาหารไว้ได้ดีกว่า หากเป็นไปได้ ควรเลือกซื้อกระเทียมออร์แกนิกหรือกระเทียมจากแหล่งที่เชื่อถือได้

 

5. ไม่ควรแช่กระเทียมในน้ำมันนานเกินไป

แม้ว่าการแช่กระเทียมในน้ำมันจะช่วยเพิ่มรสชาติ แต่หากเก็บไว้เป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อโบทูลินัมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นควรแช่และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และนักวิจัยชาวญี่ปุ่นพบว่า กระเทียมที่เก็บไว้ในน้ำมันพืชจะสูญเสียอัลลิซินไปมากภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง (1)

 

6. ทำชากระเทียม

สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินกระเทียมสด การทำชากระเทียมอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพียงแค่บดกระเทียม 1-2 กลีบ ใส่ในน้ำร้อน ทิ้งไว้สักครู่แล้วกรองดื่ม สามารถเติมน้ำผึ้งและมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ ชากระเทียมมีแคลอรี่ต่ำและมีสารอาหารสูง โดยมีวิตามินซีวิตามินบี 6 ไฟเบอร์ แมงกานีส และมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรีย เครื่องเทศชนิดนี้ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี (5) 

 

7. รับประทานพร้อมด้วยอาหารที่หลากหลาย

กระเทียมจะมีประโยชน์สูงสุดเมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่สมดุล เช่น ผักสด ธัญพืช หรือโปรตีนที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและเสริมสร้างสุขภาพให้ดีมากขึ้น  ซึ่งการรับประทานกระเทียมร่วมกับสารอาหารจะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และยังสามารถเพิ่มรสชาติให้กับอาหารอื่นๆ ได้อีกด้วย (7)

 

8.เลือกทานน้ำมันกระเทียมสกัดเย็น

ปกติกระเทียมสดจะมีสารอัลลิซินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากนำกระเทียมไปผ่านกระบวนการบ่มและผ่านการสกัดเย็น จะทำให้ได้สารสำคัญอย่าง S-Allyl Cysteine (SAC) ในปริมาณที่สูงกว่ากระเทียมสดทั่วไปถึงกว่า 800 เท่า (เทียบกับประมาณ 2.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมในกระเทียมสดเท่านั้น) แต่ความพิเศษของ SAC ไม่ได้มีเพียงปริมาณที่สูงค่ะ สารนี้ยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อร่างกายเช่นเดียวกับอัลลิซิน แต่มีความเสถียรสูง แม้โดนความร้อนก็คงอยู่ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และออกฤทธิ์ดูแลสุขภาพได้ยาวนาน (8),(9)

 

โรคที่ห้ามกินกระเทียม

กระเทียมมีฤทธิ์ร้อน การบริโภคที่ ”มากเกินไป” อาจทำให้ร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปากแห้ง และตาแห้ง ผู้ป่วยโรคตาควรรับประทานกระเทียมให้น้อยลง นอกจากนี้ไม่ควรรับประทานกระเทียมในขณะท้องว่าง เพราะอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ (3) หากคุณรับประทานยาละลายลิ่มเลือด การเสริมด้วยกระเทียมอาจเพิ่มผลของยา ทำให้เลือดแข็งตัวได้ยากยิ่งขึ้น (4)

 

กระเทียมไม่ควรกินกับอะไร

กระเทียมอาจรบกวนประสิทธิภาพของยาบางชนิด จึงไม่ควรรับประทานกับยสปฏิชีวนะ และหากใครที่ทานยาละลายลิ่มเลือด หรือมีแผนจะเข้ารับการผ่าตัด อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานกระเทียมหลายสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด (6)

 

กิน กระเทียมสด วันละ เท่า ไหร่

โดยทั่วไปแล้ว การรับประทานกระเทียมสดวันละ 1-2 กลีบ ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ แต่หากต้องการรับประทานในปริมาณที่มากกว่านี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เนื่องจากการรับประทานกระเทียมในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปัญหาทางเดินอาหาร หรือมีปฏิกิริยากับยาบางชนิดได้ค่ะ

 

กินกระเทียมตอนกลางคืนดีหรือไม่? 

การรับประทานกระเทียมในตอนกลางคืน อาจช่วยเสริมกระบวนการล้างพิษของร่างกายได้อย่างดี เนื่องจากกระเทียมมีสารสำคัญ เช่น สารประกอบซัลเฟอร์และอัลลิซิน ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ในตับที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการขจัดสารพิษ สารเหล่านี้ส่งเสริมความสามารถของตับในการเปลี่ยนสารพิษให้เป็นกลางและกำจัดของเสียออกจากร่างกาย การรับประทานกระเทียมหลังมื้ออาหารเย็น อาจช่วยให้กระบวนการล้างพิษมีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่คุณนอนหลับ (7)

 

สรุป

กระเทียมเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายวิธี หากคุณใส่ใจกระบวนการบริโภคให้เหมาะสม คุณจะได้รับคุณค่าสูงสุดจากกระเทียมที่มีต่อสุขภาพ ลองปรับใช้คำแนะนำที่เรารวบรวมมาว่า กินกระเทียม อย่างไรมีคุณค่ามากที่สุด เหล่านี้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

 

สามารถอ่านประโยชน์ของกระเทียมเพิ่มเติมได้ที่: กระเทียม

 

แหล่งอ้างอิง

1.เคล็ดลับ 4 ประการในการเตรียมกระเทียมเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์สูงสุด

2.กฎกระเทียม 10 นาที

3.ประโยชน์ต่อสุขภาพของกระเทียมในการแพทย์แผนจีน Iคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลเฉิงตู

4.ประโยชน์ต่อสุขภาพของกระเทียม

5.ชากระเทียม – ประโยชน์ต่อสุขภาพจากการดื่มชาทุกเช้า!

6.ประโยชน์ต่อสุขภาพของกระเทียมหนึ่งในเครื่องเทศสมุนไพรที่มีฤทธิ์แรงที่สุด

7.ประโยชน์ของการกินกระเทียมตอนกลางคืน

8.การกำหนดอัลลิซิน เอส-อัลลิลซิสเตอีน และสารเมตาบอไลต์ระเหยของกระเทียมในลมหายใจ พลาสมา หรือของเหลวในกระเพาะอาหารจำลอง

9.S-Allyl cysteine ​​ในกระเทียม (Allium sativum): การก่อตัว การทำงานทางชีวภาพ และความต้านทานต่อการแปรรูปอาหารเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความเด่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความอื่นๆ