Menu
เป็นความจริงของชีวิตอีกหนึ่งเรื่องที่ว่า อายุที่มากขึ้นมักสวนทางกับสุขภาพและความงามเสมอ ทั้งการเคลื่อนไหวที่ช้าลง เจ็บออดแอด ๆ เดินเหินไม่สะดวก หรือการมีผิวหนังมีการเหี่ยวย่น ริ้วรอยต่าง ๆ นี่คือสัญญาณความเสื่อมของร่างกายที่จะปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ ไปพร้อมกับอายุที่มากขึ้น แต่การเสื่อมของร่างกายไม่ใช่ว่าจะเสื่อมขึ้นเฉย ๆ แต่เกิดจากการที่ร่างกายผลิตสารตัวหนึ่งในร่างกายที่ชื่อว่า สาร “ไฮยาลูโรนิค” (Hyaluronic Acid) ซึ่งสารสำคัญตัวนี้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสารแห่งความงาม เพราะร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อคงสภาพผิวไว้ให้เต่งตึง การมองเห็นชัดเจน เป็นน้ำเลี้ยงข้อเข่า ไม่ให้ข้อเข่าเกิดการฝืดเคือง ลดการเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะทั่วร่างกาย ที่สำคัญยังเป็นอาหารสำคัญของเซลล์ผิวอีกด้วย
Hyaluronic คืออะไร หลายคนอาจคุ้นกับคำว่า ไฮยาลูรอน หรือ ไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic) กันมาบ้าง เพราะความนิยมของสารตัวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมด้านความงาม ไม่ว่าจะคลีนิคเสริมความงาม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และวิตามินบำรุงผิว ที่ถ้าพูดถึงเรื่องผิวพรรณเต่งติว กระจ่างใส ก็จะไม่พ้นต้องมีคำว่า ไฮยาลูรอน มาด้วยเสมอ สารตัวนี้มีความสำคัญกับร่างกายเป็นอย่างมาก วันนี้จึงอยากพามาทำความรู้จักกับกรดไฮยาลูรอนกันให้มากขึ้นกันในบทความนี้ค่ะ
ปกติแล้วนั้นร่างกายของมนุษย์จะมีการผลิตกรดไฮยาลูโรนิคอยู่ตลอดเวลา สารนี้จะถูกแบ่งไปเลี้ยงกระดูกอ่อนและส่วนอื่น ๆ 50% และอยู่ในชั้นผิวหนังมากถึง 50% เลยทีเดียว แม้ว่าสารตัวนี้ร่างกายจะผลิตอยู่เรื่อย ๆ แต่ถ้าหากร่างกายมีสภาวะความเครียดก็จะทำให้ร่างกายผลิตไฮยาลูโรนิคได้น้อยลงอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมื่ออายุเพิ่ม ร่างกายกลับผลิตกรดไฮยาลูโรนิคได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่ผลิตเลยเมื่ออายุราว 50 ปี คนในวัยนั้น ๆ จึงเห็นการเกิดริ้วรอยตลอดทั้งตัวได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญคนในวัย 50 ปี มักมีอาการปวดตามข้อต่อ ปวดขาปวดเข่า มีเสียงดังก๊อบแก๊บอยู่เสมอ เนื่องจากร่างกายไม่ได้ผลิตน้ำเลี้ยงข้อต่อออกมาอีกแล้วนั่นเอง
เทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันได้พัฒนาไปอย่างมาก จึงได้มีการคิดค้น “ไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์” ออกมาเพื่อแก้สภาวะการขาดไฮยาลูโรนิคในกลุ่มผู้ที่ร่างกายหยุดสร้างแล้ว ไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์รูปแบบฉีดได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมเสริมความงามเป็นอย่างมาก สามารถช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำ เหี่ยวย่น มีริ้วรอย กลับมาเต่งตึงเหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไฮยาลูโรนิคยังถูกผลิตออกมาในรูปแบบของเครื่องสำอาง เช่น ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย อีกทั้งยังมีครีมทาใต้ตาสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำจากพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วย
ครีมที่มีสว่นผสมของไฮยาลูโรนิคนั้นมีจุดเด่นสำคัญคือ การช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น เพราะสารตัวนี้มีคุณสมบัติในการอุ้มได้มากกว่า 1000 เท่าของน้ำหนักสาร แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำว่าให้ทาในตอนที่ผิวหนังเริ่มแห้งตึง หยาบกร้าน และมีริ้วรอย หากใช้ในรูปแบบเซรั่มที่มีความเข้มข้น 1.5% แนะนำว่าให้หยดเพียง 1-2 หยดบนผิวหน้าหรือผิวกาย สามารถผสมกับแชมพูและครีมอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส หรือนำไปสระผมก็จะทำให้ผมเงางาม มีน้ำหนัก จัดทรงได้ นอกจากนั้นยังสามารถหยดผสมรวมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ประจำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวพรรณได้
กรดไฮยาลูโรนิคยังถูกสังเคราะห์ออกมาในรูปแบบวิตามินชนิดผง บรรจุแคปซูล เพื่อเป็นตัวช่วยบำรุงผิวกลับมาฉ่ำน้ำ ลดการหมองคล้ำ มีริ้วรอย เหี่ยวย่น ทานง่าย สะดวก อีกทั้งยังมีหลายยี่ห้อให้เลือกทาน บางยี่ห้อยังมีการผสมอาหารผิวอื่น ๆ เช่น วิตามินซีหรือคลลาเจน ลงไปอีกด้วย
แม้ว่าการใช้กรดไฮยาลูโรนิคจะค่อนข้างปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาอาจมีคนบางกลุ่มที่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ หากใช้ในรูปแบบครีมบำรุงผิว ควรเลือกใช้ชนิดที่ผสมกรดไฮยาลูโรนิค ไม่เกิน 2% เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง หญิงตั้งครรภ์และผู้กำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม เพราะยังไม่มีการศึกษามากพอที่จะการันตีความปลอดภัยได้
บริษัท นิวทริชั่น ไซเอนซ์ แลบบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จํากัด เลขที่ 9 ซอยศรีนคริทร์ 38 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
02-123-3860
จันทร์ - ศุกร์ 08.00 - 17.00 น.
