Welcome to Protriva น้ำมันสกัดเย็นเกรดพรีเมี่ยม   คลิกเพื่อฟังข้อความที่ไฮไลท์! Welcome to Protriva น้ำมันสกัดเย็นเกรดพรีเมี่ยม

รู้หรือไม่ prebiotic มีอะไรบ้าง เคล็บลับสุขภาพดีที่ห้ามพลาด

รู้หรือไม่ prebiotic มีอะไรบ้าง เคล็บลับสุขภาพดีที่ห้ามพลาด

เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร หลายคนอาจคุ้นเคยกับ “โพรไบโอติก” ที่เป็นจุลินทรีย์ดีในลำไส้ที่ช่วยเสริมสุขภาพ แต่ไม่ใช่แค่โพรไบโอติกเท่านั้นที่มีความสำคัญ “พรีไบโอติก” (Prebiotic) ก็มีบทบาทที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งพรีไบโอติกทำหน้าที่เสมือนอาหารที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของจุลินทรีย์โพรไบโอติก ให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

รู้หรือไม่  prebiotic มีอะไรบ้าง เคล็บลับสุขภาพดีที่ต้องรู้

หลายคนอาจจะรู้จักโพรไบโอติกกันไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่า prebiotic มีอะไรบ้าง ในบทความนี้ เราจะพามารู้จักเจ้าตัวพรีไบโอติสารอาหารที่ช่วยบำรุงแบคทีเรียดีในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองมาดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

พรีไบโอติก คือ เส้นใยอาหารหรือส่วนประกอบอาหารที่ร่างกายย่อยไม่ได้โดยตรง แต่เมื่อผ่านไปยังลำไส้ใหญ่ จะถูกจุลินทรีย์โพรไบโอติกนำไปใช้เป็นอาหาร ส่งผลให้โพรไบโอติกเจริญเติบโตได้ดีและสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมให้กับลำไส้ พรีไบโอติกยังช่วยกระตุ้นการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดี ลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย ซึ่งส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น

พรีไบโอติกพบในอาหารอะไรบ้าง?

 

1.กระเทียม

 

ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิด บิฟิโดแบคทีเรีย (1)  ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพในลำไส้ ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยรวมและรักษาการติดเชื้อในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารและบรรเทาอาการท้องเสีย ท้องผูก และผื่นผิวหนังอักเสบนอกจากนี้ กระเทียม ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคได้อีกด้วย

 

2.หอมหัวใหญ่

 

ถ้าถามว่า  prebiotic มีอะไรบ้าง หอมหัวใหญ่ถือเป็นคำตอบที่สำคัญเลยค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในอาหารที่มีอินูลินและฟรุกแทนสูง ฟรุกแทนเป็นใยอาหารที่จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ใช้เป็นแหล่งอาหาร ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดี

 

3.กล้วย

 

กล้วยมีใยอาหารที่ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ดีในลำไส้ โดยเฉพาะกล้วยห่ามซึ่งมีพรีไบโอติกมากกว่ากล้วยสุก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ จากงานวิจัยพบว่า (3) กล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านทานอัลฟาอะไมเลสและทริปซิน ความสามารถในการกระตุ้นการเติบโตของแล็กโทบาซิลลัส และยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค ดังนั้น กล้วยจึงเป็นแหล่งพรีไบโอติกที่ดีมาก ๆ ค่ะ

 

4.กีวี่

กีวีเป็นผลไม้ที่มีสีสันสดใส อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารเคมีจากพืชที่มีฤทธิ์พรีไบโอติก ส่งผลดีต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ อีกทั้งยังมีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสรและสารต้านการอักเสบ เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วสุด ๆ เป็นผลไม้ที่ช่วยเพิ่มปริมาณพรีไบโอติกในร่างกายได้เป็นอย่างดี 

 

5.แอปเปิ้ล

 

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารเพคติน ซึ่งเป็นพรีไบโอติกชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ เพคตินยังช่วยลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย แอปเปิ้ลจึงเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติที่ดีในการเสริมสร้างระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่มีประโยชน์มากมาย (ไฟเบอร์ โพลีฟีนอล และอื่นๆ) การบริโภคแอปเปิ้ลเป็นประจำจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก (7)

 

6.ข้าวโอ๊ต

 

ข้าวโอ๊ตมีเบต้า-กลูแคนและใยอาหารละลายน้ำที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหารและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ (2) แถมยังสามารถช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

 

7.มันฝรั่ง

 

จากการศึกษาวิจัยพบว่าการรับประทานมันฝรั่ง ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอาการท้องร่วงและท้องผูกได้อีกด้วย   (5)

 

พรีไบโอติก กินตอนไหน

โดยทั่วไปแล้ว การรับประทานพรีไบโอติกพร้อมกับอาหารมื้อหลัก หรือหลังอาหารมื้อหลักประมาณ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมพรีไบโอติกได้ดีขึ้น เนื่องจากมีอาหารอื่นๆ ช่วยในการเคลื่อนย้ายพรีไบโอติกไปยังลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ค่ะ แต่หากการรับประทานพรีไบโอติกในขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้

 

พรีไบโอติก ช่วยอะไร

พรีไบโอติกคืออาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ ช่วยให้แบคทีเรียเหล่านี้เจริญเติบโตและทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น ช่วยปรับปรุงระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ท้องเสีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อในลำไส้ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น  (8) และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

 

ยาคูลท์มีโพรไบโอติกไหม

ยาคูลท์มีโพรไบโอติกค่ะ ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ท้องเสีย และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นค่ะ โดยจุลินทรีย์หลักในยาคูลท์คือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้า (Lactobacillus casei strain Shirota) 

 

พรีไบโอติกกับไฟเบอร์ ต่างกันอย่างไร?

ไฟเบอร์: เป็นเส้นใยอาหารทั่วไป ช่วยในการขับถ่าย

พรีไบโอติก: เป็นชนิดของไฟเบอร์ที่เป็นอาหารของแบคทีเรียดี ช่วยปรับสมดุลในลำไส้

 

แหล่งอ้างอิง

1.verywellhealth.com

2.ผลของพรีไบโอติกของข้าวโอ๊ตต่อไขมันในเลือด จุลินทรีย์ในลำไส้ และกรดไขมันสายสั้นในผู้ป่วยไขมันในเลือดสูงระดับเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับข้าว| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

3.การศึกษาคุณสมบัติพรีไบโอติกของกล้วยสายพันธุ์ที่เลือกในประเทศไทย| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

4.การออกแบบอย่างยั่งยืนของส่วนผสมจากผลพลอยได้จากกีวีที่สร้างสรรค์ซึ่งมีโปรไบโอติก| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

5.การบริโภคแป้งมันฝรั่งต้านทาน Solnul ™ก่อให้เกิดผลพรีไบโอติกในการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มที่มีการควบคุมด้วยยาหลอก| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

6.eatingwell.com

7.การประยุกต์ใช้พรีไบโอติกในผลิตภัณฑ์แอปเปิลและประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น| ห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติ NIH

8.พรีไบโอติกคืออะไร และทำหน้าที่อะไร?

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

Skip to content คลิกเพื่อฟังข้อความที่ไฮไลท์!