อะโวคาโด ผลไม้สีเขียวเนื้อนุ่มที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยและนำไปทำอาหารได้หลากหลายแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และไขมันดี
เช็คให้ชัวร์ อะโวคาโด ลดไขมัน ได้จริงหรือ ? 3 เหตุผลที่ต้องรู้
เวลาพูดถึงผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ชื่อของ “อะโวคาโด” มักติดอันดับต้น ๆ เสมอ และหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า อะโวคาโด ลดไขมัน ได้ แต่…จริงหรือเปล่านะ? ในบทความนี้เราจะพาไปเช็คให้ชัวร์ ผ่าน 5 เหตุผลที่คนรักสุขภาพควรรู้ค่ะ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยค่ะ
1. ไขมันในอะโวคาโดเป็น “ไขมันดี”
อะโวคาโดมีไขมันเป็นส่วนประกอบหลักก็จริง แต่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว(Monounsaturated Fatty Acids – MUFAs) ซึ่งเป็นไขมันดีที่มีบทบาทสำคัญในการลดระดับไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) ในเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรงขึ้นด้วยนะคะ (6) และจากการศึกษาพบว่าการกินอะโวคาโดวันละ 1 ผล อาจช่วยปรับสมดุลการสะสมไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องผู้หญิงอาจมีแนวโน้มไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มเล็กน้อย แต่ไขมันในช่องท้องลึกลดลง ส่วน ผู้ชายเห็นผลชัดขึ้นในด้านการลดไขมันในช่องท้อง (2)
2. ไฟเบอร์สูง ช่วยดูแลระบบขับถ่าย
ตามข้อมูลของ USDA กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา อะโวคาโด 1 ลูกมีไฟเบอร์ประมาณ 13.5 กรัม (5) ซึ่งจัดว่าสูงมากในกลุ่มผลไม้ ไฟเบอร์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จะย่อยสลายและหมักใยอาหารที่รับประทานเข้าไปเพื่อผลิตกรดไขมันสายสั้น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (4) อีกทั้งไฟเบอร์ยังทำให้อิ่มนาน (3) ลดโอกาสการกินจุกจิกระหว่างวันได้ค่ะ
3. เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
อะโวคาโดมีวิตามินอี ลูทีน และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยสนับสนุนการเผาผลาญ เสริมภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมสุขภาพโดยรวม(1) ทั้งยังมีบทบาทในการชะลอความเสื่อมของเซลล์และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอีกด้วยนะคะ
อะโวคาโด ไม่ควรกินกับอะไร
อะโวคาโดมีวิตามินเค ซึ่งอาจรบกวนการทำงานของยาละลายลิ่มเลือด เช่น วาร์ฟาริน และอาจลดประสิทธิภาพของยาลงได้ จึงไม่ควรกินคู่กันค่ะ นอกจากนี้อะโวคาโดมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งโดยทั่วไปมีประโยชน์ แต่การกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ผู้ที่เป็นโรคไตควรระมัดระวังไม่กินมากจนเกินไปนะคะ (1)
อะโวคาโดมีน้ําตาลเยอะไหม
อะโวคาโด มีน้ำตาลน้อยมาก ค่ะ ในอะโวคาโอะโวคาโด ทั้งลูก (ใช่แล้ว มันเป็นผลไม้) มีน้ำตาลเพียง 1.33 กรัมเท่านั้น (7) ซึ่งน้อยกว่าผลไม้ส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เอง อะโวคาโดจึงเหมาะกับผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนักค่ะ
สรุป
แม้อะโวคาโดจะมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันอย่างน่าสนใจ หากกินเป็นประจำ ควบคู่กับการดูแลอาหารในภาพรวม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราได้ประโยชน์เต็มที่ โดยไม่ต้องกลัวน้ำหนักจะพุ่งขึ้นค่ะ หากคุณกำลังมองหาวิธีลดไขมันอย่างเป็นธรรมชาติ “อะโวคาโด” ก็คือหนึ่งในทางสุขภาพที่ดีค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: Avocado
แหล่งอ้างอิง
1.5 วิธีกินอะโวคาโดเพื่อลดไขมันหน้าท้อง
3.novowellnesscenter: อะโวคาโดและถั่วช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร
4.eatingwell: อะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณเมื่อคุณกินอะโวคาโดทุกวัน