Menu
โดยทั่วไปแล้วจะเห็นแต่การสกัดร้อน คือการนำไปต้ม จนได้สารสกัดที่เข้มข้น เก็บไว้ใช้ได้นาน แต่การสกัดเย็น เป็นการบด กด หรือคั้นเอาเฉพาะน้ำ โดยสกัดในอุณภูมิห้องปกติ การสกัดเย็น จะทำยากกว่าสกัดร้อน แต่คุณค่าทางอาหารของสกัดเย็นจะเยอะกว่าสกัดร้อนอย่างมาก และต้องใช้ปริมาณมากๆ ในการสกัดออกมาเพียงน้อยนิด จึงทำให้ราคาแพงกว่าปกติ
น้ำมัน อะโวคาโด (Avocado) ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหาร (Superfood) เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายของมนุษย์ น้ำมัน อะโวคาโด สกัดเย็น สรรพคุณ 9 อย่างนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์จากไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ สามารถทานได้บ่อยโดยไม่ต้องกลัวโคเลสเตอรอลในเลือดสูงแล้ว
อะโวคาโดก็เป็นสุดยอดผลไม้ที่กลุ่มคนรักสุขภาพให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ความนิยมและความต้องการในตัวของอะโวคาโดสูงขึ้น จนถูกนำไปบริโภคในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการ กินจากผล นำไปอบ ทำเป็นสลัด หรือกระทั่งนำไปปั่นทำเป็นน้ำปั่น ก็ดีกับสุขภาพ
จนกระทั่งนักวิจัยต่างๆต้องการดึงเอาสารอาหารและคุณประโยชน์ของอะโวคาโดออกมาให้มากที่สุด จนนำไปสู่การพัฒนามาเป็น “น้ำ มันอะโวคาโด (Avocado Oil) น้ำมันสกัดเข้มข้น ที่คงคุณค่าของอะโวคาโดไว้ได้อย่างดี ทานง่ายขึ้น ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น จนถูกนำมาใช้ในการ “ควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด” สำหรับผู้ป่วยคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
น้ำมัน อะโวคาโดเป็นแหล่งของสารอาหารอย่าง ลูทีน แคโรทีนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จำเป็นต่อดวงตา
ยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นอีกว่า ในอาหารที่อุดมไปด้วย ลูทีนและแคโรทีนอยด์ เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อดวงตา (1,2)สารอาหารเหล่านี้ อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับดวงตาที่เกี่ยวกับอายุได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม ต้อกระจก
ในน้ำมันอะโวคาโดสกัดเย็นเกือบ 70% ประกอบไปด้วยกรดโอเลอิก (6) ที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งกรดโอเลอิก เป็นกรดไขมันโอเมก้า 9 ไม่อิ่มตัว ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก
นอกจากนี้เราจะเห็นกรดโอเลอิกในน้ำมันมะกอก ที่เป็นน้ำมันเพื่อสุขภาพอีกด้วย ซึ่งนักวิจัยส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่า อาหารที่เต็มไปด้วย กรดโอเลอิก มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยลดภาวะเรื้อรังต่างๆได้ เช่นสมองเสื่อม และ โรคหัวใจ (5,8)
อนุมูลอิสระเป็นสารประกอบที่ไม่เสถียร ถ้ามีมากเกินไปจะทำให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลายเมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อเซลล์ร่างกายถูกทำลาย และเกิดการไม่สมดุลกัน จะทำให้เกิดความเครียดออกซิเดชัน และทำให้เป็นโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ในที่สุด (12,13)
ในน้ำมันอโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก การกินน้ำมันอะโวคาโดที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง อื่นๆที่จะตามมาได้ (14,15)
ไฟว์ ออยล์ น้ำมันรวมอโวคาโด้สกัดเย็น โดดเด่นด้วยน้ำมัน อะโวคาโดเกรดนำเข้า จากประเทศเยอรมันนี รวมไปถึงน้ำมันคุณภาพดีต่างๆ อีก 4 ชนิด รวมกันจนกลายเป็นความลงตัวของน้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ไฟว์ ออยล์
รู้หรือไม่ว่า สารอาหารบางอย่าง จำเป็นที่ต้องใช้ไขมัน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น เช่น วิตามิน A แคโรทีนอยด์ ไลโคปีน และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย (20,21)
และที่น่าเสียดายคือ สารอาหารที่กล่าวมาและสารอาหารอืนๆในผักและผลไม้จะถูกดูดซึมได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้าไขมัน และในผัก ผลไม้ ก็ไม่มีไขมันเลย การกินน้ำมัน อะโวคาโด พร้อมผัก หรือ กินอะโวคาโดพร้อมผักจะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากผักได้มากยิ่งขึ้น (22) และที่สำคัญ ไขมันในอะโวคาโดเป็นไขมันดี (HDL) ที่ดีต่อร่างกาย และยังช่วยลดไขมันเลว (LDL) อีกด้วย
มีการศึกษาจากผู้สูงอายุ 154 คน ในประเทศญี่ปุ่น ที่สมองเริ่มทำงานได้น้อยลง รับรู้และเข้าใจได้น้อยลง ตามอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (25,26)
จากการศึกษาพบว่ากรดโอเลอิกหรือกรดไขมันดีอาจช่วยให้ความจำ การรับรู้ และเข้าใจ ดีขึ้น ได้ แต่อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ยังเต็มไปด้วยข้อกำจัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการศึกษา และ จำนวนคนที่เข้าร่วมการศึกษานี้
อะโวคาโด 1 ลูก จะมีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม ซึ่งให้พลังงานมากถึง 322 กิโลแคลอรี่ แต่กลับมีค่าคอเลสเตอรอลเพียง 0 กรัม เท่านั้น จึงทำให้สามารถทานได้บ่อย ไม่อ้วน แถมให้พลังงานเยอะ นอกจากนั้นยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โปรตีน วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม บำรุงร่างกายอีกด้วย
เนื่องจากน้ำมัน อะโวคาโดมีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ถ้าน้ำมัน อะโวคาโดแบบเท เราแนะนำให้เทใส่ผัก หรือ สลัด และ กินพร้อมๆกัน เพื่อให้น้ำมันที่ดีจากน้ำมันอะวโวคาโดไปช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากผักได้เยอะขึ้น
หรือน้ำ มันอะโวคาโดแบบแคปซูล แนะนำให้ทาน เช้า เที่ยง หลังหรือก่อนอาหาร เพื่อให้น้ำ มันอะโวคาโด ช่วยให้ร่างดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และการทานอะโวคาโดตอนเช้ายังทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น อิ่มนานขึ้น ทำให้กินได้น้อยลง แต่ได้รับสารอาหารมากขึ้นนั่นเอง
โดยรวม น้ำ มันอะโวคาโด กับ น้ำมันมะกอก มีไขมันดีทั้งคู่ และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพเหมือนๆกัน และน้ำ มันอะโวคาโดกับน้ำมันมะกอกคุณค่าทางโภชนาการที่ค่อนข้างจะดีเหมือนๆกัน ต่างกันตรงที่ น้ำมัน อะโวคาโด มีการทนความร้อนสูงกว่าน้ำมันมะกอก น้ำมัน อะโวคาโดจึงเหมาะกับการทำอาหารที่มีความร้อนสูงมากกว่าน้ำมันมะกอก (27)
บริษัท นิวทริชั่น ไซเอนซ์ แลบบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จํากัด เลขที่ 9 ซอยศรีนคริทร์ 38 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
02-123-3860
จันทร์ - ศุกร์ 08.00 - 17.00 น.
