จ-ศ 08:00 น. -17:00 น.

9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานได้ทุกวัน ป้องกันป่วยง่าย!

9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานได้ทุกวัน ป้องกันป่วยง่าย

สารบัญเนื้อหา

ภูมิคุ้มกัน

ภูมิคุ้มกัน สิ่งที่เป็นด่านป้องกันร่างกายต่อเชื้อโรคต่างๆที่เข้าสู่ร่างกาย ถ้าภูมิคุ้มกันแข็งแรง คนๆนั้นจะป่วยยาก แต่ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ค่อยแข็งแรง คนๆจะป่วยง่าย ป่วยอิดๆออดๆ 

ลองจินตนาการง่ายเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันง่ายๆคือ ร่างกายเราเหมือนป้อมปราการ ที่คอยปกป้องเราจากศัตรูที่จะบุกเข้ามาทำร้ายเรา ภูมิคุ้มกันก็เปรียบเสมือนทหารที่ต้องคอยต่อสู้กับศัตรูเหล่านั้น ศัตรูที่จะมาทำร้ายเราก็อย่างเช่น เชื้อโรค สารพิษ ฝุ่นควัน ต่างๆที่เราเจอในชีวิตประจำวัน

ทหารกล้า (ภูมิคุ้มกัน) เม็ดเลือดขาว เปรียบเหมือนทหารที่จะทำหน้าที่กลืนกินเชื้อโรคต่างๆ แอนติบอดี และเซลล์นักฆ่า เหมือน ทหารที่จะคอยจับกุมเชื้อโรคร้าย และทำลาย นั่นเอง

9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานได้ทุกวัน ป้องกันป่วยง่าย

9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน

จากที่เกริ่นไปว่าภูมิคุ้มกันก็เหมือนกับทหารที่คอยปกป้องร่างกายเรา บทความนี้เราจะมาดูกันว่าเราจะเพิ่มทหาร (ภูมิคุ้มกัน) เข้าสู่ร่างกายเราได้จากการกินของเราแบบไหนได้กับ 9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานได้ทุกวัน ป้องกันป่วยง่าย! เพียงเพิ่ม อาหารบางอย่าง หรือ หลายๆอย่าง จากบทความนี้ ลงไปในมื้ออาหาร คุณเองก็มีได้นะ ร่างกายที่แข็งแรงน่ะ

1.บร็อคโคลี่

บร็อคโคลี่เป็นผักที่เต็มไปด้วยสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพเช่น สังกะสีหรือ ซิงค์ (Zinc) ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ และสังกะสียังช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆอีกด้วย นอกจากนี้บร็อคโคลี่ยังมีสารอาหารอย่าง วิตามินซี เบต้าแคโรทีน สารซัลโฟราเฟน และใยอาหารที่ เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย ถ้าเป็นไปได้ให้ทานบร็อคโคลี่ประมาณวันละ 1 ถ้วย เพื่อสุขภาพที่ดี

2.อาหารรสเปรี้ยว

คนสมัยก่อนจะได้รับข่าวแบบผิดๆว่าเป็นหวัด เป็นไข้ ไม่ให้กินส้ม เพราะเดี๋ยวจะทำให้เป็นลมชักได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะส่วนใหญ่ถ้าเด็กเป็นหวัดไปหาหมอ มักจะได้ยาลดไข้ และ วิตามินซีกลับมาด้วย นั่นก็เพราะว่า วิตามินซีช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ วิตามินซีช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และอีกอย่างคือ ร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินซีหรือเก็บไว้ได้ วิตามินซีส่วนเกินจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แต่ถึงอย่างนั้นปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวันก็เพียงแค่ 2,000 มิลลิกรัม ไม่ควรกินมากกว่านี้ ถ้ากินวิตามินซีแล้วเกิด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ให้หยุดจนกว่าอาการจะดีขึ้นแล้วค่อยกลับมากินใหม่

3.ขิง

ขิง เป็นที่รู้จักมานานกว่า 5,000 ปี มักนิยมนำมาปรุงอาหาร เครื่องดื่ม และยา ในโซนเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะการนำขิงมาทำเป็นยาแผนโบราณในประเทศจีน สรรพคุณของขิงมักจะได้ยินกันผิวเผินแค่ว่า แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม บรรเทาอาการอาเจียน แต่สรรพคุณที่ทำงานภายในจริงนั้นน้อยคนจะรู้ ขิงนั้นทั้งสามารถกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ให้ทำลายเชื้อโรคต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ลดการอักเสบเรื้อรังต่างๆ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันกันๆ ดังนั้นถ้าใครเป็นหวัด หรือ ภูมิแพ้บ่อยๆ การกินขิง หรือ น้ำขิง จะช่วยให้ความรุนแรงของอาการลดลดได้

4.มันหวาน

มันหวานมีสารอาหารมากมายอย่าง เบต้าแคโรทีน แมงกานีส วิตามินซี ใยอาหาร โพแทสเซียม และอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถือว่าเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายเลยก็ว่า ทั้งบำรุงสายตา ป้องกันผิวแห้ง ลดความเสื่อมของเซลล์ ช่วยระบบขับถ่าย ระบบเผาผลาญ บำรุงกระดูก เสริมสร้างภูมุคุ้มกัน บำรุงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แถมยังควบคุมความดันโลหิตได้อีกด้วย

5.ผักโขม

ผักโขมพลังป๊อบอายที่หลายๆคนเคยเห็นในกาตูน กินแล้วเพิ่มพลัง มีแรงเยอะ ความจริงแล้วก็ไม่ได้ต่างจากกาตูน เพียงแต่ กินแล้วจะไม่ได้มีพลังเยอะขนาดนั้น ผักโขมนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารมากมายถือว่าเป็นอาหารเสริมภูมิคุ้มกันได้อย่างดีและยังมีหลายฉายาด้วย อย่าง Superfood หรือ ราชินีแห่งผักใบเขียว เพราะจากสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายช่วยทำให้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสร บำรุงกระดูก ต้านการแข็งตัวของ สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ควบคุมความดัน บำรุงสายตาและอื่นๆอีกมากมายเลยทีเดียว

6.โยเกิร์ต

โยเกิร์ตกินง่าย กินทุกวันดีทุกวัน เพราะโยเกิร์ตมีทั้ง โปรไบโอติก แคลเซียม วิตามินดี โปรตีน โพแทสเซียม ที่มีประโยชน์ อย่างโปรไบโอติก หรือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ทำให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดียิ่งขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน  แคลเซียมก็ยังบำรุงกระดูกและป้องกันฟันผุ แถมวิตามินดีในโยเกิร์ตยังทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโปรตีนที่เสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย

7.อัลมอนด์

ปกติแล้วแอลมอนด์คนมักจะรู้อยู่แล้วว่าดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะไขมันในอัลมอนด์ที่เป็นไขมันดี (HDL) ที่จะไปช่วยลดไขมันเลว(LDL) ในหลอดเลือด ส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือดและระบบหัวใจ นอกจากแอลมอนด์จะมีดีเรื่องไขมันดีแล้วนั้น แอลมอนด์ยังมีโปรตีนที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ใยอาหาร ที่ช่วยระบบขับถ่าย แมกนีเซียมที่ควบคุมความดันโลหิต และอื่นๆอีกมากมายที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

8.ชาเขียว

ชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาดำ ต่างเต็มไปด้วยฟลาโวนอยด์หรือก็คือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดีต่อร่างกาย แต่ที่เด่นกว่าคือ สารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า epigallocatechin gallate (EGCG) อีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต ที่มีการวิจัยพบว่า EGCG นั้นอาจมีส่วนช่วยต้านไวรัส ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น (ชาที่ผ่านกระบวนการหมัก EGCG จะถูกทำลาย แต่ชาที่ไม่ได้หมัก หรือชาที่ถูกนึ่ง สาร EGCG จะถูกเก็บรักษาไว้ดังเดิม)

9.กระเทียม

กระเทียม สมุนไพรที่มีการใช้มามากกว่า 5 พันปีแล้ว ไม่ว่าจะใช้ประกอบอาหาร ใช้เป็นยารักษา กระเทียมขึ้นชื่อเรื่องประโยชน์ต่อร่างกาย โดยองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้แนะนำว่า ในผู้ใหญ่ สามารถทานกระเทียมได้ 2-5 กรัมต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี แต่การจะกินกระเทียมให้เกิดประโยชน์นั้นจำเป็นต้องทุบก่อนกิน เพื่อให้เอนไซม์อัลลิเนส (Alliinase) ที่อยู่ในเซลล์ของกระเทียมสัมผัสกับสารไอโอไดด์ ที่ทำให้เกิดอัลลิซินได้ง่ายขึ้น (กระเทียมสดจะมีสารอัลลิซินมากกว่ากระเทียมที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว)

สรุป

ใน 9 อาหารเสริมภูมิคุ้มกันนี้ ล้วนเป็นอาหารที่หาทานกันได้ง่ายๆ แต่ทุกอย่างล้วนดีต่อภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม การเพิ่มอาหารเหล่านี้ลงไปในแต่ละมื้ออาหารได้ ถือว่าเป็นส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้อย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพราะอะไรที่มากเกินไปไม่เคยดีต่อสุขภาพ ด้วยความปราถนาดีจากโปรทริว่า น้ำมันสกัดเย็นเกรดพลีเมี่ยม

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ