อะโวคาโด บำรุงอะไรบ้าง 8 ประโยชน์ที่สายรักสุขภาพต้องรู้

อะโวคาโด บำรุงอะไรบ้าง ? 8 ประโยชน์ที่สายรักสุขภาพต้องรู้

อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนรักสุขภาพทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ต่างจากผลไม้ทั่วไป เพราะมีปริมาณไขมันดีสูง และมีสารอาหารที่หลากหลาย เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ส่งผลดีต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายอย่างรอบด้าน

อะโวคาโด บำรุงอะไรบ้าง ? 8 ประโยชน์ที่สายรักสุขภาพต้องรู้

อะโวคาโด ผลไม้เนื้อเนียนนุ่ม รสชาติอร่อยมัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า อะโวคาโด บำรุงอะไรบ้าง ในร่างกายของเรา ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าผลไม้ชนิดนี้มีดีอย่างไร บำรุงส่วนไหนของร่างกายบ้าง พร้อมเจาะลึก 8 ประโยชน์สำคัญที่คนรักสุขภาพต้องรู้

 

1. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด

การกินอะโวคาโดมีประโยชน์อย่างมากในการ ปกป้องดูแลหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการ ปรับสมดุลระดับไขมันในร่างกาย ของเราครับ มีการศึกษาพบว่า สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การกินอะโวคาโดวันละ 1 ผล เป็นเวลา 5 สัปดาห์ จะช่วยให้ลดระดับ ลดคอเลสเตอรอล “ไม่ดี” (LDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่ก่อให้เกิดการสะสมในหลอดเลือดแดง และเพิ่มคอเลสเตอรอล “ดี” (HDL) ซึ่งเป็นไขมันที่ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกายนอกจากนี้ การกินอะโวคาโดเป็นประจำยังช่วย ปรับปรุงภาพรวมของไขมันในเลือดให้ดีขึ้น หรือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้นั่นเองค่ะ (1)

 

2. บำรุงสายตา

ในอะโวคาโดมีสารสำคัญอย่าง ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนแว่นกันแดดธรรมชาติให้กับดวงตาของเราเลยทีเดียว โดยมันจะช่วยดูดซับคลื่นแสงที่เป็นอันตรายต่อการมองเห็นได้ และพบว่าคนที่กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ในจำนวนมาก จะมีโอกาสเป็น โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย น้อยลงมาก ซึ่งโรคนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุตาบอดได้นั้นเองค่ะ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่ในอะโวคาโดจะกระจุกตัวอยู่ใน เนื้อสีเขียวเข้ม ที่อยู่ใกล้กับเปลือกมากที่สุด (2)

 

3. บำรุงผิวพรรณ

อะโวคาโดอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว แคโรทีนอยด์ และสารประกอบฟีนอลิก ซึ่งประโยชน์ของการกินอะโวคาโด ที่ไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพภายใน แต่ยังส่งผลดีต่อ ผิวพรรณ ภายนอกอีกด้วย โดยข้อมูลจากการวิจัยพบว่าการกินอะโวคาโดเป็นประจำทุกวัน อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ ผิวหน้าของผู้หญิงมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเรื่องของ ความยืดหยุ่นและความกระชับเพิ่มขึ้นค่ะ (3)

 

4. บำรุงกระดูก

โดยทั่วไป คนส่วนใหญ่มักกินอะโวคาโดประมาณครึ่งลูกต่อครั้ง ซึ่งให้วิตามินเคประมาณ 15% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งวิตามินเคเป็นสารอาหารสำคัญที่อาจช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และลดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักได้  (2)

 

5. บำรุงสมองและระบบประสาท

อะโวคาโดอุดมไปด้วย วิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่อาจมีบทบาทในการ ปกป้องสมอง ของเรา วิตามินอีในอะโวคาโดอาจช่วย ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และ ชะลอการเสื่อมถอยของความจำ รวมถึง ทักษะการคิด ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นได้ ประโยชน์เหล่านี้เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ของวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถช่วยต่อสู้กับความเสียหายของเซลล์สมองที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น มลภาวะ และรังสีจากดวงอาทิตย์ในระยะยาว(1)

 

6. ปรับปรุงอารมณ์

อะโวคาโดหนึ่งถ้วยให้โฟเลตประมาณ 118 ไมโครกรัม หรือคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ โฟเลตเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพจิต มีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพออาจมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ามากขึ้น และอาจตอบสนองต่อยาต้านซึมเศร้าได้น้อยลง นอกจากนี้ โฟเลตยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทของทารกในครรภ์ จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์และคุณแม่มือใหม่ด้วยนะคะ  (2)

 

7. บำรุงกระดูก

วิตามินเคในอะโวคาโดเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีนที่ช่วยให้แคลเซียมยึดเกาะกับกระดูกได้ดีขึ้น ซึ่งต่างจากแคลเซียมเพียงอย่างเดียวที่ต้องอาศัยตัวช่วยในการนำไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีแมกนีเซียมและโบรอน ซึ่งเป็นแร่ธาตุรองที่มีผลต่อการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในระยะยาวอีกด้วย (2)

 

8. ช่วยคุมน้ำหนัก

การรับประทานไขมันดีมีส่วนช่วยชะลอการระบายของอาหารออกจากกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น และช่วยลดความหิวระหว่างวัน อะโวคาโดจัดเป็นแหล่งของไขมันดี โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) ซึ่งไม่เพียงดีต่อหัวใจ แต่ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มอย่างมีประสิทธิภาพมีข้อมูลระบุว่า การเพิ่มอะโวคาโดเพียงครึ่งลูกลงในมื้ออาหาร อาจช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว  (1)

 

กินอะโวคาโดก่อนนอนได้ไหม

ได้ค่ะ อะโวคาโดจัดเป็นสุดยอดอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณเหมาะสม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบในอะโวคาโดมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งของแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ส่งผลให้ร่างกายสงบลง และสนับสนุนการนอนหลับที่ลึกและมีคุณภาพ การกินอะโวคาโดในปริมาณเล็กน้อยก่อนนอน อาจช่วยให้รู้สึกอิ่มพอดี และไม่รบกวนระบบย่อยอาหาร (5)
แต่อย่างไรก็ตามค่ะ อะโวคาโดมีแคลอรี่สูง หากกินในปริมาณมากเกินไปก่อนนอน ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานมากนัก อาจทำให้พลังงานส่วนเกินสะสมเป็นไขมันได้ โดยเฉพาะถ้าต้องการควบคุมน้ำหนัก ดังนั้นแนะนำให้ทานแบบพอดี

 

อะโวคาโดห้ามกินร่วมกับอะไร

ควรหลีกเลี่ยงการกินอะโวคาโดร่วมกับผลิตภัณฑ์จากนม อาหารแปรรูป หรืออาหารที่มีสารเติมแต่ง เพราะอาจส่งผลต่อการย่อยและการดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้อย่างไม่สมดุล นอกจากนี้ ไม่ควรกินอะโวคาโดร่วมกับแอลกอฮอล์ เพราะอาจรบกวนการทำงานของตับและลดความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย นอกจากนี้เจ้าอะโวคาโดมีรสชาติอ่อนนุ่ม จึงอาจไม่เข้ากันนักกับผลไม้รสเปรี้ยวจัดหรืออาหารรสเผ็ด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อนหรือความไม่สบายในระบบทางเดินอาหารได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบย่อยอาหารไวค่ะ (4)

summarize

สำหรับคำถาม อะโวคาโด บำรุงอะไรบ้าง หลายคนคงได้รับคำตอบแล้วนะคะ เจ้าอะโวคาโดถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถบำรุงสุขภาพได้หลากหลายด้าน ทั้งระบบหัวใจ ผิวพรรณ ดวงตา ไปจนถึงสมองและกระดูก การกิรอะโวคาโดในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ สามารถเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่เน้นการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

 

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: Avocado

References

1.health: 9 ประโยชน์ด้านสุขภาพของอะโวคาโด

2.Webmd:ประโยชน์ต่อสุขภาพของอะโวคาโด

3.National Research Council of Sclence & Technology: การบริโภคอะโวคาโดช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหนังในผู้หญิง – การศึกษานำร่อง

4.timesofindia: 9 อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อทานคู่กับอะโวคาโด

5.vogue: 7 อาหารดีต่อระบบเผาผลาญที่ควรทานก่อนนอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Other articles