ตา เป็นอวัยวะที่ค่อนข้างซับซ้อนอย่างมาก แถมยังต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันมากมายเพื่อให้ดวงตามีสุขภาพดี แต่ถ้าไม่มีการบำรุง ดูแลเลยเมื่ออายุมากขึ้น อาจทำให้เป็นจอประสาทตาเสื่อมได้เร็วกว่าคนอื่นๆ หรือถ้าเป็นเบาหวานอยู่ อาจลุกลามเป็นเบาหวานขึ้นตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุดได้
9 อาหารบํารุงสายตาที่ดีที่สุด
9 อาหารบํารุงสายตาที่ดีที่สุดต่อไปนี้ ถ้าเพิ่มลงไปในอาหารแต่ละมื้อได้จะดีมากๆ ในการบำรุงสายตา เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อดวงตาอย่าง วิตามินเอ วิตามืนซี โมก้า 3 และสารอาหารอื่นๆที่ดีต่อร่างกาย บางอย่างอาจไม่ได้บำรุง แต่เป็นการถนอมดวงตา ให้ดวงตาสุขภาพดี เมื่ออายุมากขึ้น
1.ถั่ว
ถั่วมีวิตามินอี สูงและยังเต็มไปด้วยกรดโอเมก้า 3 ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อมจากอายุ และป้องกันต้อกระจกได้ การเพิ่มถั่วลงไปในมื้ออาหารแต่ละมื้อ จึงเป็นตัวเลือกในการบำรุงสายตาได้ดี นอกจากถั่วจะบำรุงสายตาแล้ว การกินถั่วยังช่วยให้อิ่มนานขึ้น และถั่วยังมีไขมันดี (HDL) ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ถั่วที่ควรกิน
- ถั่วลิสง
- ถั่วฝักยาว
- อัลมอนด์
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์
2.เมล็ดพืช
เมล็ดพืชมีสารอาหารเช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่ว ที่มีโอเมก้า 3 สูง และยังอุดมไปด้วยวิตามินอีอีกด้วย
เมล็ดพืชที่ควรกิน
- เมล็ดทานตะวัน
- เมล็ดเจีย
- เมล็ดแฟลกซ์
- เมล็ดป่าน
3.ผลไม้รสเปรี้ยว
ในผลไม้รสเปรี้ยว เต็มไปด้วยวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยปรับปรุงสุขภาพของดวงตาได้ นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยป้องกันและฟื้นฟูการอักเสบของดวงตาได้อีกด้วย
ผลไม้รสเปรี้ยวที่ควรกิน
- ส้ม
- ส้มโอ
- มะนาว
4.ผักใบเขียว
ผักใบเขียวเต็มไปด้วยสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะลูทีน ซีแซนทีน และวิตามินซี ที่ดีต่อดวงตา การกินผักใบเขียวอาจช่วยป้องกันภาวะที่จะเกิดกับตาที่รุนแรงได้
ผักใบเขียวที่ควรกิน
- คะน้า
- ผักโขม
5.แครอท
ผมเอาแครอทมาฝาก อยากให้เธอได้กิน ผักมีวิตามิน ไม่ต้องกินของแพง แฮร่!
เพลงที่อาจจะคุ้นหูหลายๆคน ใช่แล้ว แครอทดีต่อทั้งสุขภาพร่างกาย และสุขภาพดวงตา แครอทนั้นเต็มไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ช่วยป้องป้องผิวของดวงตา และป้องกันการติดเชื้อบริเวณตา เพื่อไม่ให้เกิดภาวะที่รุนแรงต่อตาอีกด้วย
6.ปลา
การกินปลาอย่างน้อยๆ 2 มื้อ ต่อสัปดาห์ จะทำให้เป็นตาปลา แฮร่ ไม่ใช่แล้ว
มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการกินปลาอย่างน้อยๆ 2 สัปดาห์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวกับอายุได้
และนักวิจัยยังพบอีกว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย บางการศึกษายังพบว่า น้ำมันปลา สามารถย้อนกลับตาแห้งได้อีกด้วย
ปลาที่ควรกิน
- ปลาทู
- ปลาซาร์ดีน
- ปลาแซลมอน
7.ไข่
ไข่อาหารที่ราคาถูก (มั้ง) และยังดีต่อสุขภาพดวงตาอีกด้วย ในไข่แดงมีวิตามินเอ สังกะสี (Zinc) ลูกทีน ซีแซนทีน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนสำคัญต่อดวงตาทั้งวัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันในเลือด ไม่ควรกินไข่แดงเยอะเกินไป เพราะไข่แดง มีไขมันเลว (LDL) ที่มีดีต่อหลอดเลือด แต่กินไข่ขาวได้ปกติ
8.เนื้อวัว
ในเนื้อวัวมีสังกะสี (Zinc) ที่มีส่วนเชื่อมโยงในระยะยาวของสุขภาพตา สังกะสี (Zinc) ช่วยชะลอการสูญเสียการมองเห็นจากอายุที่มากขึ้น และช่วยลดจอประสาทตาเสื่อมอีกด้วย
ในตามีระดับสังกะสี (Zinc) สูง ทั้งในเนื้อเยื่อ หลอดเลือดรอบจอประสาท และจอประสาท
โน๊ต : เนื้่อหมู เนื้อไก่ก็มี สังกะสี (Zinc) เหมือนกัน แค่มีในปริมาณที่น้อยกว่าเนื้อวัว
9.น้ำเปล่า
การดื่มน้ำอย่างน้อยๆ 8 แก้ว ต่อวันนั้นดีต่อร่างกาย แต่ให้จิบทั้งวัน แทนการดื่มครั้งละมากๆทีเดียว เพื่อไม่ให้เกิดการบวมน้ำนะ
การดื่มเป็นอาหารบํารุงสายตาที่ดีที่สุดได้ไง ? จะบอกว่าบำรุงดีที่สุดเลยก็ไม่ได้ เพราะน้ำมีส่วนทำให้อาการตาแห้งดีขึ้น แต่ถ้าตาแห้งแล้วไม่ได้รับการดูแล ก็อาจนำมาซึ่งอาการปวดตา มองภาพไม่ชัด และปวดหัวตามมา ทำให้สุขภาพตาเสีย
น้ำเปล่าที่ควรกิน
- น้ำเปล่าไม่ผสมอะไร
- น้ำแร่
- น้ำเปล่าที่ไม่ใช่โซดา (โซดาอาจทำให้ฟันไม่แข็งแรง)
9 อาหารที่ไม่ดีต่อสายตา
1.ขนมปังและพาสต้า
มีการวิจัยว่า คาร์โบไฮเดรตในขนมปังและพาสต้า อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้ เพราะเมื่อร่างกายย่อยคาร์โบไฮเดรตเร็วๆ จะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้
ถ้าอยากกินขนมปัง แนะนำเป็นขนมปังขาว หรือ พาสต้าที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ดจะดีกว่า
2.เนื้อสัตว์ประรูป
ในเนื้อสัตว์แปรรูปต่างเต็มไปด้วยโซเดียม ซึ่งปริมาณโซเดียมที่สูงจะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ และจะทำให้เกิด ความดันโลหิตสูงขึ้นจอประสาทตา เกิดการสะสมของของเหลวใต้จอประสาทตา เส้นประสาทตาอุดตัน ร้ายแรงสุดอาจสูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด
3.อาหารทอด
ในอาหารที่ทอดด้วยไขมันทรานส์ เป็นตัวการทำให้ระดับไขมันเลว (LDL) เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดโรคหลอดเลือด โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน แถมยังสร้าง อนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ทั้งหมดในร่างกาย รวมถึงตาอีกด้วย
นอกจากนี้การเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เกี่ยวกับการทานไขมันเลว (LDL) ยังเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขึ้นตา ทำให้เริ่มมีจุดดำๆรบกวนการมองเห็น และสูญเสียการมองเห็นไปในที่สุดได้อีกด้วย
4.อาหารกระป๋อง
อาหารสำเร็จรูปในรูปแบบกระป๋องส่วนใหญ่แล้วมักมีโซเดียมถึง 75% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
การกินอาหารกระป๋องให้น้อยลงจะช่วยลดโอกาสของการเกิดความดันโลหิตสูง และปัญหาขงอสายตาได้ ถ้าอยากกินอาหารกระป่องให้ลองอาหารกระป๋องที่โซเดียมต่ำ ไม่เติมเกลือแทน
5.เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
ในเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยน้ำตาล 7-10 ช้อนชาต่อขวด เป็นแหล่งของแคลอรี่อันดับต้นๆเลยก็ว่าได้
การกินน้ำตาลในปริมาณมากๆมีส่วนเพิ่มอัตราการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจได้ การเป็นเบาหวานจะเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานขึ้นตา และทำให้สูญเสียการมองเห็นไปในที่สุด
6.ปลาและหอย
คนทั่วไปอาจจะไม่ต้องกังวัลกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่แพ้ปรอท หรือคนท้อง ไม่ควรกินปลาและหอยเกิน 3 มื้อ ต่อสัปดาห์ เพราะอาจเกิดการสะสมของปรอดและเกิดสุขภาพร้ายแรงอื่นๆตามมาได้
โน๊ต ควรกินปลาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และไม่ควรกินปลาเช่นปลาฉลามหรือ ปลาตัวใหญ่บ่อยๆ สามารถกิน แซลมอน กุ้ง ปลาซาร์ดีนหรือ ปลาขนาดเล็กได้
7.แอลกอฮอล์
ผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่า การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจมีส่วนทำให้เกิดต้กระจกได้ แม้อายุยังน้อยอยู่
แต่การดื่มแอลกอฮอล์ประมาณวันละ 1-2 กระป๋องนั้นดีต่อสุขภาพในหลายๆด้าน
8.คาเฟอีน
การดื่มกาแฟหรือชาที่มีคาเฟอีนในตอนเช้า อาจมีส่วนเพิ่มความดันภายในดวงตาได้ มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า ความดันภายในดวงตานี้ อาจมีส่วนทำให้เกิดต้อหิน หรือ ความดันตาสูง การได้รับคาเฟอีนสูงเกินไป อาจทำให้ปัญหาต่างๆต่อดวงตา ร้ายแรงถึงสูญเสียการมองเห็น
9.เนยเทียม
เนยเทียมชนิดที่มีไขมันทรานส์ จะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น และทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และเกิดปัญหากับดวงตาได้
การเลือกเนยที่ไขมันทรานส์ 0 กรัม อาจช่วยได้