เคล็ด (ไม่) ลับ รวม 8 วิธีแก้ปวดประจำเดือน เร่งด่วน 

เคล็ด (ไม่) ลับ รวม 8 วิธีแก้ปวดประจำเดือน เร่งด่วน 

อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นปัญหาที่สาวๆ หลายคนต้องเผชิญ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ หรือการใช้สมุนไพร ก็สามารถช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้อย่างสบายๆ ค่ะ

เคล็ด (ไม่) ลับ รวม 8 วิธีแก้ปวดประจำเดือน เร่งด่วน

อาการปวดท้องประจำเดือนเป็นเรื่องที่สาว ๆ หลายคนคุ้นเคยดี ในบทความนี้เรามี วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน เร่งด่วน มาฝากกันค่ะ อาการดังกล่าวบางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางคนอาจต้องทนทุกข์กับความปวดจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลและบรรเทาอาการอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ลองไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง 

1. การประคบร้อน

การประคบร้อนเป็นวิธีบรรเทาอาการปวดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะความร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัวและลดการเกร็งของมดลูกได้อย่างดี ใช้แผ่นประคบร้อนหรือถุงน้ำร้อนวางไว้บนหน้าท้องล่างหรือหลังส่วนล่างประมาณ 15-20 นาที ความอบอุ่นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความตึงเครียด และบรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว  (1)

 

2. ดื่มชาสมุนไพรอุ่น ๆ

เครื่องดื่มอุ่นอย่างชาสมุนไพร เช่น ชาขิง ชามินต์ หรือชาคาโมมายล์ มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ชาขิงยังช่วยลดอาการคลื่นไส้ที่บางคนอาจพบร่วมกับการปวดประจำเดือน ส่วนชาเขียวหรือชามินต์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดความเครียด นอกจากนี้ ชาสมุนไพรเหล่านี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น บรรเทาความเครียดและช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ (3)

 

3. นวดเบา ๆ บริเวณหน้าท้อง

การนวดด้วยน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันลาเวนเดอร์ น้ำมันมะพร้าว ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี เทคนิคการนวดที่แนะนำคือการใช้ปลายนิ้วนวดวนเป็นวงกลมเบา ๆ บริเวณหน้าท้องล่าง วิธีนี้ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต (1)

 

4. ยืดเส้นและออกกำลังกายเบา ๆ

การยืดเส้นหรือออกกำลังกายแบบโยคะช่วยลดอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่าโยคะง่าย ๆ ช่วยยืดกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลองยืดเส้นอย่างช้า ๆ และสังเกตร่างกายของตัวเอง  ค้างท่าไว้ 30 ถึง 60 วินาที แต่ไม่ต้องฝืนตัวเองหากรู้สึกไม่ดี (1)

 

5. ทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง

อาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม เช่น อะโวคาโด ถั่ว เมล็ดฟักทอง และกล้วย ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและบรรเทาความปวดได้ แมกนีเซียมยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน และลดอาการอ่อนเพลีย

 

6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำมาก ๆ เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน การดื่มน้ำช่วยขับของเสียและลดอาการบวมน้ำที่อาจทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้น เลือกน้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิห้องแทนการดื่มน้ำเย็นเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร

 

7. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและลดความตึงเครียด ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วงนี้ 

 

8.ไซเลี่ยมฮัสค์

ไซเลียมฮัสค์ อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้หญิงด้วย การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคเปลือกไซเลียมเป็นประจำสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) เช่น ท้องอืดและหงุดหงิดได้ (4)

อ่านบทความเกี่ยวกับไซเลียมฮัสค์ได้ที่: ความลับ ไซเลี่ยมฮัสค์ ประโยชน์ 7 ข้อ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

 

8. ใช้ยาแก้ปวด

หากอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล พอนสแตน อาจเป็นตัวช่วยที่เหมาะสม แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของเภสัชกรเสมอ

 

พอนสแตนแก้ปวดอะไรได้บ้าง

พอนสแตนเป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดประจำเดือน ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดข้อ โดยยาชนิดนี้จะเข้าไปยับยั้งการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงช่วยลดอาการปวดและทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนรับประทานพอนสแตน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณนะคะ

 

ใช้อะไรแทนกระเป๋าน้ำร้อน

ใช้ขวดน้ำร้อนหรือผ้าชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณท้องน้อย หรือแช่น้ำอุ่นอุ่นๆ ก็สามารถช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้แล้วค่ะ ความร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดได้

 

นอนท่าไหนไม่ให้ปวดท้องเมนส์

การนอนหงายอาจช่วยลดอาการปวดประจำเดือนขณะนอนหลับได้ เพราะการนอนหงายจะช่วยลดแรงกดที่หน้าท้อง ซึ่งอาจช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้ดีกว่าการนอนคว่ำหน้า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการนอนหงาย ยังสามารถลดอาการปวดหลังได้อีกด้วย (9)

 

แหล่งอ้างอิง

1.หยุดอาการปวดประจำเดือนทันที: วิธีดูแลตัวเอง

2.ท่านอนแก้ปวดประจำเดือนและวิธีรักษา – MedicalNewsToday

3.13 วิธีในการหยุดอาการปวดประจำเดือน

4.ไซเลียมฮัสก์มีประโยชน์อะไรบ้าง?

 

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

Skip to content