กระดูกเสื่อม เกิดจากอะไร
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน บางคนใช้งานร่างกายอย่างหนักมาตลอด ทำให้ข้อต่อต่างๆตามร่างกายถูกทำลายมาเรื่อยๆ รวมถึงอายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยงกระดูกได้น้อยลง และทำให้โครงสร้างกระดูกเกิดการเปลี่ยนแปลงจนบางทีอาจผิดรูป รวมไปถึงเส้นเอ็นที่เริ่มหย่อนยาน ส่งผลให้กระดูกและข้อต่อต่างๆ ไม่สามารถรับน้ำหนักตัวได้เหมือนเดิม ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง จนเกิดเสียงดังเวลาขยับตัว
กระดูกเสื่อม ในผู้สูงอายุ ?
ภาวะกระดูกเสื่อม ในผู้สูงอายุคือภาวะที่โครงสร้างของกระดูกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกระดูกข้อต่อต่างๆ เช่นข้อเข่า ข้อเท้า ข้อแขน เป็นต้น แต่โรคกระดูกเสื่อมส่วนใหญ่แล้วนั้นมักจะเสื่อมในกระดูกสันหลังเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเมื่ออายุมาดกขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงของหมอนรองกระดูก และเนื้อเยื่อที่หุ้มกระดูกอยู่
ทำให้เกิดภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมลง จนทำให้กระดูกเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาท ทำให้รู้สึกปวดหลัง ยิ่งปวดมาก ยิ่งหมายถึงกระดูกเสื่อมมาก และนอกจากการอายุที่มากขึ้นแล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีการยกของหนักๆ ทำให้ข้อต่อต่างๆตามร่างกางหรือกระดูกสันหลังทำงานหนักอยู่ประจำ ยิ่งทำให้เกิดกระดูกเสื่อมได้ง่ายขึ้นไปอีก
กระดูกเสื่อม กินอะไรดี
1.ผัก
มีการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซีในผัก อาจมีส่วนช่วยปกป้องเซลล์กระดูกจากความเสียหายได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในผู้หญิง วัยเด็กไปจนถึง ผู้หญิงที่อายุ 50 ปีขึ้นนไป พบว่า การกินผักบ่อยๆ ทำให้ความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนลดลงถึง 20% เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่กินผักอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ควรเลี่ยงผักอย่างเช่น ผักโขม และหน่อไม้ เป็นต้น เพราะมีสาร ออกซาเลต ที่ไม่ดีต่อกระดูก
2.ไข่
การกินไข่นั้นดีต่อสุขภาพมาก เพราะในไข่มีโปรตีนคุณภาพสูงอยู่ และยังมีวิตามินดีซึ่งดีต่อกระดูกในการดูดซับแคลเซียมอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามไข่แดงมีไขมันเลว (LDL) อยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คนปกติสามารถกินไข่ได้ประมาณ 7-12 ฟอง ต่อสัปดาห์ ได้ ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องของไขมันในเลือด ไม่แนะนำให้กินไข่แดง อย่างไรก็ตาม การกินเฉพาะไข่ขาว สามารถกินแค่ไหนก็ได้ ตามที่ต้องการ เพราะไข่ขาว ดีต่อสุขภาพ และไม่อันตรายอีกด้วย
3.นม
นมคือแหล่งที่ดีที่สุดของแคลเซียม และนมยังเป็นที่แนะนำที่สุด สำหรับการบำรุงกระดูก ในนม 1 ถ้วย มีแคลเซียมถึง 300 มิลลิกรัม หรือประมาณ 30% ที่ร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว และควรเลือกนมที่มาจากพืช เพราะนมจากพืชมีแคลเซียมและวิตามินดีมากกว่านมวัวทั่วๆไป
4.โยเกิร์ต
เนื่องจากโยเกิร์ตทำมาจากนม เลยไม่แปลกที่การกินโยเกิร์ตจะเป็น 1 ใน ตัวเลือกในการบำรุงกระดูก แถมยังมีการศึกษาอีกว่า การกินโยเกิร์ตทำให้มีการสร้างกระดูกมากขึ้นอีกด้วย